2 ธ.ค. 2024 เวลา 10:42 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 183

ปะเกาหาร้ายไม่ (1) เกาฉิวออกศึก
 
ถงก้วน ปี้เสิ้งรวบรวมทหารแตกทัพรายทางได้ราวสี่หมื่นคน จึงให้นายทัพแต่ละเมืองนำทหารเดนตายกลับไปเมืองของตน ส่วนตนเองนำเฉพาะทหารจากเมืองหลวงกลับมายังตงจิง ผัดเปลี่ยนชุดแล้วก็รีบมาหาเกาไท่เว่ยเล่าถึงเรื่องที่พ่ายศึกยับเยินสองครั้งเสียทหารจำนวนมาก เฟิงเหม่ยก็ถูกจับเป็นไป ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
เกาไท่เว่ยว่า “ซูเซี่ยงอย่าเพิ่งวิตก เรื่องนี้เราปิดบังองค์เหนือหัวเอาไว้ก่อน คนอื่นใครจะกล้ากราบทูล ท่านกับข้ารีบไปพบท่านราชครู หารือดูว่าควรทำอย่างไร”
ถงก้วน เกาฉิวขึ้นม้ามายังจวนราชครูไฉ้ ไฉ้จิงรู้ล่วงหน้าแล้วว่าถงก้วนกลับมาตงจิงแล้ว ทั้งยังแตกทัพมา บัดนี้มาพร้อมกับเกาฉิว จึงให้เชิญมาพบยังห้องหนังสือ
ถงก้วนกราบคารวะราชครูแล้วน้ำตาไหลพราก
ไฉ้จิงว่า “อย่าเพิ่งวิตก ข้ารู้เรื่องที่ท่านแตกทัพมาแล้ว”
เกาฉิวว่า “พวกโจรอาศัยหนองน้ำ หากไม่มีเรือก็ไม่อาจโจมตี ซูมี่ท่านมีเพียงทัพบก จึงได้เสียทีต้องกลอุบายโจร”
ถงก้วนจึงเล่าถึงรายละเอียดที่ตนแตกทัพสูญเสียกำลังทหาร
ไฉ้จิงว่า “ท่านเสียกำลังทหารและเสบียงไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งทัพจากแปดหัวเมือง เรื่องนี้จะให้ถึงพระกรรณได้อย่างไร”
ถงก้วนกราบอีกว่า “ขอท่านไท่ซือได้โปรดช่วยปิดบัง ช่วยเหลือชีวิตข้าด้วย”
ไฉ้จิงว่า “พรุ่งนี้ กราบทูลเพียงว่า ช่วงนี้อากาศร้อนจัด เหล่าทหารไม่คุ้นเคยภูมิประเทศ จำต้องพักทัพถอยกลับชั่วคราว แต่หากทรงพิโรธว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องร้อนในพระทัย ไม่รีบกำจัดทิ้งไว้จะเป็นภัย” จะตอบพระองค์เช่นไร”
เกาฉิวว่า “อย่าหาว่าเกาฉิวโอ้อวด หากท่านไท่ซือรับรองให้เกาฉิวเป็นผู้นำทัพไปปราบ คงราบเป็นหน้ากลอง”
ไฉ้จิงว่า “หากท่านไท่เว่ยยอมไปด้วยตัวเอง นับเป็นเรื่องที่ดี พรุ่งนี้จะได้กราบทูลรับรองให้ท่านไท่เว่ยได้เป็นแม่ทัพ”
เกาฉิวว่า “ยังมีอีกข้อ ในพระราชโองการให้เกณฑ์ทัพ ยังจำเป็นต้องใช้เรือ ไม่ว่าจะเป็นเรือหลวงหรือเรือราษฎร หรือต้องกะเกณฑ์จัดซื้อไม้มาเพื่อต่อเรือ ทัพบกทัพเรือบุกโจมตีพร้อมกัน จึงจะสำเร็จผล”
ไฉ้จิงว่า “เรื่องนี้ไม่ยาก”
ขณะหารือกันอยู่นั้น เจ้าหน้าที่เฝ้าประตูมาแจ้งว่า “ท่านเฟิงเหม่ยกลับมาถึงแล้ว”
ไฉ้จิงให้นำตัวมาพบ เฟิงเหม่ยเล่าเรื่องแต่ครั้งถูกจับเป็น ซ่งเจียงปล่อยตัวมา ทั้งยังให้เงินค่าดินทางมาด้วย
เกาฉิวว่า “นี่เป็นแผนชั่วของพวกโจร จงใจถ่วงเวลา ทัพที่จะเกณฑ์ไปครั้งใหม่นี้ จะไม่เกณฑ์จากหัวเมืองใกล้เคียงซึ่งถูกเกณฑ์มาแล้ว เกาฉิวจะไปเกณฑ์เอาจากซานตง เหอเป่ย”
ไฉ้จิงว่า “ในเมื่อตกลงกันได้แล้ว พรุ่งนี้ก็พบกันในวังต่อเบื้องพระพักตร์”
เช้าวันรุ่งขึ้น ยามห้าสามเตี่ยน หลังลั่นกลองเรียกประชุมเช้า ไฉ้จิงกราบทูลในท้องพระโรงว่า “ที่ได้มีพระราชโองการให้ซูมี่สื่อนำทัพไปปราบพวกโจรเขาเหลียงซานนั้น บัดนี้ย่างเข้าฤดูร้อน อากาศร้อนจัด ทหารไม่คุ้นเคยสภาพภูมิประเทศ อีกทั้งพวกโจรอาศัยในหนองน้ำ จำเป็นต้องใช้ทัพเรือ ลำพังทัพบกที่ยกไปไม่อาจเข้าโจมตี จึงได้ล่าทัพกลับมาชั่วคราว รอพระบัญชาต่อไป”
โอรสสวรรค์ว่า “เมื่อว่าอากาศร้อน จะไม่ไปปราบโจรหรือ”
ไฉ้จิงว่า “ถงก้วนคงต้องส่งให้ไท่อีกงพิจารณาโทษ ขอทรงโปรดแต่งตั้งแม่ทัพใหม่ให้ยกทัพกลับไปปราบพวกโจร”
โอรสสวรรค์ว่า “เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งร้อนในหัวอก จำเป็นต้องกำจัด ผู้ใดจะอาสาคลายทุกข์แก่เจิ้น”
เกาฉิวก้าวออกมาทูลว่า “กระหม่อมขออาสา ทุ่มเทกำลังเพื่อปราบพวกโจรนี้ ขอทรงมีพระบัญชา”
โอรสสวรรค์ว่า “เมื่อท่านจะช่วยคลายทุกข์ให้เจิ้น ท่านจะเกณฑ์พลเช่นไร”
เกาฉิวว่า “หนองเหลียงซานมีความยาวโดยรอบแปดร้อยลี้ จำเป็นต้องมีทัพเรือจึงเข้าโจมตีได้ ขอทรงมีพระบัญชาให้จัดหาไม้และนายช่างมาต่อเรือ หรือใช้พระราชทรัพย์หาซื้อเรือของราษฎรเพื่อนำมาใช้ในราชการศึกครั้งนี้”
โอรสสวรรค์ว่า “ท่านเป็นผู้บัญชาการ จัดการตามความเหมาะสม แต่อย่าให้เดือดร้อนแก่ราษฎร”
หลังการประชุมเช้า ถงก้วน เกาฉิว ไปส่งราชครูไฉ้ที่จวน แล้วหารือข้อราชการกัน
เกาฉิวว่า “แต่ก่อนนี้ เจี๋ยตู้สื่อ 节度使 (เทียบผู้ว่าการมณฑลทหาร) ทั้งสิบเคยสร้างผลงานปราบปรามกุ้ยฟาง ซีเซี่ย จินและเหลียว ล้วนมีฝีมือเก่งกล้า ทหารในบังคับบัญชาเข้มแข็ง ควรเกณฑ์มาเพื่อปราบโจรนี้”
ไฉ้จิงเห็นด้วย จึงมีหนังสือให้เจี๋ยตู้สื่อแต่ละแห่งเกณฑ์ทหารชำนาญศึกหนึ่งหมื่นไปสมทบกันที่เมืองจี้โจว 济州 เจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบคือ
หวางห้วน 王焕 เจี๋ยตู้สื่อเหอหนานเหอเป่ย 河南河北
สวีจิง 徐京 เจี๋ยตู้สื่อส้างตั่งไท่หยวน 上党太原
หวางเหวินเต๋อ 王文德 เจี๋ยตู้สื่อจิงเป่ยหงหนง 京北弘农
เหมยจ่าน 梅展 เจี๋ยตู้สื่ออิ่งโจวหยู่หนาน 颍州汝南
จางไค 张开 เจี๋ยตู้สื่อจงซานอันผิง 中山安平
หยางเวิน 杨温 เจี๋ยตู้สื่อเจียงเซี่ยหลิงหลิง 江夏零陵
หานฉุนเป่า 韩存保 เจี๋ยตู้สื่อหยุนจงยั่นเหมิน 云中雁门
หลี่ฉงจี๋ 李从吉 เจี๋ยตู้สื่อหล่งซีฮั่นหยาง 陇西汉阳
เซี่ยงหยวนเจิ้น 项元镇 เจี๋ยตู้สื่อหลางเหยียเผิงเฉิง 琅琊彭城
จิงจง 荆忠 เจี๋ยตู้สื่อชิงเหอเทียนสุ่ย 清河天水
เจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบนี้ ล้วนมีประวัติเดิมเป็นขุนโจรมีลูกน้องฝีมือดี ต่อมาได้รับนิรโทษกรรมเข้ารับราชการสร้างความชอบไว้มากจนมีตำแหน่งสูง เจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบได้รับคำสั่งให้เกณฑ์ทัพไปสมทบที่จี้โจวโดยมิรอช้า หากพลาดกำหนดมีบทลงโทษ
นอกจากทัพบกแล้ว เกาฉิวยังได้เกณฑ์ทัพเรือจากเมืองจินหลิงเจี้ยนคัง 金陵建康府 ถ่งจื้อผู้บัญชาการ 统制官 ชื่อหลิวเมิ่งหลง 刘梦龙 ที่ได้ชื่อนี้เนื่องด้วยเมื่อยามตกฟาก มารดาฝันเห็นมังกรดำบินมาเข้าครรภ์ พอเติบใหญ่มีฝีมือทางน้ำเป็นเลิศ เคยสร้างผลงานปราบโจรที่ซีชวนเสียเจียง 西川峡江 จนได้รับตำแหน่งถ่งจื้อ 统制 บัญชาการทหารเรือหนึ่งหมื่นห้าพัน เรือห้าร้อยลำ รักษาการอยู่เจียงหนาน 江南 เกาไท่เว่ยให้เกณฑ์ทัพเรือนี้มาใช้ในราชการ
นอกจากนั้น เกาไท่เว่ยยังแต่งตั้งคนสนิทผู้หนึ่งชื่อ หนิวปังสี่ 牛邦喜 ให้เป็นนายกองไปตระเวนลำน้ำเกณฑ์เรือชาวบ้านมาใช้งานทัพที่จี้โจว
เกาไท่เว่ยมีผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงเป็นถ่งจื้ออยู่สองคนพี่น้องมีฝีมือเข้มแข็ง คนพี่ชื่อตั่งสื้ออิง 党世英 คนน้องชื่อ ตั่งสื้อสยง 党世雄 จึงให้ทั้งคู่ไปคัดทหารกองทัพหลวงหนึ่งหมื่นห้าพันนายมาเข้าทัพ รวมทหารทั้งสิ้น หนึ่งแสนสามหมื่นนาย ให้หัวเมืองรายทางเกณฑ์เสบียงไปสมทบที่เมืองจี้โจว เกาฉิวเอง ตระเตรียมยุทธภัณฑ์ จัดทำธงทิว รอฤกษ์ออกเดินทัพ
轻事贪功愿领兵,兵权到手便留行。
幸因主帅迟迟去,多得三军数日生。
ดูเบาหวังนำทัพรับผลงาน
อาญาสิทธิ์พระราชทานการรุกถอย
โชคดีเป็นแม่ทัพใหญ่ค่อยเคลื่อนคล้อย
นับวันคอยฤกษ์กำกับทัพเกรียงไกร
ทางด้านไต้จง หลิวถังมาสืบข่าวได้ความชัดเจนจึงเร่งกลับมารายงานทางค่ายเหลียงซาน ซ่งเจียงพอฟังว่าเกาไท่เว่ยจะนำทัพมาเองมีกำลังพลรวมหนึ่งแสนสามหมื่นคน ที่สำคัญมีเจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบมาในกองทัพด้วย ก็รู้สึกตระหนก จึงปรึกษาเรืองนี้กับอู๋ย่ง
อู๋ย่งว่า “ท่านพี่อย่าได้กังวล บัณฑิตผู้น้อยก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของสิบเจี๋ยตู้สื่อมาว่าสร้างผลงานไว้มากมายแก่ราชสำนัก แต่ก่อนนี้ไม่เคยมีคู่ปรับ มาบัดนี้เหล่าพี่น้องของพวกเราเปรียบดังพยัคฆ์สุนัขป่า สิบเจี๋ยตู้สื่อนั้นเป็นอดีตไปแล้ว ท่านพี่จะวิตกไปไย ทั้งสิบทัพที่ยกมา จะได้รับบทเรียนเบื้องต้น”
ซ่งเจียงว่า “ท่านเสธ.จะสั่งสอนบทเรียนใด”
อู๋ย่งว่า “ทัพทั้งสิบจะยกมาสมทบกันที่จี้โจว พวกเราจะส่งขุนพลฝีมือดีสองนายไปตระเวนอยู่ใกล้เมืองจี้โจว คอยโจมตีทัพที่มาถึง เป็นการส่งสารเตือนเกาฉิว”
ซ่งเจียงว่า “ให้ผู้ใดไป”
อู๋ย่งว่า “ศรไร้ขนจางชิง ขุนพลทวนคู่ต่งผิง”
ซ่งเจียงให้ขุนพลทั้งสองนำทัพม้าคนละหนึ่งพันนายไปคอยลาดตระเวนแถบเมืองจี้โจว คอยดักโจมตีทัพที่ยกมา ให้แม่ทัพน้ำตระเตรียมเรือในหนองน้ำไว้ให้พร้อม ให้ขุนพลที่เหลือเตรียมกำลังให้พร้อมไว้
ทางด้านเกาไท่เว่ยเอ้อระเหยอยู่ในเมืองกรุงยี่สิบกว่าวันจนโอรสสวรรค์ต้องทรงเร่งรัดมา ก่อนเดินทัพ เกาฉิวให้คัดเลือกนางรำจากสำนักต่างๆ สามสิบกว่านางติดตามกองทัพไปเพื่อการบันเทิง ถึงวันกำหนดฤกษ์เซ่นธง เป็นต้นฤดูใบไม้ร่วง ท้องฟ้าแจ่มใส ขุนนางน้อยใหญ่พากันมาส่ง เกาไท่เว่ยใส่ชุดเกราะขี่ม้าศึกอานทอง มีห้าม้าอานสลักนำหน้า ซ้ายขวาขุนพลสองพี่น้อง ตั่งสื้ออิง ตั่งสื้อสยง ด้านหลัง เตี้ยนส้วยถ่งจื้อเหล่าผู้บัญชาการทัพ ถ่งจวินถีเสียเหล่านายกอง ทหารม้าองครักษ์ และเหล่าถวนเลี่ยน เป็นกระบวนเกียรติยศอันงามสง่า
匿奸罔上非忠荩,好战全违旧典章。
不事怀柔服强暴,只驱良善敌刀枪。
บังเบื้องบนมากเล่ห์ภักดีไม่
ใคร่ออกศึกโดยขัดขืนประเพณี
ไร้ประนีประนอมยอมข่มขี่
รังแกแต่คนดีลี้หอกดาบ
เกาไท่เว่ยเดินทัพมายังจี้โจว ระหว่างทางปล่อยให้ทหารรีดไถเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ทัพเจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบทยอยกันเดินทัพมายังจี้โจว
เจี๋ยตู้สื่อหวางเหวินเต๋อ 王文德 นำทัพจากแถบเมืองจิงเป่ย 京北 มุ่งมาจี้โจว เหลือระยะทางอีกราวสี่สิบกว่าลี้ ทัพเดินมาถึงป่าละเมาะแห่งหนึ่งเชิงลาดเขาเรียกว่า ลาดหางหงส์ 凤尾坡 (เฟิ่งเหว่ยพอ) มีทัพม้ายกออกจากชายป่ามาสกัดทางไว้ ตัวนายทัพสวมเกราะใช้ธนู ที่กระบอกลูกศรมีธงสองหน้าสีเหลืองขนาดเล็กปักอักษรทองหน้าละห้าตัวเขียนว่า
“英雄双枪将,风流万户侯
วีรชนขุนพลทวนคู่  ทรงเสน่ห์ขวัญพธูทุกเรือนชาน”
ในมือถือทวนสองเล่ม ขุนพลต่งผิงผู้ชอบออกหน้าปะทะศึกจนคนเรียกว่า ต่งจอมขวิด 董一撞 (ต่งอีจ้วง)
ต่งผิงยืนม้าขวางทางตวาดว่า “ทัพมาจากไหน ไม่รีบลงมาให้จับมัด จะรอถึงเมื่อไร”
หวางเหวินเต๋อหัวเราะหึหึแล้วว่า “ขวดหรือไหยังมีหูสองหู คงเคยได้ยินชื่อพวกข้าสิบเจี๋ยตู้สื่อผู้สร้างผลงานสะท้านแผ่นดิน ขุนพลหวางเหวินเต๋อ”
ต่งผิงหัวเราะร่วนแล้วตวาดว่า “เจ้านี่เอง ไอ้หัวรั้นฆ่าพ่อเลี้ยง”
หวางเหวินเต๋อโกรธจัดด่าว่า “โจรไพร่ขบถ บังอาจเหยียดหยามข้า” แล้วชูทวนควบม้าเข้าหาต่งผิง ต่งผิงใช้ทวนคู่รับ รบกันได้สามสิบเพลงไม่รู้แพ้ชนะ
หวางเหวินเต๋อรู้ตัวว่าเอาชนะต่งผิงไม่ได้ จึงตวาดว่า “พักเดี๋ยวค่อยรบใหม่” แล้วต่างแยกย้ายกลับแถว
หวางเหวินเต๋อสั่งทหารของตนว่า อย่ามัวรบติดพันที่นี่ ให้ฝ่าข้ามไปเลย แล้วออกนำทหารรบฝ่าออกไป ต่งผิงนำทหารกวดติดตามหลัง
พอข้ามแนวป่าละเมาะมา ก็เห็นทัพม้าอีกทัพสกัดทางอยู่เบื้องหน้า นายทัพคือศรไร้ขนจางชิง ตวาดมาว่า “อย่าหนี” แล้วซัดหินในมือใส่ศีรษะหวางเหวินเต๋อถูกหมวกเหล็กเข้า
หวางเหวินเต๋อหมอบลงกับอาน ควบม้าหนี สองแม่ทัพไล่ตามติดหลังมา พลันมีทัพหนึ่งปรากฎขึ้นด้านข้าง หวางเหวินเต๋อเห็นทัพพวกเดียวกัน เจี๋ยตู้สื่อหยางเวิน เร่งพลเข้ามาช่วย ต่งผิง จางชิงจึงไม่กล้าไล่ตาม รีบถอยหนีไป
ทัพเจี๋ยตู้สื่อทั้งสองเร่งเดินทางมายังเมืองจี้โจว เจ้าเมืองจางซูเย่ออกมาต้อนรับเข้าเมือง ไม่กี่วันต่อมาเกาไท่เว่ยก็ยกทัพมาถึง เจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบออกมารอต้อนรับนอกเมืองแล้วนำส่งเข้าเมือง ไท่เว่ยใช้ที่ว่าการเมืองเป็นกองบัญชาการแม่ทัพใหญ่
เกาไท่เว่ยสั่งการให้ทัพเจี๋ยตู้สื่อทั้งสิบออกไปตั้งค่ายนอกเมืองรอทัพเรือของหลิวเมิ่งหลง ทัพทั้งสิบออกหาไม้ตั้งค่าย นอกจากตัดไม้แล้วยังรื้อเอาไม้บ้านเรือนราษฎรมาใช้ก่อป้อมค่าย สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว
เกาไท่เว่ยจัดแจงแบ่งกำลังทหาร ใครไม่มีเงินจ่ายให้ไปอยู่ทัพหน้ากับหน่วยลาดตระเวน ใครมีเงินจ่ายให้อยู่กับทัพหลวง
เกาไท่เว่ยพำนักอยู่ในเมืองจี้โจวได้สองวัน ทัพเรือของหลิวเมิ่งหลงก็ยกมาถึง จึงเรียกประชุมนายทัพเพื่อหารือการศึก
พวกหวางห้วนว่า “ไท่เว่ยส่งทัพบกเข้าโจมตีก่อน ล่อให้พวกโจรยกกำลังออกมารบ จากนั้นค่อยส่งทัพเรือเข้าชิงค่าย ทำให้พวกโจรห่วงหน้าพะวงหลัง ได้ตัวพวกโจรทั้งหมด”
เกาไท่เว่ยเห็นด้วยจึงจัดทัพให้หวางห้วน สวีจิงเป็นทัพหน้า หวางเหวินเต๋อ เหมยจ่านเป็นทัพหลัง จางไค หยางเวินเป็นปีกซ้าย หานฉุนเป่า หลี่ฉงจี๋เป็นปีกขวา เซี่ยงหยวนเจิ้น จิงจงเป็นกองหนุน ตั่งสื้อสยงนำทหารเจนศึกสามพันนายขึ้นเรือไปกับทัพเรือของหลิวเมิ่งหลง สั่งการเสร็จตระเตรียมการอีกถึงสามวันจึงยกทัพมายังเขาเหลียงซาน
ตอนก่อนหน้า : สิบทิศปิดล้อม (2)
ตอนถัดไป : สิบเจี๋ยตู้สื่อ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา