26 ธ.ค. 2024 เวลา 10:52 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 190 เอี้ยนชิงลอบเข้าเฝ้ายามราตรี

เอี้ยนชิงออกจากเรือนหลี่ซือซือ กลับมาถึงโรงแรมก็เล่าเรื่องราวให้ไต้จงฟัง
ไต้จงว่า “เช่นนั้นก็ดี เพียงเกรงว่าน้องเราอาจใจเร็วด่วนได้ ยั้งใจไว้ไม่อยู่”
เอี้ยนชิงว่า “ชายชาตรียืนหยัดในโลกนี้ หากลุ่มหลงสุรานารีจนลืมตน ต่างอันใดกับเดรัจฉาน หากแม้นเอี้ยนชิงมีใจใฝ่ดั่งนี้ ขอตายภายใต้คมดาบคมกระบี่”
ไต้จงหัวเราะแล้วว่า “ท่านกับข้าต่างเป็นผู้กล้า ไยต้องกล่าวสาบาน”
เอี้ยนชิงว่า “หากมิให้คำสัตย์สาบาน เกรงพี่ท่านจะระแวง”
ไต้จงว่า “ท่านรีบไปเถิด ขอให้ลุล่วงราบรื่น กลับมาโดยไวอย่าให้ข้าต้องรอนาน หนังสือของซู่ไท่เว่ย ยังรอท่านไปส่งด้วยกัน”
เอี้ยนชิงเก็บเงินเศษและอัญมณีใส่พก แล้วกลับมายังเรือนหลี่ซือซือ นำครึ่งหนึ่งมอบให้หลี่มามา อีกครึ่งหนึ่งแบ่งให้คนในเรือน ทุกคนต่างชื่นชอบ เก็บกวาดห้องข้างห้องรับแขกให้เอี้ยนชิงพำนัก และต่างเรียกเอี้ยนชิงว่า “ท่านอา”
โชคช่างประจวบเหมาะ มีคนมาบอกว่าโอรสสวรรค์จะทรงเสด็จในราตรีนี้ เอี้ยนชิงจึงขอร้องหลี่ซือซือว่า
“พี่ท่านช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้น้องได้เข้าเฝ้าเบื้องพระพักตร์สักครั้ง เพื่อขอพระราชทานลายพระหัตถ์อภัยโทษ”
หลี่ซือซือว่า “คืนนี้ ข้าจะช่วยให้ท่านเข้าเฝ้า ท่านก็เตรียมทูลแสดงเหตุผลให้จงดี ลายพระหัตถ์คงได้ดังหวัง”
ฟ้าค่ำลง แสงจันทร์สลัว มาลีหอมอบอวล เต้าจวินฮ่องเต้ 道君皇帝 แต่งองค์เป็นบัณฑิตชุดขาว มีขันที 小黄门 ผู้หนึ่งนำเสด็จทางอุโมงค์มายังหลังเรือนหลี่ซือซือ เมื่อเสด็จถึง เรือนก็ปิดลงทั้งประตูหน้าและหลัง
ฮ่องเต้ทรงประทับยังห้องรับรองตามไฟไว้สว่างไสว พระกระยาหารจัดวางไว้เต็มโต๊ะ
หลี่ซือซือสังเกตสีพระพักตร์แจ่มใส จึงถือโอกาสทูลว่า “ข้าน้อยมีลูกพี่ลูกน้องชายผู้หนึ่ง เที่ยวเร่ร่อนมาแต่น้อย บัดนี้จึงได้กลับมา ใคร่ได้โอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ 圣上 ข้าน้อยขอบังอาจทูลขอ โปรดทรงพิจารณา”
โอรสสวรรค์ตรัสว่า “ในเมื่อเป็นน้องชายของเจ้า ก็เรียกมาพบข้าเถิด จะเป็นไร”
แม่นมไปตามเอี้ยนชิงมาเข้าเฝ้า เอี้ยนชิงกราบถวายบังคม ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นบุคลิกเอี้ยนชิงแล้วทรงพอพระทัย หลี่ซือซือจึงบอกให้เอี้ยนชิงบรรเลงขลุ่ยระหว่างเสวยน้ำจัณฑ์ จากนั้นก็ดีดบรรเลงพิณหย่วน จบแล้วก็ขอให้ขับร้องเพลง
เอี้ยนชิงว่า “เพลงที่กระหม่อมรู้จักล้วนเป็นเพลงลามกประโลมโลกย์ หาบังอาจขับร้องถวาย”
โอรสสวรรค์ตรัสว่า “ข้ามาสำนักนางโลมเป็นการส่วนตัว ก็ใคร่ฟังเพลงเช่นนี้ เจ้าอย่าได้กังวล”
เอี้ยนชิงจึงเริ่มดีดพิณและขับร้อง
一别家山音信杳,百种相思,肠断何时了。
燕子不来花又老,一春瘦的腰儿小。
薄幸郎君何日到,想自当初,莫要相逢好。
好梦欲成还又觉,绿窗但觉莺啼晓。
จากถิ่นฐานไปไกลไร้ข่าวคราว
แสนรวดร้าวเฝ้าคิดถึงคำนึงหา
นางแอ่นไม่หวน มาลีร่วงโรยรา
วสันต์ผ่าน ผิดตาตรอม ผ่ายผอมไป
ตั้งตาคอยคนบุญน้อยวันใดหวน
แรกมิควรพบเสียเลยดีกว่าไหม
อยากสมหวังดังฝันพลันตื่นทันใด
ห้องหอหญิงยากไร้ ขมิ้นคอยเตือนตะวัน
(绿窗 (หน้าต่างเขียว)ห้องหอหญิงยากไร้ ตรงข้ามกับ 红楼 (หอแดง)ห้องหอหญิงผู้ดี)
เอี้ยนชิงร้องเพลงจบ เสียงนกขมิ้นยังขับขานอ้อยอิ่ง โอรสสวรรค์ทรงพอพระทัยยิ่งนัก โปรดให้เอี้ยนชิงร้องอีกเพลง
เอี้ยนชิงจึงขับร้องว่า
听哀告,听哀告!贱躯流落谁知道,
谁知道!极天罔地,罪恶难分颠倒。
有人提出火坑中,肝胆常存忠孝,
常存忠孝。有朝须把大恩人报!
ฟังอุทธรณ์ ฟังอุทธรณ์
ต้อยต่ำร่อนเร่สัญจร ใครรู้ได้
ใครรู้ได้ สุดขอบหล้าฟ้าไกล
ชั่วดีไยกลับตาลปัตรยากจำนรรจ์
ผู้ใดอาจฉุดพ้นกองเพลิงผลาญ
จักกล้าหาญกตัญญูภักดีคงมั่น
กตัญญูภักดีคงมั่น
คงมีวันตอบแทนผู้มีพระคุณ
พอเอี้ยนชิงร้องจบ โอรสสวรรค์ทรงตะลึง ตรัสถามว่า “เหตุใดเจ้าจึงขับร้องเพลงนี้”
เอี้ยนชิงกราบลงกับพื้นร่ำไห้ยกใหญ่
โอรสสวรรค์ทรงฉงน ตรัสว่า “เจ้ามีความในใจใด จงเล่ามา ข้าจะช่วยปัดเป่าให้”
เอี้ยนชิงว่า “กระหม่อมมีโทษปิดบังเบื้องสูง มิบังอาจกราบบังคมทูล”
โอรสสวรรค์ตรัสว่า “ละเว้นโทษแก่เจ้า มีอันใดจงว่ามา”
เอี้ยนชิงว่า “กระหม่อมท่องวงนักเลงมาแต่เล็ก ร่อนเร่ไปยังซานตง ได้ติดตามคาราวานพ่อค้าผ่านไปทางเขาเหลียงซานแล้วถูกจับตัวไปอยู่บนเขาเป็นเวลาสามปี บัดนี้หนีรอดออกมาได้ กลับมายังเมืองกรุงอาศัยอยู่กับพี่สาว แต่ไม่กล้าเดินถนนไปไหนต่อไหนเกรงว่าจะมีคนจำหน้าได้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับกุม ยากที่จะหาคำแก้ตัว”
หลี่ซือซือเสริมว่า “น้องชายของข้าน้อยมีปมนี้อยู่ในใจ ขอฝ่าบาททรงพระกรุณา”
โอรสสวรรค์ทรงพระสรวลแล้วตรัสว่า “เรื่องนี้ง่ายนัก เจ้าเป็นน้องชายของเจ้าสำนักหลี่ 李行首 ผู้ใดจะกล้าจับกุมเจ้า”
เอี้ยนชิงส่งสายตาเป็นนัยแก่หลี่ซือซือ หลี่ซือซือทำจริตกระบิดกระบวนเพ็ดทูลว่า “ข้าน้อยเพียงขอให้ฝ่าบาทพระราชทานพระอักษรอภัยโทษแก่น้องชายสักฉบับ ให้พออุ่นใจ”
โอรสสวรรค์ตรัสว่า “ที่นี่หาได้มีเครื่องเขียนตราประทับไม่ จะเขียนอย่างไร”
หลี่ซือซือว่า “ลายพระหัตถ์ของฝ่าบาทก็เทียบได้กับตราหยก เปรียบเป็นยันต์คุ้มภัยให้แก่น้องชาย”
โอรสสวรรค์ทรงให้จัดหากระดาษและพู่กัน แม่นมตระเตรียมเครื่องเขียนมา เอี้ยนชิงฝนหมึก หลี่ซือซือถวายส่งพู่กันงาช้าง โอรสสวรรค์คลี่กระดาษทรงอักษรหนึ่งแถว
“พระจักรพรรดิผู้ทรงพรตฯ พระราชทานอภัยโทษทั้งปวงเป็นการจำเพาะแก่เอี้ยนชิง หน่วยราชการทั้งปวงมิให้ทำการจับกุม”
แล้วทรงวาดตราประจำพระองค์ 押花字 ท้ายพระอักษร (วาดตรา ใช้แทนการลงนาม)
(พระเจ้าซ่งฮุยจง ทรงเรียกพระองค์เองในพระนามเต็มว่า 神霄玉府真主宣和羽士虚静道君皇帝 เสินเซียววี่ฝู่เจินจู่ เซวียนเหอหวี่สื้อ ซวีจิ้งเต้าจวิน หวงตี้ หรือ พระจักรพรรดิผู้ทรงพรตฯ)
เอี้ยนชิงกราบคารวะรับพระอักษร
โอรสสวรรค์ตรัสถามว่า “เจ้าอยู่ที่เขาเหลียงซาน ต้องรู้รายละเอียดภายใน”
เอี้ยนชิงว่า “พวกซ่งเจียงนั้น ชูธง“ผดุงธรรมแทนฟ้า 替天行道” หอชุมนุมนั้นตั้งชื่อว่า “ธรรมภักดิ์ 忠义” ไม่ยึดครองเมือง ไม่ทำร้ายราษฎร สังหารแต่ขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง พวกชอบใส่ร้ายป้ายสี”
โอรสสวรรค์ตรัสว่า “ข้ามีโองการนิรโทษกรรมไปสองครั้ง เหตุใดจึงปฏิเสธ มิยอมสวามิภักดิ์”
เอี้ยนชิงว่า
“พระราชโองการในครั้งแรกนั้นหาได้ใช้ถ้อยคำเกลี้ยกล่อมกลับเหยียดหยาม อีกทั้งสุราพระราชทานก็ถูกเปลี่ยนเป็นสุราขาวพื้นบ้าน พระราชโองการในครั้งที่สอง ถูกอ่านบิดเบือน จงใจเว้นวรรคผิดให้เข้าใจว่าจะกำจัดซ่งเจียง จึงทำให้เสียเรื่อง
ถงซูมี่ยกทัพมา ถูกตีพ่ายไปสองครั้ง เสียทหารเกือบสิ้น เกาไท่เว่ยยกทัพมา เกณฑ์ราษฎรต่อเรือรบเข้าโจมตี ทำอะไรเหลียงซานไม่ได้ พ่ายศึกสามครั้ง แม้ตัวเกาไท่เว่ยก็ถูกจับเป็นเชลย แต่ได้รับปากจะกลับมาช่วยเรื่องนิรโทษกรรม จึงปล่อยกลับมาพร้อมส่งคนจากค่ายบนเขามาด้วยสองคน ส่วนเสนาธิการเหวินถูกทิ้งไว้เป็นตัวประกัน”
โอรสสวรรค์สดับฟังจบ ทรงถอนพระทัยตรัสว่า “ข้าหารู้เรื่องเหล่านี้ไม่ ถงก้วนกลับมาถึงแจ้งว่า ทหารไม่คุ้นชินสภาพอากาศ จำพักรบกลับมา เกาฉิวกลับมาแจ้งว่า ป่วยมิอาจรบต่อ จำถอยทัพกลับมา”
หลี่ซือซือเพ็ดทูลว่า “ฝ่าบาทแม้ทรงพระปรีชา แต่ทรงประทับในเบื้องสูงจึงถูกขุนนางทุจริตปิดบัง”
โอรสสวรรค์ทรงถอนพระทัย
ราตรีล่วงเข้ายามดึก เอี้ยนชิงเก็บพระอักษร กราบบังคมลา โอรสสวรรค์เสด็จเข้าที่บรรทมกับหลี่ซือซือ พอยามห้า ขันทีนำเสด็จกลับ
เอี้ยนชิงตื่นแต่เช้า กลับมายังโรงแรมที่ไต้จงพัก เล่าเรื่องเข้าเฝ้าให้ฟัง ไต้จงว่า
“เมื่อเป็นเช่นนี้ นับว่าโชคดี ตอนนี้เราก็ไปส่งหนังสือให้ซู่ไท่เว่ยกันเถิด”
เอี้ยนชิงว่า “กินข้าวเสร็จแล้วไปกัน”
ทั้งสองกินอาหารเช้าไวสักหน่อย จัดเตรียมเงินทองของมีค่าไปตะกร้าหนึ่งพร้อมนำหนังสือติดตัวมุ่งมายังจวนของซู่ไท่เว่ย แวะถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ความว่า ไท่เว่ยยังไม่กลับจากในวัง
เอี้ยนชิงว่า “นี่ก็สายเลยเวลาออกท้องพระโรงเช้าแล้ว เหตุใดยังไม่กลับ”
เพื่อนบ้านว่า “ซู่ไท่เว่ยเป็นขุนนางคู่พระทัยรับใช้ใกล้ชิด จะกลับเช้าหรือสาย บอกไม่ได้”
มีคนบอกว่า “นั่น ไท่เว่ยกลับมาแล้ว”
เอี้ยนชิงดีใจ หันมาบอกไต้จงว่า “ท่านพี่รอหน้าที่ว่าการ ข้าจะเข้าไปพบท่านไท่เว่ยเอง”
เอี้ยนชิงเดินไปขวางหน้าเกี้ยวของซู่ไท่เว่ย คุกเข่าลงกลางถนนกล่าวว่า “ผู้น้อยมีหนังสือส่งมอบให้แก่ท่านไท่เว่ย”
ซู่ไท่เว่ยตะโกนบอกว่า “ตามข้ามา”
เอี้ยนชิงตามเข้ามายังหน้าห้องโถง ซู่ไท่เว่ยลงจากเกี้ยวเดินเข้าไปในห้องหนังสือด้านข้างแล้วให้ตามเอี้ยนชิงเข้าพบ
ไท่เว่ยถามว่า “เจ้ามาจากที่ใด”
เอี้ยนชิงว่า “ผู้น้อยมาจากซานตง มาส่งหนังสือของท่านเสนาธิการเหวิน”
ซู่ไท่เว่ยว่า “เสนาธิการเหวินคนไหน”
เอี้ยนชิงล้วงหนังสือจากอกเสื้อส่งมอบให้
ซู่ไท่เว่ยดูหน้าซองแล้วว่า “คิดว่าเสนาธิการเหวินไหน ที่แท้สหายเรียนวัยเด็กของข้า เหวินห้วนจาง”
แล้วฉีกซองนำหนังสือมาอ่าน ใจความสรุปได้ว่า
“เหวินห้วนจาง กราบเรียนท่านไท่เว่ย
ผู้น้อยเคยร่วมศึกษากับท่านเมื่อสามสิบปีที่แล้ว
ในการศึกที่ผ่านมาไม่นาน ท่านเกาเตี้ยนส้วยได้เรียกตัวไปเป็นที่ปรึกษา ทว่าท่านไม่ฟังคำแนะนำทัดทานด้วยความสัตย์ พ่ายศึกสามครั้งเป็นความอัปยศ เกาไท่เว่ยและผู้น้อยตกเป็นเชลยถูกจองจำ ท่านซ่งกงหมิงผู้ทรงคุณธรรมมีความกรุณาหาได้ทำอันตรายอย่างใดไม่ ได้ปล่อยตัวเกาเตี้ยนส้วยกลับมาเมืองหลวงพร้อมนำผู้ติดตามจากเขาเหลียงซานมาด้วยสองคนคือ เซียวย่าง และเยว่เหอ เพื่อมาขอนิรโทษกรรม ให้ผู้น้อยอยู่เป็นตัวประกัน
ขอให้นายท่านเห็นแก่ความสัมพันธ์แต่ครั้งยังเยาว์ ได้โปรดช่วยเพ็ดทูลเรื่องนิรโทษกรรมให้แก่พวกซ่งกงหมิง ให้พ้นโทษและหวนรับใช้บ้านเมือง เป็นโชคอันประเสริฐของแผ่นดิน และเป็นการช่วยเหลือผู้น้อยให้ได้กลับมามีชีวิตใหม่
ขอได้โปรดพิจารณา
ปีเซวียนเหอที่สี่เดือนอ้าย วัน… ห้วนจางกราบเรียนมา”
ซู่ไท่เว่ยอ่านจบตะลึงงัน ถามว่า “ท่านเป็นใคร”
เอี้ยนชิงว่า “ตัวข้าคนเสเพลเอี้ยนชิงแห่งเหลียงซาน” แล้วนำเอาตะกร้าใส่ทรัพย์สินเงินทองวางลงแล้วว่า
“เมื่อครั้งท่านไท่เว่ยไปทำพิธีสักการะที่ฮว่าโจว ได้เคยพบกันหลายครั้ง นายท่านลืมแล้วหรือ ท่านพี่ซ่งเจียงมีของกำนัลมาเล็กน้อยเพื่อแสดงน้ำใจ ท่านพี่และพวกต่างตั้งตารอคอยนิรโทษกรรม หากท่านไท่เว่ยช่วยเพ็ดทูลเรื่องนี้ จักเป็นพระคุณต่อชาวเหลียงซานนับหมื่นชีวิต ตัวข้าขอลา”
ซู่ไท่เว่ยให้เก็บทรัพย์สินขึ้น แล้วกำหนดเรื่องนิรโทษกรรมไว้ในใจ
ตอนก่อนหน้า : หลี่ซือซือชื่นชมรอยสัก
ตอนถัดไป : นิรโทษกรรมครั้งที่สาม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา