Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
1 ม.ค. เวลา 10:50 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 192 ซ่งเจียงเข้าเมืองหลวง
ซ่งเจียงส่งซู่ไท่เว่ยเดินทางแล้ว ก็กลับมาประชุมกันที่หอธรรมภักดิ์ปรึกษากันว่า เหล่าทหารในค่ายนั้นมีทั้งพวกที่สมัครใจมาเป็นโจรเองแต่แรก พวกที่ติดตามหัวหน้ามา พวกที่ถูกจับเป็นเชลยแล้วกลับมาเข้าพวก บัดนี้เหล่าหัวหน้าได้สามิภักดิ์ต่อราชสำนักแล้ว ให้สอบถามว่าใครสมัครใจจะติดตามไปเป็นทหารหลวง หรือจะขอแยกทางไป เหล่าทหารที่ขอแยกทางมีราวห้าพันคน จึงแบ่งทรัพย์สินให้ตามสมควร
นับแต่ค่ายเขาเหลียงซานก่อตั้งมาแต่ครั้งหวางหลุนเป็นนายส้อง ต่อมาคือเฉาไก้ จนมาถึงซ่งเจียง เป็นเวลาหลายปี ได้รบกวนราษฎรโดยรอบอยู่ไม่น้อย ซ่งเจียงจึงเห็นสมควรชดเชยเหล่าราษฎร โดยนำทรัพย์สินในคลังเหลียงซานแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งแบ่งแก่พี่น้องเหลียงซานทั้งเหล่าหัวหน้าและไพร่พล ส่วนหนึ่งเตรียมส่งมอบแก่ราชสำนัก ส่วนหนึ่งเตรียมชดเชยเหล่าราษฎร
ให้เซียวย่างเขียนประกาศนำไปปิดไว้ตามหัวเมืองตำบลหมู่บ้านโดยรอบทิศว่า ในวาระที่เหล่าชาวเหลียงซานได้รับพระราชทานนิรโทษกรรม เขาเหลียงซานจะเปิด “ตลาดไหม่สื้อ 买市” เป็นเวลาสิบวันนับตั้งแต่วันที่สามถึงวันที่สิบสามเดือนสาม ให้เหล่าราษฎรโดยรอบมารับทรัพย์สิ่งของสมนาคุณที่ได้เคยรบกวนให้ได้ยาก ระหว่างงานยังจัดเลี้ยงสุราอาหารให้ผู้ที่เดินทางมาด้วย
เปิดตลาดชดเชยครบกำหนดสิบวัน ซ่งเจียงดำริจะส่งครอบครัวเหล่าทหารกลับสู่ภูมิลำเนา แต่อู๋ย่งทักท้วงว่า “พี่ท่าน หาสมควรไม่ ให้ครอบครัวเหล่านี้พำนักที่ค่ายนี้ไปพลางก่อน พวกเราควรรีบเข้าเฝ้าขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้นค่อยกลับมาจัดการส่งครอบครัวกลับภูมิลำเนา”
ซ่งเจียงว่า “ท่านเสธ.กล่าวสมควรยิ่ง” แล้วเร่งให้จัดขบวนเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงโดยแวะขอบคุณเจ้าเมืองจางซูเย่ที่เมืองจี้โจวก่อน และให้ไต้จง เอี้ยนชิงล่วงหน้าไปรายงานกำหนดการเดินทางแก่ซู่ไท่เว่ยให้ทราบล่วงหน้า
เมื่อซู่ไท่เว่ยรู้กำหนดเดินทางของซ่งเจียงแล้ว จึงเข้าเฝ้าโอรสสวรรค์เพ็ดทูลให้ทรงทราบ โอรสสวรรค์ให้ซู่ไท่เว่ยนำทูตไปแจ้งแก่ซ่งเจียงให้ตั้งค่ายพักรอที่นอกประตูเมืองซินเฉา 新曹门 เมื่อมาถึง
ซู่ไท่เว่ยกลับมาจากไปแจ้งข่าวให้ซ่งเจียงแล้ว โอรสสวรรค์ทรงรับสั่งว่า
“ข้ารู้มาว่าพวกซ่งเจียงหนึ่งร้อยแปดนายนั้นเป็นเทพสวรรค์มาจุติ มีความองอาจห้าวหาญ บัดนี้ยินดีสวามิภักดิ์ เดินทางมาถึงเมืองหลวง ข้าจะนำข้าราชบริพารขึ้นไปบนหอเซวียนเต๋อ 宣德楼 ให้เหล่าซ่งเจียงนำพลทหารม้าและเดินเท้าห้าร้อยนายสวมเกราะถืออาวุธสวนสนามจากด้านตะวันออกสู่ด้านตะวันตกของเมือง ให้เหล่าราษฎรและขุนนางได้เห็นความเกรียงไกร แลประจักษ์ตาว่าบัดนี้ได้มาเป็นข้าราชสำนักผู้ภักดีแล้ว ต่อจากนั้น ให้ถอดเกราะปลดอาวุธ สวมชุดแพรพระราชทาน เข้าเมืองทางประตูตงหัว 东华门 มาเข้าเฝ้า ณ ตำหนักเหวินเต๋อ 文德殿”
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงจัดขบวนให้ธงทิวฆ้องกลองนำหน้าตามด้วยทหารถือหอกดาบสรรพาวุธ กลางขบวนเป็นกองทหารขี่ม้าขาวชูธงแดงสองหน้า หน้าหนึ่งเขียนอักษร “คล้อยตามฟ้า 顺天” อีกหน้าเขียนอักษร “รักษาชาติ 护国” ตามด้วยหนึ่งร้อยแปดผู้กล้าเหลียงซาน เคลื่อนขบวนเข้าเมืองทางประตูตงกวอ 东郭门 ข้ามเมืองไปทางตะวันตก สองข้างทางเหล่าชาวเมืองหอบลูกจูงหลานมาเฝ้าชม ฮ่องเต้เสด็จด้วยข้าราชบริพารขึ้นหอเซวียนเต๋อทอดพระเนตร
风清玉陛,露挹金盘。
东方旭日初升,北阙珠帘半卷。
南熏门外,百八员义士归心;
宣德楼前,亿万岁君王刮目。
肃威仪乍行朝典,逞精神犹整军容。
风雨日星,并识天颜之霁;
电雷霹雳,不烦天讨之威。
พระพายชื่นโชยพัดอัฒจันทร์หยก
ฉ่ำน้ำค้างปรกนองจานทองใส่
เบื้องบูรพาไขแสงอาทิตย์อุทัย
ลมเหนือไหวม้วนวิสูตรมุตตา
เบื้องนอกพระทวารหมู่วังเวียง
รายเรียงหนึ่งร้อยแปดผู้กล้า
เบื้องบนหอเซวียนเต๋อทัศนา
พระหมื่นวษาประทับกับข้าบริพาร
ขบวนสวนสนาม เคร่งขรึมงามสง่า
องอาจรักษาวินัยทหารหาญ
ฟ้าใสไร้แดดลมฝนแผ้วพาน
หาสะท้านฟ้าผ่าฟ้าคำรณ
เบื้องพระพักตร์พระผ่านฟ้า เหล่าวิญญาทรงฤทธิเดช จอมเวทเซียนนาจา ต้าเสิ้งยมบาล ไท่สุ้ยตุลาการ ทวารบาลภูตผี มีปักหลั่นยักษา จอมมารมาบังคมคัล สารพันสัตว์ร้าย เข้าเฝ้าใต้หอหงสา เต่ากิเลนซวนหนี ตะเข้อินทรีลิง สมิงเสือดาวครุฑา หมาหนูงูแมงป่อง ฮ่องเต้ซ่งถวายพระพร
เหล่ามังกรทั้งปวง ทะลวงป่าทะลวงถ้ำ ตลบน้ำดั้นเมฆ เขาเดียวเอกน้ำขุ่น เก้าลายหนุนพระทรงชัย จากพงไพรเหล่าเสือร้าย คอลายหน้าเป็นตาคราม โจนข้ามห้วยติดปีก อีกต้องศรขนแพร เสือเตี้ยแม่เสือน้อมนบ ครบทุกอาชีพสาขา ประติมากรเทพคำนวณ คนสวนผักชาวเรือหมอ ต่อนาวาเสาตุงหยก
พวกปรกหนวดไว้เครา เจ้าเครางามเฒ่าเคราม่วง ปวงสตรีหาญกล้า ผู้จาริกเสเพลสงฆ์ พวกผู้ทรงยศถา ตุลากองหน้าขุนพล อีกทั้งคนเป็นเขยเจ้า คนเบื้องเก่าเกิดใหม่มี หลีกว่างเวินโหววี่ฉือ คือเหยินกุ้ยป้าอ๋อง มองดูเหมือนกวนสว่อ
คนหน้าหล่อหน้ามน คนนิยมทัดกิ่งผกา หมัดหน้ากลองขลุ่ยบรรเลง ร้องเพลงรำพัดหวีดเหล็ก คนหน้าเฉกเช่นผี ข่มขวัญหนีหน้าสัตว์ คนจัดส่งข้ามภพ ไร้ใครคบไม่ไว้หน้า ผีผมแดงจอมบุ่มบ่าม ตาครามควบสามเขา เจ้าขุนพลศิลา ลูบคลำฟ้าคะนองคลื่น เหนือขุนนางชั่วช้า ผองเหล่าเหลียงซานกล้า ต่อหน้าภูมี พลีถวาย
เสร็จพิธีสวนสนาม เหล่าซ่งเจียงทั้งหนึ่งร้อยแปดผัดชุดเกราะเป็นชุดแพรแดงเขียวพระราชทานประดับป้ายทองเงิน เว้นแต่กงซุนเสิ้งนำแพรแดงตัดเป็นชุดพรต หลู่จื้อเซินตัดเป็นจีวร อู่ซงตัดเป็นชุดคลุม ยามเฉิน 辰牌 (8:00 น.) ซ่งเจียง หลูจวิ้นอี้นำหน้า อู๋ย่ง กงซุนเสิ้งลำดับถัดมา ตามด้วยเหล่าพี่น้องตามลำดับ เข้าเมืองทางประตูตงหัว 东华门 มายังตำหนักเหวินเต๋อ 文德殿 เข้าเฝ้าและรับพระราชทานเลี้ยง
九重凤阙新开宴,千岁龙墀旧赐衣。
盖世功名能自立,矢心忠义岂相违。
หอหงสาเก้าชั้นสโมสร
พัสตราภรณ์พระราชทานมางานใส่
เลื่องลือชาทั่วหล้านามเกรียงไกร
ปักใจจงรักภักดีมิผันแปร
งานเลี้ยงดำเนินไปจนยามเย็น เสร็จงานกลับออกทางประตูซีหัว 西华门 มายังค่ายพัก
เช้าวันรุ่งขี้น เหล่าซ่งเจียงเข้าเฝ้าขอบพระทัยที่ตำหนักเหวินเต๋อ โอรสสวรรค์ทรงมีพระประสงค์จะอวยยศเหล่าซ่งเจียงโดยให้รอฟังข่าวในวันรุ่งขึ้น เหล่าซ่งเจียงกราบบังคมลากลับค่ายพัก
ถงก้วนสภากลาโหม(ซูมี่ย่วน)เพ็ดทูลว่า “เหล่าซ่งเจียงเพิ่งมาสามิภักดิ์ใหม่ ยังหาได้สร้างผลงานอันใด มิสมควรอวยยศโดยง่ายในทันที ควรรอจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์เสียก่อน ทุกวันนี้ บ้านเมืองยังมีภัยรุกรานจากกองกำลังต่างๆ ในกลุ่มซ่งเจียงมีข้าราชสำนักเก่าอยู่หลายคน ฝ่าบาทควรมีรับสั่งให้กลับคืนไปรักษาการในตำแหน่งเดิม ส่วนคนที่เหลือก็ให้กระจายไปรับราชการยังซานตง เหอเป่ย ตามสมควรแก่การจัดกำลังคน”
วันรุ่งขึ้น ข้าหลวงมาถ่ายทอดพระราชโองการด้วยวาจาให้เหล่าซ่งเจียงแยกย้ายกันไปตามภูมิลำเนาโดยเฉพาะพวกข้าราชการเดิมให้กลับไปรายงานตัวตามตำแหน่งเดิม
พวกซ่งเจียงทราบความแล้วอึดอัดใจอย่างยิ่ง กล่าวตอบข้าหลวงว่า
“พวกข้าสามิภักดิ์ต่อราชสำนัก ยังไม่ทันได้อวยยศอันใด ก็จะมาพรากพวกข้าพี่น้องเสียจากกัน พวกข้าร่วมสาบานเป็นตายไม่พรากจาก หากเป็นเช่นนี้ คงจำต้องกลับไปอยู่เขาเหลียงซานดังเก่า”
ซ่งเจียงรีบกล่าวเตือนเหล่าพี่น้องให้สงบปากคำ แล้วขอร้องข้าหลวงมิให้นำความกราบทูล
ข้าหลวงมิอาจปิดบังข้อท็จจริงเมื่อกลับมาถึงจึงเพ็ดทูลองค์โอรสสวรรค์ถึงความไม่พอใจของเหล่าชาวเหลียงซาน ฮ่องเต้ทรงสะดุดพระทัย รีบตามขุนนางสภากลาโหมเข้ามาหารือ
ถงก้วนหนึ่งในขุนนางสภากลาโหมกล่าวว่า “คนพวกนี้ยังไม่ทิ้งสันดานเดิม หากทิ้งไว้จะเป็นภัยใหญ่หลวง ตามความเห็นของกระหม่อม ฝ่าบาทควรมีพระราชโองการให้ทั้งหนึ่งร้อยแปดคนเข้าเมืองมา แล้วจับกุมตัวสำเร็จโทษเสีย จากนั้นให้เหล่าบริวารแยกย้ายกันไป ไม่เป็นเสี้ยนหนามในภายหน้า”
ฮ่องเต้ยังทรงลังเลพระทัย พลันมีคนผู้หนึ่งก้าวออกมาจากหลังบังตา กล่าวด้วยเสียงอันดังว่า
“เภทภัยยังไม่สงบทั้งสี่ทิศ กลับจะมาก่อเหตุใหม่ใจกลางเมือง แผ่นดินของพระองค์วุ่นวายทุกวันนี้เพราะมีขุนนางอย่างพวกท่าน”
คนผู้นี้คือ เตี้ยนเฉียนไท่เว่ยซู่หยวนจิ่งกราบทูลว่า
“ฝ่าบาท พวกซ่งเจียงเพิ่งมาสามิภักดิ์ใหม่ ทั้งหนึ่งร้อยแปดคนนั้นเปรียบกันดังแขนขา รักกันดังพี่น้องร่วมอุทร เป็นตายก็ไม่ยอมแยกจากกัน เหตุใดจึงกลับคิดจะเอาชีวิตพวกเขา ด้วยปัญญาความสามารถที่พวกเขามี หากเกิดเหตุพลิกผันขึ้นกลางเมืองหลวงจะแก้ไขกันอย่างไร
สถานการณ์ปัจจุบันนี้ พวกเมืองเหลียว 辽国 ยกทัพนับแสนมารุกรานชายแดน ยึดเอาพื้นที่แถบซานโห้วจิ่วโจว 山后九州 ไปได้หลายตำบล มีรายงานจากท้องที่หลายแห่งร้องขอกำลังส่งไปช่วยเหลือ แต่ทหารที่ส่งไปไม่ว่าเท่าไร เหมือนถมไม่รู้เต็ม ทัพข้าศึกเกรียงไกร ทหารของเรากลับไร้ยุทธวิธี รบไปมีแต่แพ้ เอาแต่ปิดบังฝ่าบาทเอาไว้
กระหม่อมเห็นว่า ควรให้พวกซ่งเจียงนำแม่ทัพนายกองและทหารในสังกัดไปรับทัพโจรเหลียว ปกป้องชายแดนสร้างผลงาน จะเป็นประโยชน์มากกว่า ขอทรงมีพระบัญชา”
โอรสสวรรค์พระพักตร์แช่มชื่นขึ้น ตรัสหารือเหล่าขุนนางคนอื่นๆ ต่างก็เห็นด้วย จึงทรงพระอักษรด้วยพระองค์เองมีพระราชโองการแต่งตั้งให้ซ่งเจียงเป็นแม่ทัพหน้าปราบเหลียว หลูจวิ้นอี้เป็นรองแม่ทัพหน้า นายทัพอื่นๆ จะแต่งตั้งตามผลงานหลังจากเสร็จศึกกลับมา ให้ซู่ไท่เว่ยเป็นผู้อัญเชิญพระราชโองการไปถ่ายทอดแก่พวกซ่งเจียงด้วยตัวเอง
ซู่ไท่เว่ยมาถ่ายทอดพระราชโองการยังค่ายของซ่งเจียง พวกซ่งเจียงยินดียิ่งนัก ซ่งเจียงว่า
“พวกข้ารอคอยโอกาสอันดีเช่นนี้ ที่จะได้รับใช้บ้านเมือง เป็นพระคุณของท่านไท่เว่ยที่ช่วยเพ็ดทูล ทว่า ที่เขาเหลียงซาน ยังมีป้ายบูชาของท่านหัวหน้าเฉา เหล่าครอบครัวทหาร ป้อมค่ายเรือรบยังอยู่ จึงใคร่ขอเวลาสิบวันกลับไปจัดการให้เรียบร้อยแล้วค่อยเคลื่อนทัพ ขอรบกวนท่านไท่เว่ยช่วยกราบทูลให้ด้วย”
ซู่ไท่เว่ยกลับมากราบทูลโอรสสวรรค์ พระองค์จึงพระราชทานทองคำหนึ่งพันตำลึง เงินห้าพันตำลึง แพรพรรณห้าพันพับ ให้ซู่ไท่เว่ยนำไปมอบให้ซ่งเจียงสำหรับให้แจกจ่ายแก่เหล่าทหารและครอบครัวตามที่เห็นสมควร ซู่ไท่เว่ยกำชับซ่งเจียงว่า ให้รีบจัดการงานที่เขาแล้วรีบกลับ ก่อนกลับให้คนมาแจ้งข่าวแก่ตนด้วย
ซ่งเจียงจึงให้ เสธ.อู๋ย่ง กงซุนเสิ้ง หลินชง หลิวถัง ตู้เชียน ซ่งว่าน จูกุ้ย ซ่งชิง สามหย่วนพี่น้อง นำกำลังพลหนึ่งหมื่นติดตามตนกลับไปยังเหลียงซาน หลูจวิ้นอี้กับพวกที่เหลือให้รออยู่ที่เมืองกรุง
ซ่งเจียงกลับไปถึงหอธรรมภักดิ์ สั่งการให้ล้มหมูล้มแพะจัดสุราอาหารและเครื่องกระดาษเซ่นไหว้เฉาไก้ เสร็จแล้วให้เผาป้ายวิญญาณเสีย ให้ครอบครัวเหล่าทหารเก็บข้าวของแล้วจัดส่งกลับภูมิลำเนา รวมถึงครอบครัวของตนเองด้วย ให้ส่งซ่งไท่กงกลับไปยังวิ่นเฉิงเป็นราษฎรสามัญไม่มีคดีติดตัวอีกต่อไป
ให้สามหย่วนพี่น้องคัดเรือรบสภาพดีไว้ใช้งาน ที่เหลือมอบให้แก่ชาวบ้านรอบหนองน้ำ จากนั้นให้รื้อหรือเผาป้อมด่านค่ายและอาคารต่างๆ บนเขาทิ้งเสียทั้งหมด จากนั้นก็เดินทางกลับสู่กรุง
ตอนก่อนหน้า : นิรโทษกรรมครั้งที่สาม
https://www.blockdit.com/posts/67726a7b3569877513f2f45e
ตอนถัดไป : หลั่งน้ำตาประหารพล
https://www.blockdit.com/posts/6777c1ead1888a0f82132ba4
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย