สรุปหนังสือ Things No One Taught Us About Love เรื่องที่ไม่มีใครสอนเราเกี่ยวกับความรัก
หากคุณเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับความรัก เคยผิดหวัง หรือกำลังมองหาวิธีที่จะรักอย่างมีสติ หนังสือที่นำมาสรุปในวันนี้จะเป็นเพื่อนที่ช่วยนำทางให้คุณเติบโตและค้นพบความหมายที่แท้จริงของความรักอีกครั้ง
"เรื่องที่ไม่มีใครสอนเราเกี่ยวกับความรัก" เป็นหนังสือที่พาเราไปสำรวจความรักในมิติที่ลึกซึ้งกว่าที่เคยเข้าใจ รวบรวมบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการเยียวยาหัวใจ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พูดถึงแค่ความรักโรแมนติก แต่ยังขยายไปถึงความรักตนเอง ความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อน และคนรอบตัว มันจะช่วยให้เรามองเห็นความรักในแบบที่สมจริงขึ้น เข้าใจว่าทำไมบางครั้งความรักถึงเจ็บปวด และเรียนรู้วิธีสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อใจ
Vex King เป็นนักเขียนและโค้ชด้านการพัฒนาตนเองที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาเป็นที่รู้จักจากหนังสือขายดี "Good Vibes, Good Life" และ "Healing Is the New High" ซึ่งเน้นการสร้างพลังบวกและการเยียวยาตัวเองผ่านแนวคิดเชิงจิตวิทยาและการเติบโตทางจิตวิญญาณ
Vex King เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่เขาสามารถก้าวข้ามอุปสรรคและพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก เขาใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับการรักตนเอง กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction) และการพัฒนาทัศนคติที่ดี
ปัจจุบัน Vex King เป็นนักพูดและที่ปรึกษาชีวิตที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยผลงานของเขาได้รับความนิยมในหมู่ผู้อ่านที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาตัวเองไปสู่เวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
เข้าใจความรักกับความสัมพันธ์
• ความรัก คือ ภาวะของการเป็น ซึ่งอยู่ภายใน ไม่เกี่ยวกับสิ่งอยู่รอบตัว มันคือสิ่งที่ผุดขึ้นจากตัวเราและไหลเวียนอยู่ข้างใน
• ความสัมพันธ์ คือ ภาวะของการทำ ซึ่งเป็นสิ่งภายนอก มันคือการแปลความรักออกมาเป็นการกระทำ ซึ่งการจะเกิดความสัมพันธ์ได้นั้นต้องเกิดจากคนอย่างน้อยสองคน
สรุปได้ว่าความรักเป็นประสบการณ์ภายใน ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ เราสามารถรักใครก็ได้แต่ไม่ได้หมายความว่าเราควรมีความสัมพันธ์กับเขา รักแท้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเคมีทางกายเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่เปลือกนอกของชีวิต
เข้าใจตัวเราในอดีต
“อีโก้” ในมุมมองของซิกมุน ฟรอยด์ ได้ให้ความหมายว่าเป็นการทำงานของจิตใจส่วนที่มีเหตุผลซึ่งมีหน้าที่ตัดสินใจ
ในหนังสือเล่มนี้คำว่าอีโก้จะหมายถึงส่วนหนึ่งของเราที่ไม่ถาวร เป็นสิ่งที่เราปกปิดเอาไว้เหมือนกับการใส่หน้ากาก มันเกิดจากอดีตที่เคยถูกสั่งสอนมาโดยพ่อแม่ ครู และสิ่งแวดล้อม มันคือสิ่งที่เรากลัว เกร็ง และรู้สึกไร้ค่า
ในวัยเด็กเรามีเครื่องมือป้องกันตัวทางจิตใจโดย การปฏิเสธ การโทษผู้อื่น การควบคุม การจินตนาการ แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่เราไม่สามารถใช้เครื่องมือเหล่านั้นได้ เราเริ่มมีการใส่หัวโขนขึ้นอยู่กับว่าเราอยู่กับใครและเมื่อเวลาผ่านไป บุคลิก ความสนใจ นิสัย รวมถึงความฝันของเราก็ไม่เหมือนเดิม ดังนั้นสิ่งที่เราต้องค้นหาให้เจอคือตัวตนที่แท้จริงของเราเอง จดจำให้ได้ว่าแก่นแท้ของเราบริสุทธิ์และมีสติตระหนักรู้
จอห์น โบว์ลบี ผู้คิดค้นทฤษฎีความสัมพันธ์และเมรี่ เอนเสวิร์ธ ได้ขยายความต่อว่า “ความปลอดภัยและความมั่นคงในช่วงต้นความสัมพันธ์ของเรากับคนที่เลี้ยงดูเรา มีอิทธิพลต่อความสัมพันธ์ที่เราสร้างขึ้นตลอดชีวิต”
• เด็กที่มีความผูกพันมั่นคง >>> เชื่อมั่นในตัวเองและคนอื่น
• เด็กที่ขาดความผูกพันมั่นคง >>> มีปัญหาความเชื่อมั่น บอกไม่ถูกว่าตัวเองต้องการอะไร ดูแลตัวเองไม่เป็น รวมถึงชอบทำเพื่อคนอื่นมากเกินไป
นอกจากนี้ยังมีนักจิตวิทยาได้อธิบาย Attachment Issues หรือปัญญาความสัมพันธ์ที่เกิดจากวัยเด็ก จนนำมาสู่พฤติกรรมเมื่อเราโต เช่น ขี้หึง ชอบขัดแย้ง ชอบควบคุม แบ่งออกเป็นความผูกพัน 4 แบบ ดังนี้
1. ความผูกพันแบบมั่งคง: เด็กได้รับความรัก ความปลอดภัยและการเอาใจใส่ >>> มีทัศนคติที่ดี เชื่อใจ มีวิธีการจัดการอย่างเหมาะสมเมื่อเกิดความขัดแย้งในความสัมพันธ์
2. ความผูกพันธ์แบบกังวล: เด็กถูกเลี้ยงแบบไม่เสมอต้นเสมอปลาย ตอบสนองความรักเป็นครั้งคราว >>> กลัวการถูกทอดทิ้ง ต้องการการยอมรับ ขี้หึง เชื่อใจคนยาก
3. ความสัมพันธ์แบบหลีกเลี่ยงไร้เยื่อใย: เด็กเคยมีพ่อแม่ที่ห่างเหินและถูกหมางเมินทางอารมณ์ >>> หลีกเลี่ยงความใกล้ชิดทางกายหรืออารมณ์ ชอบอิสระ ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึก
4. ความผูกพันธ์แบบหวาดกลัว: เด็กมีบาดแผลทางจิตใจในอดีตเกิดจากการเลี้ยงดูไม่ปะติดปะต่อ >>> หวาดกลัวความผูกพันใกล้ชิดทางอารมณ์ หลีกเลี่ยงความสัมพันธ์เพราะกลัวว่าจะเจ็บ
วิธีแก้ปัญหาความสัมพันธ์ที่เลวร้ายคือทั้งสองฝ่ายต้องสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงต่อกัน พูดคุยกันอย่างเปิดเผย ให้กำลังใจกัน ช่วยกันแก้ปัญหา เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายและเคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน
การรักตัวเอง
ความหมายของการรักตัวเองคือการให้ตัวเองสำคัญเป็นที่หนึ่งและต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น สัญญาว่าจะให้ความสำคัญกับสุขภาพกาย จิตใจและจิตวิญญาณ เช่น พักผ่อน ออกกำลังกาย ทำสิ่งที่รัก การทำสมาธิ เป็นต้น
8 แบบฝึกหัดปรับคลื่นให้อยู่ในช่องความรัก
1. ออกไปเดินข้างนอกและมองหาสิ่งของรูปหัวใจ
2. ให้กำลังใจตัวเองหน้ากระจก
3. มองหาสิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับคนที่เราเจอในวันนั้น
4. ฟังเพลงที่จรรโลงใจและฟังคำว่ารัก
5. จินตนาการถึงคนที่เรารัก
6. สร้างสรรค์ผลงานหรือทำงานอดิเรก
7. เสพสื่อที่เป็นบวก สร้างแรงบันดาลใจ
8. อธิษฐานสิ่งดีๆเพื่อคนอื่น
ความสัมพันธ์ที่ดี
1. กล้ารัก เมื่อเรารู้สึกรักตัวเอง สิ่งที่ตามมาก็คือคนอื่นก็จะรักเราเช่นกัน
2. เผยจุดอ่อนหรือความอ่อนแอบ้าง เนื่องจากความอ่อนแอจะนำไปสู่ความใกล้ชิดและความรักที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น แต่อย่าลืมว่าต้องมีขอบเขตเช่นกัน
3. ให้ความเชื่อใจ โดยเริ่มจากการที่ปากกับใจต้องตรงกัน ซื่อสัตย์กับคนรัก รู้จักตัวเองชัดเจนว่าต้องการอะไรจากความสัมพันธ์
4. กำหนดขอบเขตของความสัมพันธ์ ได้แก่ ขอบเขตการสื่อสาร ขอบเขตทางกาย และขอบเขตทางอารมณ์ความรู้สึก
5. แก้ไขความขัดแย้งร่วมกันได้ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมากหากช่วงเวลานั้นไม่เหมาะที่จะพูดคุยก็อาจขอเวลานอก พักให้อารมณ์ที่ยังร้อนอยู่เย็นลงก่อนแล้วค่อยมาปรับความเข้าใจกัน
6. อยู่กับปัจจุบัน บางครั้งเรายึดติดกับภาพลักษณ์ของคนรักเราในอดีตที่คบหากันใหม่ ๆ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนคนเราย่อมเปลี่ยน คนที่อยู่กับเราตอนนี้คือคนปัจจุบันการปรับตัวเข้าหากันตลอดจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
7. อยู่กับความเบื่อหน่าย เมื่อความสัมพันธ์เริ่มยาวนานสิ่งที่ควรทำคือหากิจกรรมร่วมกันเสมอ เช่น ออกไปกินข้าวร้านใหม่ ๆ ทำกิจกรรมสนุกหรือท้าทายในวันหยุดสุดสัปดาห์
มีอิสระในความรัก
ไม่ว่าจะโสดหรือมีคู่สิ่งที่เราควรได้รับคือความเป็นอิสระ การไม่ยึดติดในความสัมพันธ์ และไม่ตามกระแสสังคม เช่น ตอนที่เห็นคนรักกันในโซเชียลแล้วเรารู้สึกอยากมีแบบนั้นบ้างทั้งที่ความต้องการที่แท้จริงของเราอาจจะอยากอยู่คนเดียว หรือบางครอบครัวถูกบังคับให้แต่งงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ดีต่อความสัมพันธ์ในอนาคตอย่างแน่นอน
คนที่ใช่จะมาในเวลาที่เหมาะสมและอะไรที่มันเป็นของเรามันก็จะเป็นของเรา (อันนี้เก่งเห็นด้วยอย่างยิ่ง) ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในความสัมพันธ์ ถ้าเราเริ่มรู้สึกไม่ใช่ตัวเอง ต้องเสียสละตลอดเวลา หัวใจของเราจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยอยู่ตลอดเวลานี่อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องยุติความสัมพันธ์
ถามตัวเองว่า ถ้าฉันอยากให้ลูกรู้จักความอิ่มเอิบของความรัก ฉันจะอยากให้เขาอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ไหม
Vex King
"Things No One Taught Us About Love" เป็นมากกว่าหนังสือเกี่ยวกับความรัก แต่เป็นคู่มือที่จะช่วยให้เราเข้าใจหัวใจตัวเองและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น Vex King เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับความรักที่ไม่มีใครเคยสอนเรา ตั้งแต่การแยกแยะระหว่าง "ความรัก" และ "ความสัมพันธ์" อิทธิพลของอดีตที่หล่อหลอมรูปแบบความรักของเรา ไปจนถึงวิธีเยียวยาหัวใจและสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง
หนังสือเล่มนี้ช่วยให้เราตระหนักว่า ความรักที่แท้จริงเริ่มต้นจากภายใน และเราไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าความสัมพันธ์เพียงเพื่อเติมเต็มตัวเอง หากเรารักตัวเองเป็น เราก็จะดึงดูดความสัมพันธ์ที่ดีโดยธรรมชาติ “เพราะความรักที่ดี ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนแปลงใคร แต่เป็นการเติบโตไปด้วยกันอย่างอิสระและมั่นคง”
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
