เบาหวานชนิดที่ 1 ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป: เมื่อยาเบาหวานตัวใหม่ จับมือกับเทคโนโลยีสุดล้ำ
ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 กันมาบ้างแล้วใช่ไหมครับ? โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ผู้ป่วยต้องพึ่งอินซูลินจากภายนอกตลอดชีวิต
ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีและยาใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้การจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ง่ายขึ้นมากเลยครับ บทความนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงงานวิจัยล่าสุดที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างยาเซมากลูไทด์ (Semaglutide) กับระบบอินซูลินอัตโนมัติ (Automated Insulin Delivery - AID) ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ครับ
เซมากลูไทด์ เป็นยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonist ซึ่งเดิมทีใช้ในการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 แต่จากการศึกษาพบว่ายาตัวนี้มีประโยชน์ในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมาก ๆ เลยครับ (ถ้าใครยังจำบทความฮอลลีวูดได้ ยาตัวนี้แหละครับที่ดาราดังทั้งหลายเอาไปใช้ลดน้ำหนักกัน)
ที่สำคัญคือ ยาตัวนี้สามารถใช้ได้สัปดาห์ละครั้ง ทำให้สะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น นักวิจัยจึงได้นำยาเซมากลูไทด์มาใช้ร่วมกับระบบอินซูลินอัตโนมัติในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้น่าทึ่งมากครับ
ขอแทรกนิดหนึ่ง... ระบบอินซูลินอัตโนมัติ หรือ AID เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น โดยระบบนี้จะประกอบไปด้วยเครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง (CGM) เครื่องปั๊มอินซูลิน และอัลกอริทึมที่ช่วยปรับปริมาณอินซูลินที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องคอยกังวลกับการฉีดอินซูลินเองตลอดเวลา ซึ่งช่วยลดภาระในการดูแลตัวเองไปได้เยอะเลย
"ภาพจาก www.type1strong.org"
มาต่อกันที่งานวิจัย ในงานวิจัยนี้ นักวิจัยได้ทำการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 ใช้ยาเซมากลูไทด์ร่วมกับระบบอินซูลินอัตโนมัติ และเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ใช้ยาหลอกร่วมกับระบบอินซูลินอัตโนมัติ
ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ใช้ยาเซมากลูไทด์มีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในช่วงเป้าหมาย (3.9-10.0 มิลลิโมล/ลิตร) มากกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอกถึง 4.8% ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญทางสถิติเลยทีเดียว
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า การใช้ยาเซมากลูไทด์ร่วมกับระบบอินซูลินอัตโนมัติ ยังช่วยลดระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) ได้ถึง 0.5% และยังช่วยลดปริมาณอินซูลินที่ผู้ป่วยต้องใช้ต่อวันได้อีกด้วยครับ ที่สำคัญคือ ยาเซมากลูไทด์ยังช่วยลดน้ำหนักของผู้ป่วยได้เฉลี่ยถึง 5.3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลพลอยได้ที่น่าสนใจมาก สงสัยอนาคตคงเปลี่ยนเป็นยาลดน้ำหนักแทนยารักษาเบาหวาน 😅
ถึงแม้ว่ายาเซมากลูไทด์จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ต้องระวังเช่นกันครับ ในงานวิจัยนี้พบว่า ผู้ป่วยที่ใช้ยาเซมากลูไทด์มีอาการไม่พึงประสงค์ทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก หรือท้องเสีย มากกว่ากลุ่มที่ใช้ยาหลอก
นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วย 2 รายที่เกิดภาวะคีโตซีส (ketosis) ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีสารคีโตนสูง แต่ไม่ได้มีภาวะเลือดเป็นกรด (acidosis) ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายกว่า ดังนั้น การใช้ยาเซมากลูไทด์ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดครับ
ผมคิดว่าเราน่าจะได้เห็นถึงความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่งแล้วนะครับ การผสมผสานระหว่างยาเซมากลูไทด์กับระบบอินซูลินอัตโนมัติ เป็นแนวทางใหม่ที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 สามารถควบคุมโรคได้ดีขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้จริง ๆ
เอกสารอ่านเพิ่มเติม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
