16 ธ.ค. เวลา 10:49 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 187

ปะเกาหาร้ายไม่ (5) ทัพเรือปลาหมูทะเล
 
井蛙小见岂知天,可慨高俅听谲言。
毕竟鳅船难取胜,伤财劳众枉徒然。
กบบ่อน้อยด้อยปัญญารู้ฟ้ากว้าง
ช่างน่าเศร้าเกาฉิวฟังคำลวงหลง
เรือปลาหมูยากนำชัยดังใจจง
เปลืองเปล่าลงทุนทรัพย์กับแรงงาน
ขุนพลชิวเยว่ โจวอั๋ง นำทัพหนุนจากตงจิงมาถึงจี้โจว เกาไท่เว่ยพาเหล่าเจี๋ยตู้สื่อออกมารอบรับนอกเมือง พอมาถึงกองบัญชาการ สองขุนพลก็ขอให้เกาไท่เว่ยออกคำสั่งให้ออกรบ
เกาไท่เว่ยว่า “ท่านทั้งสองพักให้เย็นใจก่อน รอจนทัพเรือปลาหมูทะเลพร้อมแล้ว ค่อยยกเข้าโจมตีทั้งทัพบกทัพเรือ กำจัดพวกโจรทีเดียวให้สิ้นซาก”
ทางฝ่ายซ่งเจียงหารือกับอู๋ย่งและเหล่าพี่น้องว่า “นิรโทษกรรมทั้งสองครั้ง พวกเราต่างได้ล่วงเกินราชทูต เพิ่มข้อหาให้หนักหนาขึ้น ทางราชสำนักต้องส่งกองทัพมากันอีก” จึงให้ลิ่วล้อลงเขามาคอยสืบข่าว
ไม่กี่วันต่อมา ลิ่วล้อกลับมารายงานว่า “เกาฉิวประกาศรับสมัครทหารเรือ ให้เย่ชุนเป็นนายกองต่อเรือหมูทะเลได้หลายร้อยลำ มีทัพหนุนมาจากกรุง นำโดยสองขุนพลชิวเยว่ โจวอั๋ง”
ซ่งเจียงหารือกับอู๋ย่งว่า “เรือใหญ่ขนาดนี้แล่นบนน้ำได้เร็วปานเหาะ จะทำลายได้อย่างไร”
อู๋ย่งว่า “ไม่ต้องกลัวอันใด เพียงกำจัดแม่ทัพเรือเสียไม่กี่คนก็จบแล้ว ส่วนทัพบกนั้น ฝ่ายเราก็มีขุนพลผู้กล้ารับศึกได้อยู่ เรือใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้เวลาต่อหลายสิบวันจึงแล้วเสร็จ นี่คงยังมีเวลาอีกสี่ห้าสิบวัน ให้พี่น้องเราสองสามคนไปเยี่ยมอู่ต่อเรือแล้วสั่งสอนเสียหน่อย”
ซ่งเจียงว่า “ดี เช่นนั้นก็ให้หมัดหน้ากลองสือเชียน หมาขนทองต้วนจิ่งจู้ ไปดูลาดเลา”
อู๋ย่งว่า “ให้จางชิง ซุนซินปลอมเป็นคนลากไม้แทรกซึมเข้าไปในอู่ต่อเรือ ให้กู้ต้าเส่า ซุนเอ้อเหนียงทำทีเป็นพวกส่งอาหาร ปะปนเข้าไป ให้สือเชียน ต้วนจิ่งจู้คอยประสานงาน ให้จางชิงศรไร้ขนนำทัพไปหนุนช่วย รับรองสำเร็จผล”
เกาไท่เว่ยใช้ช่างต่อเรือนับพันเร่งต่อเรือทั้งวันทั้งคืน โดยตั้งอู่ต่อเรือเรียงรายไปตามทางสายตะวันออกของเมืองจี้โจว ต่อเรือปลาหมูทะเลใหญ่แล้วเสร็จได้ราวหนึ่งร้อยลำ
สือเชียน ต้วนจิ่งจู้ ลอบเข้ามาสำรวจในอู่ต่อเรือแล้วหารือกันว่า “เท่าที่เห็นนี่พวกคู่ผัวเมียซุน จาง คงจัดการเผาอู่ต่อเรือได้ ท่านกับข้าไปช่วยที่นั่น ก็ไม่ได้มีผลงานใดเพิ่ม มิสู้พวกเราซุ่มกันอยู่แถวนี้ พออู่ต่อเรือไฟไหม้ ข้าจะรีบย้ายไปซุ่มรอแถวประตูเมือง ทหารต้องออกมาช่วยดับไฟ ข้าก็จะถือโอกาสลอบเข้าเมือง ไปเผาตึกรามบ้านช่อง ส่วนท่านไปเผาโรงฟางหญ้าทางตะวันตกของเมือง ให้พวกมันพะวักพะวนไม่รู้จะช่วยข้างไหน คงตื่นกลัวกันไม่น้อย” ว่าแล้วก็เตรียมเชื้อไฟเชื้อปะทุ แล้วหาที่ซ่อนตัวไว้
จางชิง ซุนซินมาถึงเมืองจี้โจวเห็นพวกชักลากไม้ราวห้าร้อยคนจึงปะปนกับพวกชักลากเข้ามาในอู่ต่อเรือ เห็นทหารราวสองร้อยนายถือไม้พลองคอยหวดต้อนเร่งพวกชักลากไม้ รอบอู่มีรั้ว มีกระท่อมมุงหญ้าราวสามร้อยหลัง เข้าไปดูด้านในเห็นช่างต่อเรือแยกพักกันเป็นกลุ่มๆ ช่างแปรรูปไม้กระดาน ช่างตอกเรือ ช่างยาเรือ ต่างเดินไปมากันสับสน ทั้งสองเข้าไปหลบในเพิงที่ใช้ทำครัว เห็นกู้ต้าเส่า ซุนเอ้อเหนียงแต่งตัวมอมแมมถือกระติกข้าวเดินปะปนกับพวกส่งอาหารเดินเข้ามา
ฟ้าค่ำลงทุกที แสงจันทร์กระจ่าง พวกช่างกว่าครึ่งยังคงง่วนอยู่กับงานในมือ เวลาประมาณยามสอง ซุนซิน จางชิงวางเพลิงทางฝั่งซ้ายของอู่ กู้ต้าเส่า ซุนเอ้อเหนียงวางเพลิงทางฝั่งขวา ไฟลามติดฟางหญ้าและไม้ พวกช่างต่างส่งเสียงร้องเอะอะ รื้อพังรั้วหนีตายกันจ้าละหวั่น
เกาไท่เว่ยกำลังหลับอยู่ พอมีคนมารายงานว่า “อู่ต่อเรือไฟไหม้” ก็รีบลุกขึ้นมาสั่งการให้ทหารรีบไปช่วยดับไฟ ชิวเยว่ โจวอั๋ง นำทหารใต้บังคับบัญชาออกนอกเมืองไปช่วยดับไฟ สักพัก ก็มีไฟไหม้ขึ้นตามหอในเมือง เกาไท่เว่ยจึงนำทหารมาดับไฟในเมืองด้วยตัวเอง ไม่ทันไร ก็มีรายงานมาอีกว่า โรงฟางหญ้านอกเมืองทางตะวันตกไฟไหม้ใหญ่จนฟ้าแดงฉาน
ชิวเยว่ โจวอั๋งรีบนำทหารมาช่วยดับเพลิงที่โรงฟางหญ้า พลันมีเสียงกลองศึกรัวลั่น เสียงโห่ร้องดังก้อง ศรไร้ขนจางชิงนำทหารม้าห้าร้อยนายที่ซุ่มรออยู่ออกมาสกัดหน้า
จางชิงตวาดว่า “ผู้กล้าเหลียงซานอยู่นี่พร้อมหน้า”
ชิวเยว่โกรธจัด ควบม้ารำง้าวเข้าหาจางชิง จางชิงใช้ทวนยาวรับ สู้กันได้สามเพลง จางชิงก็หนี ชิวเยว่ไล่ตามหวังจับตัวสร้างผลงาน คำรามว่า “โจรขบถ อย่าหนี”
จางชิงล้วงถุงแพรหยิบหิน บิดตัวกลับ เห็นชิวเยว่ตามมาติด ตะโกนว่า “โดน” ซัดหินใส่หน้าชิวเยว่จนตกม้า
โจวอั๋งพาคนรีบตามมาช่วย โจวอั๋งรบจางชิง ทหารพาชิวเยว่ขึ้นม้าหนี รบกันได้ไม่กี่เพลง จางชิงชักม้าหนี โจวอั๋งไม่ไล่ จางชิงจึงกลับมาจะท้ารบ แต่เห็นหวางห้วน สวีจิง หยางเวิน หลี่ฉงจี๋นำทัพตามมาสี่ทัพ จึงโบกเรียกพวกตนทั้งห้าร้อยให้ถอยกลับเหลียงซาน พวกทหารหลวงเกรงมีกองซุ่มจึงไม่ไล่ตาม พากันไปช่วยดับไฟทั้งสามจุด กว่าจะดับได้ก็เป็นยามฟ้าสาง
เกาไท่เว่ยเห็นชิวเยว่เจ็บหนัก ถูกหินซัดจนฟันร่วงไปสี่ซี่ เลือดกบปากและจมูก แค้นเข้ากระดูกดำ เรียกเย่ชุนมาสั่งการให้เร่งมือต่อเรือ ให้พวกเจี๋ยตู้สื่อตั้งค่ายล้อมป้องกันอู่ต่อเรือไว้ทั้งสี่ทิศ
จางชิง ซุนซินสามีภรรยาทั้งสี่ สือเชียน ต้วนจิ่งจู้ กลับมาถึงหอธรรมภักดิ์ รายงานผลการวางเพลิง ซ่งเจียงชอบใจให้จัดโต๊ะเลี้ยงเป็นรางวัล แล้วให้คนคอยสืบข่าวดูความคืบหน้าต่อไป
เรือปลาหมูใกล้ต่อครบ ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศปีนี้อบอุ่น เกาไท่เว่ยยินดีที่ฟ้าเป็นใจ พอเย่ชุนต่อเรือเสร็จ เกาไท่เว่ยก็ให้ทหารเรือที่รับสมัครไว้หนึ่งหมื่นกว่านายมาทำการฝึกฝน ครึ่งหนึ่งฝึกถีบจักรบังคับเรือ ครึ่งหนึ่งฝึกการใช้หน้าไม้ ฝึกอยู่ยี่สิบกว่าวันจนคล่องแคล่ว เย่ชุนจึงเชิญไท่เว่ยมาชมกระบวนเรือ
自古兵机在速攻,锋摧师老岂成功。
高俅卤莽无通变,经岁劳民造战艟。
กลศึกว่าไว้ให้เร่งโจมจู่
ขุนพลล้าอาวุธทู่หวังผลไฉน
เกาฉิวหยาบช้าหารู้พลิกแพลงไม่
สูญแรงปีไปเปล่าเฝ้าต่อเรือ
เกาฉิวนำเจี๋ยตู้สื่อและพวกแม่ทัพนายกองมาชมกระบวนเรือ เรือปลาหมูสามร้อยกว่าลำจอดเรียงรายอยู่บนผืนน้ำ สิบกว่าลำปักธงทิว ตีม้าล่อลั่นกลอง รัวสัญญาน ทหารถีบจักร เรือแล่นลิ่วดังพายุพัดส่ง เกาไท่เว่ยแอบชอบใจ ออกศึกคราวนี้ คงได้ชัยเป็นแน่ จึงมอบเงินทองแพรพรรณเป็นรางวัลแก่เย่ชุน พวกช่างต่อเรือให้เงินค่าเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา
วันรุ่งขึ้น เกาฉิวให้ล้มวัวดำ ม้าขาว หมูและแกะ พร้อมผลไม้ เครื่องกระดาษ เตรียมมาเซ่นไหว้เทพวารี เหล่าขุนพลกล่าวเชิญไท่เว่ยทำพิธี เกาไท่เว่ยขึ้นม้า โจวอั๋งและเหล่าเจี๋ยตู้สื่อขึ้นม้าตามมา รวมทั้งชิวเยว่ที่แผลหายแล้ว แต่แค้นจางชิงเข้ากระดูก มาถึงข้างเรือริมน้ำ ทั้งหมดลงจากม้า จุดธูปบูชา เผาเงินกระดาษ เป็นอันเสร็จพิธี
เกาฉิวนำเหล่าแม่ทัพขึ้นเรือจัดเลี้ยงสุราอาหาร ให้คณะนางรำที่พามาแต่เมืองกรุงขึ้นมาร่ายรำ ให้เรือปลาหมูแปรขบวนบนผิวน้ำ บนเรือบรรเลงมโหรีปี่กลองจนเย็นย่ำ ก็นอนค้างกันบนเรือ วันรุ่งขึ้นก็จัดเลี้ยงชมการแสดงกันต่อ เป็นเวลาสามวัน ก็ยังไม่ออกเรือ มีคนมารายงานว่า
“พวกโจรเหลียงซานเขียนกลอนไปปิดไว้ที่ศาลเทพารักษ์ในเมือง มีคนฉีกมาให้ดูตามนี้”
帮闲得志一高俅,漫领三军水上游。
便有海鳅船万只,俱来泊内一齐休。
เกาฉิวผู้สอพลอจนได้ดี
นำทัพท่องวารีมีสุขล้ำ
เรือปลาหมูมีอยู่นับหมื่นลำ
ท่องหนองน้ำเจ้ากรรมทำพังภินท์
เกาไท่เว่ยเห็นบทกลอนแล้วโกรธ จะให้ยกทัพปราบโจรทันที เสธ.เหวินห้วนจางท้วงว่า “ไท่เว่ยโปรดระงับโทสะ นี่แสดงให้เห็นว่าพวกโจรก็หวาดกลัวจึงได้แต่งกลอนมายั่วยุ พวกเราควรพักรอจัดทัพบกทัพเรือให้เรียบร้อยแล้วค่อยยกทัพเข้าตี ขณะนี้แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่อากาศยังอบอุ่น นับว่าองค์โอรสสวรรค์บันดาลโชค เหล่าขุนพลห้าวหาญ”
เกาฉิวฟังแล้วค่อยชอบใจ จึงพากันกลับเข้าเมือง
เกาฉิวจัดทัพบุกเหลียงซาน
ทัพบกให้โจวอั๋ง หวางห้วนร่วมกันนำทัพ
ให้เซี่ยงหยวนเจิ้น จางไคนำทัพม้าหนึ่งหมื่นไปตั้งสกัดทางใหญ่สำหรับขึ้นลงเขาเหลียงซาน เดิมเขาเหลียงซานเข้าถึงได้แต่เพียงทางน้ำ ไม่มีทางเข้าทางบก ไม่นานมานี้ซ่งเจียงสั่งให้ตัดทางเส้นนี้ขึ้น จึงได้มีถนนเข้าสู่เหลียงซาน
ให้เสนาธิการเหวิน ชิวเยว่ สวีจิง เหมยจ่าน หวางเหวินเต๋อ หยางเวิน หลี่ฉงจี๋ หวางจิ่น และเย่ชุนผู้ออกแบบเรือ ติดตามเกาไท่เว่ยนำทัพเรือเข้าโจมตี
เสธ.เหวินว่า “แม่ทัพใหญ่ควรนำทัพม้าไปทางบก ไม่ควรมาทางน้ำ นำตัวมาเสี่ยงอันตราย”
เกาไท่เว่ยว่า “ไม่ใช่ปัญหา สองครั้งก่อน ยังไม่ได้ตัวคนผู้นี้ จึงเสียเรือเสียทหารไปเป็นอันมาก มาครั้งนี้ มีเรือดีขนาดนี้ ถ้าข้าไม่มานำทัพเอง จะจับโจรได้หรือ เที่ยวนี้ ต้องรบกับโจรให้เป็นตายไปข้างหนึ่ง ท่านอย่ามาห้ามเลย”
เสธ.เหวินจึงไม่ต่อล้อต่อเถียง ทำได้เพียงเดินตามลงเรือไป
เกาฉิวให้ชิวเยว่ สวีจิง เหมยจ่านนำเรือปลาหมูทะเลใหญ่สามสิบลำเป็นทัพหน้า
ให้หยางเวิน หวางจิ่น เย่ชุนนำเรือปลาหมูทะเลน้อยห้าสิบลำไปเบิกทาง บนหัวเรือให้ปักธงแดงสองหน้าเขียนอักษรทองสิบสี่ตัวว่า
“搅海翻江冲巨浪 安邦定国灭洪妖
กวนสมุทรพลิกธาราฝ่าคลื่นยักษ์
ปกปักรัฐรักษาชาติกวาดพรายน้ำ”
เสนาธิการเหวิน ติดตามเกาไท่เว่ย พร้อมขบวนสาวงามนางรำ ประจำเรือใหญ่กลางขบวน นำเรือปลาหมูทะเลใหญ่ห้าสิบลำเป็นทัพหลวง บนเรือเรียงรายธงและเครื่องยศแม่ทัพใหญ่ หลากสีสัน
ให้หวางเหวินเต๋อ หลี่ฉงจี๋ นำกองเรือสารพัดเป็นทัพหลัง
ตอนก่อนหน้า : แปลงความพระราชโองการ
ตอนถัดไป : เกาฉิวแตกทัพ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา