Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
9 ธ.ค. เวลา 10:29 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 185
ปะเกาหาร้ายไม่ (3) ผีผมแดงเผาทัพเรือ
ซ่งเจียงและพวกชุมนุมอยู่ที่หอธรรมภักดิ์ เห็นหานฉุนเป่าถูกมัดตัวมา จึงสั่งทหารให้ถอยไป ลงมาแก้มัดให้ด้วยตัวเองแล้วเชิญขึ้นมานั่งบนหออย่างมีมารยาท ทั้งยังให้เชิญตัวตั่งสื้อสยงที่ถูกจับก่อนหน้านี้มายังหอด้วย
ซ่งเจียงกล่าวกับทั้งสองว่า “ท่านขุนพลทั้งสองโปรดอย่าได้ระแวงว่าพวกซ่งเจียงนี้มีจิตคิดคด พวกเราล้วนถูกบีบคั้นจากเหล่าขุนนางขี้ฉ้อโฉดชั่วจนจำต้องมาอาศัยหนองน้ำนี้ชั่วคราว แต่โดยแท้ยังหวังนิรโทษกรรมจากราชสำนัก เพื่อหวนกลับไปรับใช้ชาติบ้านเมือง”
หานฉุนเป่าว่า “ก่อนหน้านี้ เฉินไท่เว่ยอัญเชิญพระราชโองการมานิรโทษ เหตุใดจึงไม่ฉวยโอกาสนั้นไถ่โทษ”
ซ่งเจียงว่า “ถ้อยอักษรในพระราชโองการนั้นไม่ชัดเจน ทั้งยังเปลี่ยนเอาเหล้าขาวมาให้แทนสุราพระราชทาน เหล่าพี่น้องจึงไม่ยินยอมพร้อมใจ ยิ่งไปกว่านั้น จางกั้น หลี่หวีโห้วก็แสดงกิริยาเย่อหยิ่งวางก้าม เหยียดหยามเหล่าขุนพล”
หานฉุนเป่าว่า “นี่เป็นเพราะผู้มาเป็นสื่อกลางวางตัวไม่เหมาะสม ทำให้เสียราชการงานเมือง”
ซ่งเจียงให้จัดโต๊ะรับรองทั้งสอง วันรุ่งขึ้นก็จัดเตรียมม้าให้ทั้งสองลงเขาไป
ระหว่างทางทั้งสองคุยกันถึงข้อดีของซ่งเจียง พอมาถึงจี้โจวเป็นเวลาค่ำแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นจึงเข้าเมืองได้ ตรงมาหาเกาไท่เว่ย แจ้งเรื่องที่ซ่งเจียงปล่อยพวกตนมา
เกาไท่เว่ยโกรธจัดว่า “นี่เป็นแผนชั่วของพวกโจรที่หวังจะถ่วงเวลาพวกเรา พวกเจ้าสองคนยังมีหน้ากลับมาหาข้า ทหาร! ลากตัวสองคนนี้ไปตัดหัวแล้วมารายงาน”
พวกหวางห้วนคุกเข่าลงร้องขอว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของทั้งสองท่านนั้น แต่เป็นแผนชั่วของซ่งเจียง อู๋ย่ง หากประหารสองท่านนั้น กลับจะถูกพวกโจรเยาะเย้ยเอา”
เกาไท่เว่ยเห็นหลายคนพร้อมใจกันร้องขอชีวิตจึงยอมเว้นโทษประหาร แต่ให้ปลดจากหน้าที่ ส่งตัวกลับไปพิจารณาโทษที่เมืองหลวง
หานฉุนเป่าผู้นี้เป็นหลานของหานจงยั่น 韩忠彦 อดีตราชครู ขุนนางข้าราชการในราชสำนักต่างเคยอยู่ใต้บังคับบัญชา มีอาจารย์สอนตามบ้านผู้หนึ่งแซ่เจิ้ง 郑 ชื่อจวีจง 居忠 ได้รับการส่งเสริมจากหานจงยั่น จนปัจจุบันได้ดีกินตำแหน่งเสนาบดี วี่สื่อไต้ฟู 御史大夫
หานฉุนเป่ามาถึงเมืองหลวงก็นำความมาแจ้งแก่เจิ้งจวีจง จวีจงจึงขึ้นเกี้ยวพาฉุนเป่ามาพบกับเสนาบดีตำแหน่ง ส้างซู 尚书 ชื่อ หวีเซิน 余深 เพื่อหารือ
หวีเซินแนะนำว่า “เรื่องนี้ต้องแจ้งแก่ท่านราชครู จึงกราบบังคมทูลได้”
ทั้งสองจึงมาพบไฉ้จิง แจ้งไห้ทราบว่า “ซ่งเจียงนั้นเดิมหาได้มีใจคิดคด ยังหวังนิรโทษกรรมอยู่ทุกคืนวัน”
ไฉ้จิงว่า “ผู้ที่กล่าวถึงนี้เคยบังอาจฉีกทำลายพระราชโองการ ไร้ขนบธรรมเนียมสิ้นดี ไม่อาจนิรโทษ สมควรแต่กำจัด”
ทั้งสองว่า “นิรโทษกรรมครั้งก่อนนั้น เป็นที่น่าเสียดายว่าผู้ที่อัญเชิญพระราชโองการหาได้ถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณ เกลี้ยกล่อมด้วยความสุภาพ กลับแสดงความก้าวร้าวเหยียดหยาม ทำให้ไม่สัมฤทธิผล”
ไฉ้จิงจึงได้ยินยอม
เช้าวันรุ่งขึ้นในที่ประชุมขุนนาง ไฉ้จิงกราบทูลเสนอให้ทรงมีพระราชโองการนิรโทษกรรมอีกครั้ง
โอรสสวรรค์ตรัสว่า “บัดนี้ เกาไท่เว่ยได้ส่งคนมาเชิญเหวินห้วนจางบ้านอันเหยินไปช่วยงานเสนาธิการในการทัพ ก็ให้บุคคลผู้นี้ไปในคณะทูตเพื่อเกลี้ยกล่อมนิรโทษ หากยินยอมก็ให้เว้นโทษที่มี หากยังคงขัดขืน ก็ให้เกาฉิวเร่งทำการปราบปรามจับกุมตัวมายังกรุง”
ไฉ้จิงเป็นผู้ร่างพระราชโองการ และได้เชิญเหวินห้วนจางมางานเลี้ยงรับรอง ในงานเลี้ยงพบว่าเหวินห้วนจางนั้นเป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทีเดียวในหมู่ข้าราชสำนัก
年来教授隐安仁,忽召军前捧綍纶。
权贵满朝多旧识,可无一个荐贤人。
ซุ่มสอนหนังสือหลายปีอยู่อันเหยิน
มาอัญเชิญโองการกลางสนามรบ
ผู้ทรงศักดิ์ทั่วราชสำนักคุ้นเคยคบ
กลับไม่พบใครเสนอผู้ทรงศรี
ทางด้านเกาไท่เว่ยร้อนใจอยู่ที่เมืองจี้โจว เหวินห้วนจางที่ให้คนไปเชิญมาเป็นเสนาธิการก็ยังมาไม่ถึง ทหารเฝ้าประตูมารายงานว่า “หนิวปังสี่ 牛邦喜 มาถึงแล้ว”
เกาไท่เว่ยให้รีบตามเข้ามา ถามว่า “เรื่องเรือเป็นอย่างไร”
หนิวปังสี่ว่า “เรือที่ไปกวาดต้อนรวบรวมมาได้ทั้งหมดหนึ่งพันห้าร้อยกว่าลำ”
เกาไท่เว่ยชอบใจยิ่งนัก ให้รางวัลหนิวปังสี่ แล้วสั่งการให้ผูกเรือ โดยนำเรือสามลำมาเรียงเคียงกันแล้วตอกยึด ปูไม้กระดานด้านบน ท้ายเรือใช้ห่วงและโซ่ร้อยติดกันให้แข็งแรง ให้ทหารราบขึ้นประจำเรือ ทหารม้าเลียบฝั่งคุ้มกันเรือ ให้ทหารฝึกซ้อมจัดขบวนขึ้นลงเรือ และการรบเป็นเวลาครึ่งเดือน
ทางฝ่ายเหลียงซาน หน่วยสอดแนมรายงานเรื่องดังกล่าว อู๋ย่งจึงบอกหลิวถังว่าจะได้สร้างผลงานในศึกนี้ แล้วสั่งการให้ทัพเรือจัดหาเรือเล็กจำนวนมาก ยึดเหล็กมีคมเรียงไว้ที่หัวเรือ ท้องเรือบรรทุกกกแขมไม้แห้งไว้เต็ม โปรยด้วยกำมะถันเชื้อปะทุ นำไปซุ่มจอดไว้ตามคลองซอย ให้หลิงเจิ้นนำปืนใหญ่ขึ้นที่สูงรอบด้านคอยยิงปืนสัญญาน ตามป่าละเมาะริมหนอง ให้นำธงทัพปักบนยอดไม้ ให้ซุ่มกลองม้าล่อปืนสัญญาณ ทำทีว่ามีทัพซุ่ม เชิญกงซุนเสิ้งทำพิธีเรียกลม ทัพบกให้เตรียมพร้อมโจมตี
ทางด้านเมืองจี้โจว เกาไท่เว่ยจัดทัพให้หนิวปังสี่เป็นผู้บัญชาการทัพเรือ ให้หลิวเมิ่งหลง ตั่งสื้ออิงไปเป็นผู้ช่วย เกาไท่เว่ยนำทัพบก ได้ฤกษ์ลั่นกลองศึกสามคำรบ ทัพเรือทัพบกยกเดินทางพร้อมกันมุ่งมาโจมตีเหลียงซาน
ทัพเรือกองทัพหลวงลั่นฆ้องกลองสนั่นแล่นเรียงกันมาไม่ขาดสาย จนลึกเข้ามาในหนองน้ำเหลียงซาน แต่ไม่พบเรือศัตรูแม้แต่ลำเดียว กองเรือแล่นมาจนใกล้ถึงหาดทรายทอง เห็นเรือประมงลำน้อยสองลำอยู่ในบึงบัว มีคนอยู่บนเรือลำละสองคน พอเห็นทัพเรือก็ปรบมือหัวเราะลั่น หลิวเมิ่งหลงสั่งทหารให้ระดมยิงธนูใส่เรือเล็ก พวกชาวประมงพากันโดดน้ำหนีหายไป
กองเรือแล่นมาถึงหัวหาดทรายทอง เห็นบนตลิ่งมีแนวต้นหลิ่วร่มครึ้ม มีวัวสองตัวผูกกับต้นหลิ่ว เด็กเลี้ยงวัวสามสี่คนนอนเอกเขนกอยู่บนพื้นหญ้า ไกลออกไปมีเด็กเลี้ยงวัวอีกคนหนึ่งขี่วัวกลับหลังหันไปทางท้ายวัว ผิวขลุ่ยเลาหนึ่งอยู่
หลิวเมิ่งหลงสั่งให้กองหน้ากล้าตายยกพลขึ้นหัวหาดไปก่อน เด็กเลี้ยงวัวที่เอกเขนกบนพื้นหญ้าพากันลุกขึ้นหัวเราะกันร่วนและหนีหายเข้าไปในดงหลิ่ว ทหารส่วนหน้าขึ้นบกมาเจ็ดร้อยคน พลันมีเสียงปืนใหญ่ในดงหลิ่ว สองฟากมีเสียงกลองรบลั่นขึ้น ทหารสองทัพยกออกมาขนาบ ทัพด้านซ้ายใส่เกราะแดงนำโดยอสนีบาตฉินหมิง ทัพด้านขวาใช้เกราะดำนำโดยกระบองคู่ฮูหยันจว๋อ แต่ละทัพพลห้าร้อย หลิวเมิ่งหลงรีบสั่งให้ทหารถอยกลับลงเรือ แต่ถูกขนาบตีเสียทหารไปกว่าครึ่ง
หนิวปังสี่อยู่บนเรือได้ยินเสียงการรบที่ส่วนหน้า จึงสั่งการให้ทัพเรือส่วนหลังถอยกลับ บนเขาพลันมีเสียงปืนใหญ่ยิงต่อเนื่อง พงอ้อแขมโยกไกวเสียงดังซู่ซ่า กงซุนเสิ้งสยายผมถือกระบี่ทำพิธีเรียกลมอยู่บนยอดเขา แรกเริ่มลมพัดต้นไม้ไหว ตามมาด้วยทรายกรวดหินบินว่อน คลื่นในน้ำเริ่มก่อตัวเป็นลูกใหญ่ แสงอาทิตย์หายไปจากฟ้า เมฆดำก่อตัวขึ้นหนาทึบ ลมกรรโชกอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่ทัพเรือหลิวเมิ่งหลงกำลังถอยกลับ มีเรือเล็กจำนวนมากถ่อออกมาจากพงอ้อ กอบัว คลองซอย พุ่งเข้ามาแทรกตัดกระบวนเรือ เสียงลั่นกลองดังขึ้น ไฟถูกจุดขึ้นพร้อมกัน กลายเป็นไฟกองใหญ่จนฉาบฟ้าแดง เรือไฟกระจัดกระจายแทรกกลางขบวน เผาเรือรบหลวงติดไฟไหม้สิ้น
黑烟迷绿水,红焰起清波。
风威卷荷叶满天飞,火势燎芦林连梗断。
神号鬼哭,昏昏日色无光;
岳撼山崩,浩浩波声若怒。
舰航尽倒,舵橹皆休。
船尾旌旗不见青红交杂,楼头剑戟难排霜雪争叉。
僵尸与鱼鳖同浮,热血共波涛并沸。
千条火焰连天起,万道烟霞贴水飞。
ควันดำตลบกลบกลืนผืนน้ำเขียว
พระเพลิงแดงเกรี้ยวกราดเหนือคลื่นใส
พายุควงใบบัวทั่วฟ้าไป
ไฟโหมไหม้อ้อแขมขาดจากต้น
เทพครวญคร่ำภูตร่ำไห้โศกาดูร
สิ้นแสงสูรย์มืดมัวทั่วเวหน
เขาโงนเงนภูผาพังปี้ป่น
คลื่นคำรณคำรามคล้ายเคืองขุ่น
เรือรบหลวงพลิกคว่ำคะมำหงาย
กรรเชียงพายไม้ถ่อละล่องหมุน
ธงเขียวแดงท้ายเรือเหลือชุลมุน
หอกดาบวุ่นทั่วหัวเรือละเลงลาญ
ซากอสุภผลุบโผล่กับปลาเต่า
เลือดร้อนเร่าเคล้าคลื่นคลุกพลุ่งพล่าน
พระเพลิงพันพุ่มเผาโพยมผลาญ
ทั่วท้องธารหมื่นกลุ่มคลุ้มคลั่งควัน
หลิวเมิ่งหลงเห็นเรือถูกเผาสิ้นจนฟ้าแดงฉาน จำต้องถอดเกราะโดดลงน้ำหนีเอาชีวิตรอด ไม่เลียบเข้าฝั่งแต่ว่ายหนีไปทางน้ำลึก เรือเล็กลำหนึ่งออกมาจากพงอ้อไล่ตามหลังมา หลิวเมิ่งหลงมุดดำลงใต้น้ำหลบ คนผู้หนึ่งรวบเอวไว้แล้วลากตัวขึ้นบนเรือ คนถ่อเรือคือมังกรทะลวงถ้ำถงเวย ส่วนคนที่รวบเอวคือ มังกรน้ำขุ่นหลี่จวิ้น
ทางด้านหนิวปังสี่เห็นเรือรอบด้านถูกเผา ก็ถอดเกราะเตรียมโดดน้ำหนี คนผู้หนึ่งถือตะขอเหล็กทะลึ่งพรวดมาทางหัวเรือ ตะปบหัวจับลากลงน้ำ คนผู้นี้คือ คนเรือจางเหิง
หนองเหลียงซานเต็มไปด้วยซากอสุภลอยผลุบโผล่นับไม่ถ้วน เลือดนองท้องน้ำ ตั่งสื้ออิงกรรเชียงเรือเล็กหนีอยู่ มีลูกธนูยิงจากพงอ้อเป็นห่าฝน พวกทหารที่ว่ายน้ำเป็นพอมีหนีรอดไปได้ พวกที่ว่ายน้ำไม่เป็นจมน้ำตายสิ้น พวกที่ถูกจับเป็นได้มีจำนวนมาก มัดตัวส่งไปยังค่ายใหญ่ หลี่จวิ้นจับเป็นหลิวเมิ่งหลง จางเหิงจับเป็นหนิวปังสี่ หารือกันว่า หากพาตัวไปยังค่ายบนเขา ซ่งเจียงคงสั่งให้ปล่อยตัวอีก จึงจัดการเสียระหว่างทาง ตัดเอาแต่หัวไปเป็นผลงาน
ทางด้านเกาไท่เว่ยนำทัพบกมาคอยหนุนอยู่ริมตลิ่ง ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังต่อเนื่อง เสียงกลองดังไม่ขาดระยะ ก็รู้ว่ามีการรบกันบนผืนน้ำแล้ว พอย่างม้ามาดูสถานการณ์ที่ชายน้ำ ก็เห็นทหารทยอยกันว่ายน้ำหนีตายมาขึ้นฝั่ง ถามดูรู้ว่ากองเรือถูกเผา ไม่รู้ใครอยู่เหนือหรือใต้ เกาไท่เว่ยได้ฟังกังวลยิ่ง ได้ยินเสียงโห่ร้อง เห็นควันดำลอยคลุ้งฟ้า รู้ว่าสถานการณ์แย่แล้ว จึงสั่งให้ทัพบกถอยกลับ
มีทัพม้ายกมาสกัดหน้า นำโดยกองหน้าเลือดพล่านสว่อเชาควบม้าควงขวานเข้ามา เจี๋ยตู้สื่อหวางห้วนควบม้าชูทวนออกรับ รบกันได้ไม่ถึงห้าเพลง สว่อเชาก็ชักม้าหนี เกาไท่เว่ยให้ทัพไล่ตาม พออ้อมชะง่อนผาก็ไม่เห็นสว่อเชาเสียแล้วว่าไปทางไหน ทางด้านหลังกลับมีทัพของหัวเสือดาวหลินชงไล่ตามมาโจมตี รบกันได้พักหนึ่ง หลินชงก็หนีหาย เดินทัพต่อมาได้หกเจ็ดลี้ สัตว์หน้าครามหยางจื้อก็ตามมาตี รบกันพักหนึ่งก็หนีหาย เดินทัพต่อมาแปดเก้าลี้ เจ้าเครางามจูถงก็ตามมาตี รบกันพักหนึ่งก็หนีหาย
นี่เป็นอุบายของอู๋ย่ง ไม่ขวางหน้า แต่คอยตามตีทำลายขวัญทหาร เกาไท่เว่ยถูกตามตีจนพะวักพะวน เร่งทัพกลับจี้โจว มาถึงเอายามสาม ตั้งค่ายลงนอกเมือง ก็เกิดเพลิงไหม้ มีเสียงโห่ร้อง สือสิ้ว หยางสยงนำทัพพลเดินเท้าห้าร้อยนายลอบมาเผาค่ายแล้วหนีกลับไป ทำเอาเกาไท่เว่ยขวัญกระเจิง ตรวจนับกำลังพลก็พบว่าออกศึกครั้งนี้เสียทัพไปกว่าครึ่ง
ตอนก่อนหน้า : สิบเจี๋ยตู้สื่อ
https://www.blockdit.com/posts/67517f90116d5c10a844ff11
ตอนถัดไป : แปลงความพระราชโองการ
https://www.blockdit.com/posts/675abba6a2dcad8e62f2a6e4
บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย