Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Vate's Pharma Scope
•
ติดตาม
19 ก.พ. เวลา 12:20 • สุขภาพ
ยาเบาหวาน GLP-1 RA: ปลอดภัยต่อต่อมไทรอยด์จริงหรือ?
สวัสดีครับทุกคน บทความนี้จะพูดเกี่ยวกับประเด็นที่น่าสนใจ นั่นก็คือเรื่องของ "ยาเบาหวานกลุ่ม GLP-1 Receptor Agonists" หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า "GLP-1 RA" กับความเสี่ยงต่อ "มะเร็งต่อมไทรอยด์"
ปัจจุบันนี้ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก และยาในกลุ่ม GLP-1 RA ก็เป็นหนึ่งในยาที่แพทย์นิยมใช้ในการรักษา เพราะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ควบคุมน้ำหนักได้ และยังดีต่อหัวใจอีกด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของยาเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมไทรอยด์ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยและกังวลใจ
วันนี้ผมจะมาอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกท่านเข้าใจง่ายๆ โดยอิงจากงานวิจัยล่าสุดที่ได้ทำการศึกษาในระดับนานาชาติ
GLP-1 RA คืออะไร? ทำไมถึงมีข้อกังวลเรื่องมะเร็งต่อมไทรอยด์?
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่ายา GLP-1 RA คืออะไร ยาเหล่านี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์เลียนแบบฮอร์โมนในร่างกายของเราที่มีชื่อว่า "Glucagon-like peptide-1" หรือ GLP-1 ฮอร์โมนนี้มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร เมื่อเราทานยา GLP-1 RA ยาจะไปกระตุ้นตัวรับ (Receptor) GLP-1 ในร่างกาย ทำให้ร่างกายหลั่งอินซูลินมากขึ้น และลดการหลั่งฮอร์โมนกลูคากอน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ผลลัพธ์ก็คือระดับน้ำตาลในเลือดของเราจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ทีนี้ ทำไมถึงมีข้อกังวลเรื่องมะเร็งต่อมไทรอยด์? เรื่องนี้มีที่มาจากงานวิจัยในสัตว์ทดลองบางชิ้น ที่พบว่ายา GLP-1 RA อาจจะไปกระตุ้นเซลล์ชนิดหนึ่งในต่อมไทรอยด์ของหนู ทำให้เกิดเนื้องอกได้ นอกจากนี้ ยังมีบางการศึกษาที่พบว่าตัวรับ GLP-1 นั้นมีการแสดงออกในเซลล์มะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Papillary มากกว่าเซลล์ต่อมไทรอยด์ปกติ ทำให้เกิดความกังวลว่ายา GLP-1 RA อาจจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ในคนได้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากงานวิจัยในคนก่อนหน้านี้ยังไม่ชัดเจน บางงานวิจัยก็บอกว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่บางงานวิจัยก็ไม่พบความเสี่ยง หรือบางงานวิจัยก็พบว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนั้นอาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นๆ ไม่ใช่จากยา GLP-1 RA โดยตรง ทำให้ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
งานวิจัยนานาชาติล่าสุด: คำตอบที่น่าสนใจ
เพื่อไขข้อข้องใจนี้ งานวิจัยล่าสุดที่ผมได้อ่านมาได้ทำการศึกษาขนาดใหญ่ในระดับนานาชาติ โดยรวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลสุขภาพจาก 6 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา เดนมาร์ก นอร์เวย์ เกาหลีใต้ สวีเดน และไต้หวัน ซึ่งเป็นข้อมูลของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวนมาก ที่ใช้ยา GLP-1 RA เปรียบเทียบกับผู้ที่ใช้ยาเบาหวานอีกกลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า "DPP-4 inhibitors" หรือ "DPP-4i"
ทำไมถึงเลือกยา DPP-4i มาเปรียบเทียบ? เพราะยา DPP-4i เป็นยาเบาหวานอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างจาก GLP-1 RA แต่ก็มีข้อบ่งใช้ที่คล้ายคลึงกัน ทำให้สามารถนำมาเปรียบเทียบความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
ผลการศึกษา: ไม่พบความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น
ผลการศึกษาที่น่าสนใจก็คือ เมื่อนำข้อมูลผู้ป่วยจำนวนเกือบ 100,000 คนที่ใช้ยา GLP-1 RA มาเปรียบเทียบกับผู้ป่วยกว่า 2.4 ล้านคนที่ใช้ยา DPP-4i แล้ว ไม่พบว่าการใช้ยา GLP-1 RA สัมพันธ์กับความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่เพิ่มขึ้น โดยผลการวิเคราะห์รวม (Pooled weighted Hazard Ratio) อยู่ที่ 0.81 (ช่วงความเชื่อมั่น 95% CI 0.59–1.12)
ซึ่งตัวเลข 0.81 ที่น้อยกว่า 1 บ่งชี้ว่าความเสี่ยงอาจจะต่ำกว่าด้วยซ้ำ แต่เมื่อพิจารณาช่วงความเชื่อมั่นที่กว้างและครอบคลุมเลข 1 ก็สรุปได้ว่า ไม่พบความแตกต่างของความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
นอกจากนี้ งานวิจัยยังได้วิเคราะห์ความเสี่ยงตามปริมาณยา GLP-1 RA ที่ผู้ป่วยได้รับสะสม (Cumulative dose) ก็ ไม่พบแนวโน้มว่าความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณยาที่ใช้ และผลการศึกษาโดยรวมก็ยังคงสอดคล้องกันในทุกประเทศที่เข้าร่วมการศึกษา
ผลการศึกษาเพิ่มเติม: ความเสี่ยงที่ลดลงในผู้หญิง?
ในการวิเคราะห์เพิ่มเติม (Supplementary analyses) งานวิจัยยังได้แบ่งกลุ่มผู้ป่วยตามเพศและอายุ พบว่าในกลุ่มผู้หญิงที่ใช้ยา GLP-1 RA กลับ มีความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่ลดลง เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ใช้ยา DPP-4i ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าสนใจและอาจจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลลัพธ์นี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมแล้ว ผลการศึกษาเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนยาเปรียบเทียบเป็นยาเบาหวานกลุ่มอื่น (SGLT2 inhibitors, Sulfonylureas) หรือการจำกัดการวิเคราะห์เฉพาะยา Liraglutide (ซึ่งเป็นยา GLP-1 RA รุ่นแรกๆ) ก็ยังคง สอดคล้องกับผลการศึกษาหลัก คือไม่พบความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่เพิ่มขึ้น
ยกเว้นกรณีเดียวคือเมื่อเปรียบเทียบกับยา Sulfonylureas ที่พบว่า GLP-1 RA อาจจะมีความเสี่ยงสูงกว่า แต่ผู้เขียนงานวิจัยก็ให้ข้อสังเกตว่า ผลลัพธ์นี้อาจจะเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ผู้ที่ใช้ยา Sulfonylureas อาจจะมีลักษณะพื้นฐานที่แตกต่างจากผู้ที่ใช้ GLP-1 RA ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้
ข้อจำกัดของงานวิจัย และสิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไป
แม้ว่างานวิจัยนี้จะเป็นงานวิจัยขนาดใหญ่และมีคุณภาพ แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ต้องพิจารณา เช่น
1. ระยะเวลาติดตามยังสั้น: ระยะเวลาติดตามผู้ป่วยในงานวิจัยนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.8 ถึง 3.0 ปี ซึ่งอาจจะยังสั้นเกินไปที่จะตรวจพบมะเร็งต่อมไทรอยด์ที่อาจจะใช้เวลานานกว่านั้นในการพัฒนา ดังนั้น จึงยังไม่สามารถตัดความเสี่ยงในระยะยาวออกไปได้
2. ไม่สามารถวิเคราะห์มะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Medullary ได้: เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Medullary ในงานวิจัยมีน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงของมะเร็งชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน
ดังนั้น แม้ว่าผลการศึกษาจะให้ความมั่นใจในระดับหนึ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยของยา GLP-1 RA ในระยะสั้น แต่ก็ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในระยะยาว และศึกษาในกลุ่มประชากรที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อยืนยันความปลอดภัยในระยะยาว และศึกษาความเสี่ยงของมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด Medullary อย่างละเอียดต่อไป
สรุปและข้อคิด
จากงานวิจัยนานาชาติล่าสุดนี้ เราได้รับข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง นั่นก็คือ การใช้ยาเบาหวานกลุ่ม GLP-1 RA ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมไทรอยด์ในระยะสั้น เมื่อเทียบกับการใช้ยา DPP-4i ผลการศึกษานี้ช่วยคลายความกังวลใจให้กับผู้ป่วยและแพทย์ที่ใช้ยาเหล่านี้ในการรักษาเบาหวานได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะฝากไว้ก็คือ ข้อมูลจากงานวิจัยนี้เป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง และการตัดสินใจเลือกใช้ยาใดๆ ในการรักษาเบาหวาน ควรเป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างแพทย์และผู้ป่วย โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพร่างกายของผู้ป่วย โรคประจำตัวอื่นๆ และความกังวลใจของผู้ป่วยเอง
หากท่านใดที่กำลังใช้ยา GLP-1 RA หรือกำลังพิจารณาที่จะใช้ยาเหล่านี้ และมีความกังวลใจเกี่ยวกับความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ ผมแนะนำให้ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และร่วมกันตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับตัวท่านมากที่สุดนะครับ
สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกท่านเข้าใจเรื่องยา GLP-1 RA กับความเสี่ยงมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้ดียิ่งขึ้นนะครับ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยครับ ผมยินดีตอบให้ครับ
เอกสารอ่านเพิ่มเติม
1.
https://www.liebertpub.com/doi/10.1089/thy.2024.0387
สุขภาพ
ความรู้รอบตัว
ข่าวรอบโลก
บันทึก
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
รู้ลึก รู้จริง เรื่องยาเบาหวาน
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย