Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Antfield
•
ติดตาม
12 ม.ค. เวลา 08:55 • ความคิดเห็น
Pacific Palisades จากสรวงสวรรค์ที่เปลี่ยนเป็นนรกชั่วข้ามคืน เมื่อโลกร้อนไม่แบ่งแยกรวยหรือจนอีกต่อไป
ในรอบปีที่ผ่านมาสังคมคงเริ่มรับรู้ได้แล้วถึงคำตอบที่ว่า โลกร้อน โลกเดือด นั้นมันมีจริงไหม? เพราะทุกข่าวภัยพิบัติมันได้ตอบคำถามเหล่านี้ไปหมดแล้ว
เราจะเจอกับภัยพิบัติที่ทุบสถิติใหม่ด้วยความถี่ที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ฝนพันปี หนาวสุดขั้ว คลื่นความร้อนซึ่งจะคร่าชีวิตผู้คนและสร้างความเสียหายมากขึ้นเรื่อย ๆ
และล่าสุดกับข่าวไฟป่าที่ LA ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากภัยพิบัติครั้งก่อน ๆ ที่เราเคยได้ยินมาก็คือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบคือ "พวกคนรวย" นั่นเอง
ความคิดที่ว่าถ้ามีเงินมากพอก็ไม่เห็นต้องไปสนใจเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมอาจจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป? ใครจะไปคิดว่าเวลาแค่ไม่ถึงคืนเดียวจะเปลี่ยนสรวงสวรรค์ให้กลายเป็นนรกโลกันต์ได้
จากเหตุการณ์นี้คนมีเงินจะเริ่มหันมาสนใจปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจังมากขึ้น? มันก็คงมีบ้างกับบางคน แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่หรอกเพราะมนุษย์เรานั้นเรียนรู้และปรับตัวได้เร็ว
ไฟป่าครั้งหน้ามันอาจจะรุนแรงรวดเร็วกว่าครั้งนี้ แต่เชื่อได้ว่าความจะไม่มีความเสียหายแบบครั้งนี้อีกแล้ว เพราะมันก็สามารถใช้ความรู้และเงินเพื่อป้องกันความเสียหายได้ เช่นการออกแบบผังเมืองที่ต้องมีแนวกันไฟป่า ระบบป้องกันการลามไฟ เช่น ม่านน้ำ สิ่งปลูกสร้างที่ต้องไม่มีวัสดุลามไฟ สารพัดวิธีที่ถ้ามีเงินซะอย่างอะไรก็ทำได้
1
ยกตัวอย่างใกล้ตัวอย่างน้ำท่วมภาคใต้ที่ผ่านมา ซึ่งเราเจอกับปริมาณฝนที่มากกว่าปกติ แต่ตัวเมืองหาดใหญ่ที่เคยจมบาดาลบ้านเมืองเสียหายอย่างหนักมาเมื่อปี 2543, 2553 แต่รอบนี้ผลกระทบต่อพื้นที่ตัวเมืองถือว่าน้อย ทั้งนี้ด้วยระบบระบายน้ำที่สามารถผันน้ำผ่านบริเวณตัวเมืองออกไปได้
นั่นคือเราสามารถใช้ความรู้จัดการและควบคุมความเสียหายได้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เงินด้วย
ภาพน้ำท่วมตัวเมืองหาดใหญ่
ในระหว่างที่เรากำลังสนใจข่าวไฟป่าอยู่นี้ ในหลายพื้นที่ทั่วโลกก็กำลังประสบภัยหนาวอย่างหนัก เช่น จีน และเกาหลี เมื่อ 2-3 ปีก่อน เกาหลีก็เจอปัญหาภัยหนาวอย่างรุนแรงจนมีคนเร่ร่อนเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ปีนี้ยังไม่มีรายงานอาจเป็นเพราะมีการเตรียมตัวรับมือกันไว้แล้ว
แม้โลกจะร้อน โลกจะรวน มนุษย์เราก็ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่กันมันต่อไป ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ฝนพันปี อากาศร้อนจัด หนาวจัด แบบทุกสถิติชนิดที่ไม่เคยเจอมาก่อนในพื้นที่ต่าง ๆ จะมีปรากฎขึ้นอีกเรื่อย ๆ และอาจเกิดขึ้นได้ทุกพื้นที่ทั่วโลกรวมถึงบ้านเราด้วย
ก่อนหน้านี้การออกแบบระบบระบายน้ำโดยใช้ข้อมูลปริมาณฝนสูงสุดย้อนหลัง 50 ปีถูกมองเป็นเรื่องสิ้นเปลืองไม่เหมาะสม แต่มาวันนี้นอกจากจะใช้ค่าสูงสุดนี้แล้วอาจจะต้องมีการประมาณเผื่อเพิ่มอีกเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่อยากให้เมืองจมบาดาล
Rain bomb ฝนตกหนักแบบสาดน้ำ เจอแน่ ๆ และจะถี่ขึ้นด้วย ระบบระบายน้ำในเมืองต้องออกสำหรับสถานการณ์แบบนี้แล้ว??
ถามว่าโลกร้อนจนเดือดชนิดที่ย้อนกลับไม่ได้แบบที่นักวิทยาศาสตร์กลัวกันหรือยัง?
คำถามนี้คงไม่มีใครสามารถฟันธงลงไปได้ แต่จากความรวนเรของสภาพภูมิอากาศโลกในรอบ 2-3 ที่ผ่านมา เราอาจจะเลยจุดนั้นมาแล้วก็ได้ และความพยายามแก้ไขก็ดูจะไร้ความกระตือรือร้นเมื่อเทียบกับสถานการณ์ รวมถึงการมาของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่สนใจเพียงความรุ่งเรืองของอเมริกันชนเท่านั้น
แต่ถามว่าเราจะตุยกันหมดเลยมั้ย? ตอบได้เลยว่าไม่ โลกก็ยังอยู่เหมือนเดิมไม่ระเบิดหายไปไหน มนุษย์เราก็ยังเหมือนเดิม คนจนก็ยังคงอยู่ยากและจะอยู่ยากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่คนมีเงินก็จะใช้เงินเอาตัวเองออกไปจากปัญหา . . .
ข่าวรอบโลก
ความคิดเห็น
สิ่งแวดล้อม
1 บันทึก
14
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ตามติดสถานการณ์สิ่งแวดล้อม
1
14
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย