Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
30 ธ.ค. 2024 เวลา 09:40 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 191 นิรโทษกรรมครั้งที่สาม
เอี้ยนชิง และไต้จงกลับมาถึงที่พัก หารือกันว่า
“ภารกิจคืบหน้าไปแล้วสอง ยังเหลือเรื่องช่วยเซียวย่าง เยว่เหอออกมาจากจวนเกาไท่เว่ย”
ไต้จงว่า “ท่านกับข้าปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ไปดักรอแถวหน้าจวนเกาไท่เว่ย รอมีใครออกมา ก็ติดสินบนขอพบใครคนใดคนหนึ่งในสอง แลกเปลี่ยนข่าวคราว ค่อยหาทางลงมือ”
ทั้งสองเปลี่ยนชุด นำเงินทองติดพก มารอดูลาดเลาอยู่หน้าที่ว่าการที่เชิงสะพานไท่ผิง เห็นหวีโห้วหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาจากจวน เอี้ยนชิงจึงตรงเข้ามาคารวะทักทาย
หวีโห้วว่า “ท่านเป็นใคร”
เอี้ยนชิงว่า “เชิญท่านกั้นปั้น 干办 มาสนทนาในร้านน้ำชา”
ทั้งสองเข้ามาในห้องที่ไต้จงนั่งรออยู่ ทักทายแล้วนั่งลงดื่มน้ำชา
เอี้ยนชิงว่า “เรียนท่านกั้นปั้นตามตรง ก่อนหน้านี้ท่านไท่เว่ยพาคนสองคนมาจากเหลียงซานป๋อ หนึ่งในสองเรียกว่า เยว่เหอ เป็นญาติของพี่ชายท่านนี้ อยากพบหน้าสักหน จึงใคร่ขอรบกวนท่านกั้นปั้น”
หวีโห้วว่า “ท่านทั้งสองเลิกคิด เรื่องภายในที่ว่าการ ใครกล้ายุ่งเกี่ยว”
ไต้จงนำเงินแท่งใหญ่จากแขนเสื้อวางลงบนโต๊ะ แล้วว่า “เพียงท่านนำเยว่เหอมาพบสักหน ไม่ต้องออกมาพ้นที่ว่าการ เงินแท่งนี้ก็ขอมอบแก่ท่าน”
คนผู้นั้นเห็นเงินแท่งใหญ่ ย่อมมีใจละโมบ บอกว่า “อันที่จริงก็มีสองคนที่ว่าอยู่ด้านใน ไท่เว่ยมีบัญชาให้กักบริเวณไว้ที่สวนดอกไม้ด้านหลัง ข้าจะไปพามาสนทนากับท่าน แต่อย่าผิดคำพูด มอบเงินแท่งนี้แก่ข้า”
ไต้จงว่า “นั่นย่อมแน่นอน”
คนผู้นั้นลุกขึ้นแล้วว่า “พวกท่านรอที่ร้านน้ำชานี่แหละ” แล้วรีบกลับเข้าจวนไป
ไต้จง เอี้ยนชิงนั่งรอในร้านน้ำชาได้ราวครึ่งชั่วโมง หวีโห้วรีบเข้ามาพบ แล้วว่า “เอาเงินมาให้ข้าก่อน เยว่เหอรออยู่ในห้องทางปีกแล้ว”
ไต้จงกระซิบกระซาบข้างหูเอี้ยนชิง แล้วมอบเงินแท่งให้หวีโห้ว หวีโห้วพาเอี้ยนชิงมายังห้องทางปีกพบกับเยว่เหอแล้วว่า “พวกท่านคุยกันไป”
เอี้ยนชิงบอกกับเยว่เหอว่า “ข้ามากับไต้จง วางแผนจะพาท่านทั้งสองหนี”
เยว่เหอว่า “พวกข้าสองคนถูกกักตัวในสวนดอกไม้ด้านหลัง กำแพงก็สูง บันไดถูกเก็บไปหมด จะหนีออกมาอย่างไร”
เอี้ยนชิงว่า “ใกล้กำแพงมีต้นไม้อะไรไหม”
เยว่เหอว่า “ข้างกำแพง มีแนวต้นหลิ่ว”
เอี้ยนชิงว่า “คืนนี้ คอยฟังเสียงกระแอมไอเป็นสัญญาณ ข้าจะโยนเชือกเข้ามาจากด้านนอกสองเส้น ท่านผูกเอาไว้กับต้นหลิ่วที่อยู่ใกล้ พวกข้าข้างนอกจะผูกหรือยึดไว้ให้มั่น พวกท่านไต่เชือกออกมา เวลายามสี่ อย่าให้ผิดเวลา”
เสียงหวีโห้วเร่งมา “พวกท่านมัวคุยอะไรกัน รีบกลับเข้าไปเถิด”
เยว่เหอกลับเข้าไปนัดแนะกับเซียวย่าง เอี้ยนชิงกลับมาแจ้งแก่ไต้จง
เอี้ยนชิง ไต้จง หาซื้อเชือกแล้วไปสำรวจดูลาดเลาหลังจวนไท่เว่ย มีแม่น้ำอยู่ห่างจากหลังจวนไม่ไกล ริมน้ำผูกเรือว่างไว้สองลำ ทั้งสองลงไปซุ่มรอในเรือ จนกระทั่งดึกเสียงกลองยามบอกเวลายามสี่ ทั้งสองขึ้นฝั่งเดินมาริมกำแพงแล้วกระแอมไอ หลังกำแพงมีเสียงกระแอมไอตอบ เอี้ยนชิงโยนปลายเชือกสองเส้นเข้าไป คะเนว่าเชือกคงผูกไว้แน่นหนาแล้ว จึงพันเชือกเข้ากับแขนแล้วดึงเชือกให้ตึงมั่นคง เยว่เหอไต่เชือกออกมาก่อน ตามมาด้วยเซียวย่าง
พอทั้งคู่ออกมาพร้อมแล้ว ก็โยนเชือกทั้งสองเส้นข้ามกำแพงไปในสวน แล้วทั้งสี่ก็กลับมาเก็บสัมภาระยังที่พัก หุงหาอาหารเช้า ชำระค่าที่พัก แล้วมารอประตูเมืองเปิด เดินทางกลับมารายงานตัวที่เหลียงซาน
เช้าวันรุ่งขึ้น คนส่งอาหารเช้ามาไม่พบเซียวย่าง เยว่เหอ จึงรายงานพ่อบ้าน พ่อบ้านให้คนออกตรวจค้นพบเชือกสองเส้นรู้ว่าคงหนีไปแล้วจึงมารายงานเกาไท่เว่ย เกาไท่เว่ยตะลึงมึนงง แต่ทำได้เพียงแกล้งนอนป่วยต่อไป
เช้ายามห้า เต้าจวินฮ่องเต้เสด็จออกว่าราชการ ณ ท้องพระโรงตำหนักเหวินเต๋อ 文德殿
ฮ่องเต้ตรัสเรียกซูมี่สื่อถงก้วนมาถามว่า “ปีที่แล้ว ท่านนำทหารหนึ่งแสนไปปราบโจรเขาเหลียงซาน ผลการรบเป็นเช่นไร”
ถงก้วนคุกเข่าลงกราบทูลว่า “ปีที่แล้ว กระหม่อมนำทัพไปกระทำการมิสำเร็จ เนื่องด้วยอากาศร้อน เหล่าทหารมิคุ้นเคยดินฟ้าอากาศ ล้มป่วยกันมากถึงสามในสิบคน กระหม่อมเห็นว่าทหารแลม้าได้ยาก จึงถอยทัพพักรบ ให้ทหารหัวเมืองแยกย้ายกันกลับไปพักบำรุง ทหารเมืองหลวงก็เจ็บป่วยล้มตายกันระหว่างทางเสียมาก ต่อมาทรงมีพระราชโองการไปอีกครั้ง แต่โจรพวกนี้ยังคงไม่ยอมสวามิภักดิ์ กระทั่งเกาฉิวต้องเตรียมนำทัพเรือเข้าโจมตี แต่เกิดป่วยระหว่างทางจำต้องถอยทัพ”
โอรสสวรรค์พิโรธจัดตรัสว่า
“พวกเจ้าล้วนเป็นขุนนางสอพลออิจฉาคนดีมีความสามารถปิดบังข้า ปีที่แล้วเจ้ายกทัพไปปราบเหลียงซาน พ่ายศึกสองครั้ง ทหารและยุทธภัณฑ์แทบไม่มีเหลือกลับมา ต่อมาเกาฉิวใช้ทรัพย์เสบียงมากมายไปต่อเรือ แต่ก็พ่ายแพ้เสียทหาร แม้แต่ตัวเองยังตกเป็นเชลย พวกซ่งเจียงไม่ฆ่า ปล่อยตัวกลับมา
ข้าฟังมาว่าพวกซ่งเจียงไม่ตีเมืองเพื่อยึดครอง ไม่ทำร้ายราษฎร เพียงรอนิรโทษกรรม เพื่อหวนรับใช้บ้านเมือง แต่เป็นเพราะขุนนางขี้ฉ้อสอพลอเช่นพวกเจ้า ทำให้เสียงานใหญ่ของประเทศ พวกเจ้าดูแลกลาโหม เหตุใดไม่ประหารตัวเองเสีย ครั้งนี้ข้าจะละเว้นให้ แต่อย่าให้มีครั้งหน้าอีก”
ถงก้วนได้แต่สงบปาก ถอยกลับไปด้านข้าง
โอรสสวรรค์ตรัสถาม “พวกท่าน ใครจะอาสาไปนิรโทษเหล่าเหลียงซาน”
ไท่เว่ยซู่หยวนจิ่ง 宿元景 ก้าวออกมาคุกเข่าลงว่า “กระหม่อมแม้ด้อยความสามารถ จะขออาสา”
โอรสสวรรค์ทรงพอพระทัย ให้นำเครื่องเขียนและตราหยกมา ทรงพระอักษรและประทับตราหยกด้วยองค์เอง แล้วมีพระบัญชาให้พระคลังจัดเตรียม ป้ายทองสามสิบหกอัน ป้ายเงินเจ็ดสิบสองอัน แพรแดงสามสิบหกพับ แพรเขียวเจ็ดสิบสองพับ สุราพระราชทานหนึ่งร้อยแปดขวด ให้กับซู่ไท่เว่ยนำไปมอบแก่พวกเหลียงซาน เกาไท่เว่ยแกล้งป่วยอยู่กับบ้านทราบข่าวแล้วก็ยังคงไม่กล้าเข้าเฝ้า
一封恩诏出明光,伫看梁山尽束装。
知道怀柔胜征伐,悔教赤子受痍伤。
ราชโองการเปี่ยมพระคุณการุณแสง
ชาวเหลียงซานจัดแจงเก็บข้าวของ
รู้ผันผ่อนเหนือกำราบกันก่ายกอง
เด็กแดงมิต้องฟกช้ำทำเสียใจ
เอี้ยนชิง ไต้จง เซียวย่าง เยว่เหอ กลับมาถึงเหลียงซานรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงให้ที่ประชุมฟัง เอี้ยนชิงนำลายพระหัตถ์ของฮ่องเต้มาให้ดูกันด้วย
อู๋ย่งว่า “คราวนี้คงมีข่าวดี”
ซ่งเจียงจุดธูป นำตำราเสวียนหนวี่มาบูชาอธิษฐาน จับยามทำนายได้ว่าดีเลิศ
ซ่งเจียงชอบใจยิ่งนัก “เรื่องนี้คงสำเร็จ ให้ไต้จง เอี้ยนชิงไปสืบถามความคืบหน้า ได้ความอย่างไรให้เร่งมารายงานเพื่อที่จะได้เตรียมตัว”
ไม่กี่วันต่อมาไต้จง เอี้ยนชิงกลับมาแจ้งว่า “ทางราชสำนักให้ซู่ไท่เว่ยเป็นผู้อัญเชิญพระราชโองการพร้อม สิ่งของพระราชทาน อีกไม่นานคงมาถึง”
ซ่งเจียงให้ตระเตรียมรับพระราชโองการ อีกทั้งให้ตั้งปะรำพิธีขึ้นยี่สิบสี่แห่งระหว่างทางจากเมืองจี้โจวถึงเขาเหลียงซาน ชั้นบนให้ตกแต่งด้วยระย้าไม้ดอก ชั้นล่างจัดคณะมโหรีคอยบรรเลงตลอดระยะทาง
ไม่นานวัน เจ้าเมืองจี้โจวจางซูเย่นำคณะมาแจ้งข่าว ซ่งเจียงรีบลงเขามารับ แล้วนำทางขึ้นเขามายังหอธรรมภักดิ์
จางซูเย่ว่า “ขอแสดงความยินดีกับท่านผู้ทรงธรรม ราชสำนักให้ท่านซู่ไท่เว่ยอัญเชิญพระราชโองการและสิ่งของพระราชทานมาเพื่อการนิรโทษกรรม บัดนี้มาถึงเมืองจี้โจวแล้ว ท่านผู้ทรงธรรมโปรดตระเตรียมรับพระราชโองการด้วย”
ซ่งเจียงยินดียิ่ง กุมมือจรดหน้าผากกล่าวว่า “เป็นบุญของพวกซ่งเจียงดังได้เกิดใหม่” แล้วเชิญให้จางซูเย่อยู่รับอาหารเลี้ยง
จางซูเย่ว่า “หาใช่ข้าอยากปฏิเสธ แต่เกรงท่านไท่เว่ยจะรอจนเสียการ”
ซ่งเจียงจึงให้นำเงินทองใส่ถาดมามอบให้เป็นของกำนัล จางซูเย่ปฏิเสธที่จะรับ
ซ่งเจียงว่า “เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อย หลังสำเร็จการใหญ่ จะขอตอบแทนอย่างยิ่งยวด”
จางซูเย่ปฏิเสธว่า “เช่นนั้นก็ขอฝากท่านไว้ที่ค่ายเถิด หากข้ามีความจำเป็นต้องใช้ จะมาขอรับ”
济州太守世无双,不爱黄金爱宋江。
信是清廉能服众,非关威势可招降。
เจ้าเมืองจี้โจวในหล้าหาใครเหมือน
ทองเชือนแชแต่ซ่งเจียงรักคบหา
เชื่อจริงใจใช้สยบเหล่านักรบกล้า
หาใช่ยอมสามิภักดิ์ด้วยกำลัง
ซ่งเจียงจึงให้อู๋ย่ง จูอู่ เซียวย่าง เยว่เหอ ทั้งสี่บัณฑิตติดตามท่านเจ้าเมืองกลับจี้โจวไปพบท่านซู่ไท่เว่ย นัดหมายกันวันมะรืนให้อัญเชิญพระราชโองการมา เหล่าชาวเหลียงซานจะรอรับห่างจากเขาเหลียงซานสามสิบลี้
เช้าตรู่วันที่สาม ขบวนอัญเชิญพระราชโองการของซู่ไท่เว่ยออกเดินทางจากเมืองจี้โจว มีสี่บัณฑิตเขาเหลียงซานตามหลัง ตลอดทางมีปะรำพิธีบรรเลงมโหรีต้อนรับ จนมาพบขบวนเหล่าผู้กล้าเขาเหลียงซานห่างจากเขาสามสิบลี้ รอรับมาลงเรือใหญ่ข้ามมายังหาดทรายทอง แล้วขึ้นเขามายังหอธรรมภักดิ์ กลางหอจัดตั้งป้ายมังกรแทนองค์จักรพรรดิ อัญเชิญพระราชโองการวางเบื้องหน้า หีบป้ายทองป้ายเงินวางเบื้องซ้าย หีบแพรแดงแพรเขียววางเบื้องขวา สุราพระราชทานวางหว่างกลางเบื้องหน้า
ซ่งเจียงเชิญซู่ไท่เว่ย เจ้าเมืองจางนั่งบนหอ เซียวย่าง เยว่เหอยืนเบื้องซ้าย เผยเซวียน เอี้ยนชิงยืนเบื้องขวา ซ่งเจียง หลูจวิ้นอี้นำเหล่าผู้กล้าคุกเข่าอยู่หน้าหอ เผยเซวียนขานให้กราบคารวะ จากนั้นเซียวย่างเปิดอ่านพระราชโองการสรุปความว่า
นับแต่เจิ้นขึ้นครองราชย์ ใช้กรุณาธิคุณปกครองแผ่นดิน ให้รางวัลและลงโทษอย่างเที่ยงธรรม ไม่ละเลยการแสวงหาปราชญ์ รักใคร่ไพร่ฟ้า เป็นที่รับรู้ทั้งใกล้แลไกล ตระหนักว่าซ่งเจียง หลูจวิ้นอี้และพวก มีความจงรักภักดี หาได้ก่อการร้าย มีใจสามิภักดิ์ มีปณิธานอันแน่วแน่ใคร่รับใช้บ้านเมือง แม้จะเคยกระทำผิด ต่างก็มีเหตุผลลำพังตน
เมื่อตรวจสอบดูแล้วก็น่าเห็นใจ เจิ้นจึงให้เตี้ยนเฉียนไท่เว่ย ซู่หยวนจิ่ง นำราชโองการมายังเหลียงซานป๋อ อภัยโทษทั้งปวงแก่เหล่าซ่งเจียงทั้งน้อยใหญ่ มอบป้ายทองสามสิบหกแผ่น แพรแดงสามสิบหกพับแก่เหล่าหัวหน้าชั้นเอก มอบป้ายเงินเจ็ดสิบสองแผ่น แพรเขียวเจ็ดสิบสองพับแก่เหล่าหัวหน้าชั้นโท ราชโองการมาถึงวันใด จงสามิภักดิ์ เพื่อรับภาระสำคัญ มีราชโองการนี้ ให้เป็นที่รู้ทั่วกัน
ปีเซวียนเหอที่สี่ วสันตฤดูเดือนยี่ วัน… มีราชโองการ
เซียวย่างอ่านจบ เหล่าซ่งเจียงกราบถวายพระพรหมื่นปี จากนั้นซู่ไท่เว่ยนำป้ายทองเงิน แพรแดงเขียวให้เผยเซวียนแจกจ่ายตามลำดับ เสร็จแล้วนำสุราพระราชทานหนึ่งร้อยแปดขวดเทลงในอ่างเงินใบใหญ่ ซู่ไท่เว่ยนำจอกทองตักประเดิมดื่มเป็นจอกแรก ตามด้วยซ่งเจียง หลูจวิ้นอี้ตักดื่มคนละจอกตามลำดับไปจนครบหนึ่งร้อยแปดคน
จบพิธีการลง ซ่งเจียงกล่าวกับซู่ไท่เว่ยว่า
“ซ่งเจียงได้รู้จักกับท่านไท่เว่ยที่ขุนเขาตะวันตก เป็นพระคุณที่ท่านไท่เว่ยได้ช่วยเพ็ดทูลจนกระทั่งเหล่าซ่งเจียงได้โอกาสเห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้ง พระคุณนี้จะจารึกไว้มิมีวันลืมเลือน”
ซู่ไท่เว่ยว่า
“หยวนจิ่งแม้จะรู้ว่าเหล่าท่านผู้ทรงธรรมมีใจภักดี ผดุงธรรมแทนฟ้า แต่หาได้รู้ตื้นลึกหนาบางไม่ จึงได้ล่าช้าในการเพ็ดทูลต่อโอรสสวรรค์ จนกระทั่งได้รับหนังสือของท่านเสธ.เหวิน จึงได้เข้าเฝ้าเพื่อกราบทูล ปรากฏว่า โอรสสวรรค์ทรงทราบรายละเอียดของเรื่องล่วงหน้าแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อเสด็จออกว่าราชการยังได้ทรงตำหนิถงซูมี่ เกาไท่เว่ยต่อหน้าเหล่าขุนนาง ทั้งยังทรงพระอักษรด้วยพระองค์เอง มอบหมายให้ผู้แซ่ซู่อัญเชิญพระราชโองการมายังค่ายนี้ พวกท่านควรเดินทางเข้ากรุงโดยไว อย่าให้เสียน้ำพระทัยของพระองค์ท่าน”
เหล่าซ่งเจียงได้ฟังต่างยินดี เจ้าเมืองจางขอตัวกลับเมืองจี้โจวก่อนด้วยยังมีภารกิจ ซ่งเจียงเชิญเสธ.เหวินมาพบปะสนทนากับซู่ไท่เว่ย ค่ายเหลียงซานเลี้ยงรับรองซู่ไท่เว่ยสามวันก่อนเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมเสธ.เหวินร่วมทางด้วย พวกซ่งเจียงขอเวลาจัดการเลิกปัอมค่ายแล้วจะติดตามไป
ตอนก่อนหน้า : เอี้ยนชิงลอบเข้าเฝ้ายามราตรี
https://www.blockdit.com/posts/676d3566c1f9661c7e61c2f3
ตอนถัดไป : ซ่งเจียงเข้าเมืองหลวง
https://www.blockdit.com/posts/67751defb81c50e0f5a3bb94
บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย