14 ก.พ. เวลา 04:12 • หนังสือ

#51 HWG : บทที่ 3️⃣6️⃣ : จงจำไว้ว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกเหนือไปจากสิ่งที่เธอเลือก

▪️ผู้แปล : อุดม (แอดมิน)
✴️ โหลด 'ไฟล์ภาพ' เพื่อเก็บไว้อ่านทีหลัง ⬇️
THE SEVENTEENTH REMEMBRANCE
ความทรงจำที่ 1️⃣7️⃣
Your ancestors walk with you. Your heirs stand beside you, watching your decisions on their behalf.
เหล่าบรรพบุรุษของเธอร่วมเดินไปกับเธอ เหล่าทายาทของเธอยืนอยู่เคียงข้างเธอ
คอยสังเกตการตัดสินใจของเธอในนามของพวกเขา
Chapter 3️⃣6️⃣
Neale : Thank you, Dear God, for that wonderful, wonderful prayer. I hope that people everywhere, all over the world, will use it if they feel it would serve the moment, and bring peace and comfort, hope and understanding to the dying.
นีล : ขอบคุณ พระเจ้า สำหรับบทสวดอันแสนวิเศษนี้ ผมหวังว่าผู้คนทั่วโลกจะใช้มันหากรู้สึกว่าเหมาะสม และนำมาซึ่งสันติ ความปลอบประโลม ความหวัง และความเข้าใจให้กับผู้ที่กำลังจะตาย
But wait, please. There is still something that I, myself, need to understand.
แต่เดี๋ยวก่อนนะครับ มีบางสิ่งที่ผมต้องทำความเข้าใจ
Did I hear you correctly❓ What did you mean when you said that we will see our loved ones who follow us in death ‘even in the present moment’❓
ไม่รู้ว่าผมได้ยินถูกต้องหรือเปล่า❓ พระองค์หมายความว่าอย่างไรในตอนที่กล่าวว่าเราจะเห็นคนที่เรารักซึ่งตามเราไปยังชีวิตหลังความตาย 'แม้กระทั่งในปัจจุบันขณะ' นี้❓
God : “Do you remember when, early in this conversation, you talked about Andrew Parker’s wife, Pip, and you asked me a question about her❓”
พระเจ้า : "เธอยังจำได้ไหม ในตอนต้นของการสนทนานี้ เธอได้พูดถึงภรรยาของแอนดรูว์ พาร์เกอร์ ที่ชื่อ พิป และเธอถามคำถามฉันเกี่ยวกับเธอ❓"
N : Yes. I asked you if she wanted to get cancer at that early stage of her life. I asked if she really chose, as a matter of free will, to leave that soon, to die so young. I said that something like this would be really hard to accept by her husband, her children, and members of her family. They would ask, with deep sorrow, I am sure. Why would Pip want to leave us like that❓
นีล : จำได้ครับ ผมถามว่าเธออยากเป็นมะเร็งในช่วงแรกของชีวิตหรือไม่ ผมยังถามว่าเธอเลือกที่จะจากไปเร็วขนาดนั้นด้วยอายุเพียงแค่นั้นด้วยเจตจำนงอิสระของเธอเองจริงๆหรือ ผมบอกว่าเรื่องแบบนี้จะยากมากต่อการยอมรับสำหรับสามี ลูก และสมาชิกในครอบครัวของเธอ พวกเขาจะต้องถามด้วยความโศกเศร้าอย่างแน่นอนว่า ทำไมพิปถึงอยากจากพวกเขาไปแบบนั้น❓
G : “And do you remember what I said❓”
พระเจ้า : "และเธอจำคำตอบของฉันได้หรือไม่❓"
 
N : Yes, you said. ‘I have an answer that may shock you.’
นีล : จำได้ครับ พระองค์ตอบว่า 'ฉันมีคำตอบที่อาจทำให้เธอตกใจ'
G : “I have saved two Remembrances for the end of our conversation. These are the most joyous, the most wondrous Remembrances of all.
พระเจ้า : "ฉันเก็บไว้สองความทรงจำจนถึงตอนท้ายของการสนทนานี้ มันเป็นความทรงจำที่เปี่ยมไปด้วยความเบิกบาน และน่าอัศจรรย์ใจที่สุด
The first of these is…
ความทรงจำแรกจากทั้งสองก็คือ...
THE SEVENTEENTH REMEMBRANCE
ความทรงจำที่ 1️⃣7️⃣
In death you will be greeted by all of your loved ones—those who have died before you and those who will die after you.
#ในความตาย #เธอจะได้รับการต้อนรับจากคนที่เธอรัก —#ทั้งผู้ที่ตายไปก่อนเธอและผู้ที่จะตายหลังเธอ
“These souls will comfort you as you release your attachment to the physical world, gently guiding you into the spiritual realm. You need never be alone, ever, nor are you ever alone now.”
"วิญญาณเหล่านี้จะปลอบโยนเธอในขณะที่เธอได้ปล่อยวางความผูกพันกับโลกทางกายภาพ และนำทางเธออย่างนุ่มนวลสู่อาณาจักรแห่งจิตวิญญาณ #เธอไม่จำเป็นต้องเดินทางไปอย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง หรือ #เธอไม่เคยอยู่อย่างโดดเดี่ยวเลยแม้กระทั่งในตอนนี้"
N : I am so grateful to know this. ‘Aloneness’ on the journey is my greatest fear.
นีล : ผมรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งที่ได้รู้เช่นนี้ 'ความโดดเดี่ยว' ระหว่างการเดินทางนี้เป็นความกลัวอันยิ่งใหญ่ที่สุดของผมเลย
G : “You are never alone, and you cannot be alone, by the very nature of who you are. For you are not an individual, but an individuation of the All. You are a part of All of Us Who Live, and all of us who live have an investment in the experience of You. Your ancestors walk with you. Your heirs stand beside you, watching your decisions on their behalf. We are all with you always, and you with us. It takes but your belief to Know that we are there.
พระเจ้า : "เธอไม่เคยโดดเดี่ยว และไม่อาจโดดเดี่ยวได้ ด้วยธรรมชาติแห่งตัวตนของเธอ #เพราะเธอไม่ใช่แค่ปัจเจกบุคคล #แต่เป็นความเป็นปัจเจกของความเป็นหนึ่งเดียว #เธอเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราทั้งหมดที่มีชีวิต #และพวกเราทุกคนที่มีชีวิตล้วนมีส่วนร่วมในประสบการณ์ของเธอ เหล่าบรรพบุรุษของเธอร่วมเดินทางไปกับเธอ เหล่าทายาทของเธอยืนอยู่เคียงข้างเธอ คอยสังเกตการตัดสินใจของเธอในนามของพวกเขา พวกเราอยู่กับเธอเสมอ และเธอก็อยู่กับพวกเราเช่นกัน #ด้วยความเชื่อของเธอเท่านั้นถึงจะรู้ว่าพวกเราอยู่ที่นั่น"
N : Yes, but this I don’t understand. This last Remembrance I cannot comprehend. Do you mean that when I close my eyes in death and open them again in the Afterlife, everyone I have ever loved—including those I have just left behind—will be there❓
นีล : ครับ แต่นี่คือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ ความทรงจำล่าสุดที่พระองค์บอกนี้ผมไม่อาจทำความเข้าใจได้ พระองค์หมายความว่าเมื่อผมปิดตาลงในความตายและลืมตาขึ้นอีกครั้งในโลกหลังความตาย คนที่ผมเคยรักทั้งหมด —รวมถึงผู้คนที่ผมเพิ่งทิ้งไว้เบื้องหลังด้วย —จะอยู่ที่นั่นทั้งหมดเลยหรือครับ❓
G : “If you want them to be, they will be. If you believe they will be, if you so much as hope that they will be, you will be aware of their presence beside you.”
พระเจ้า : "หากเธอต้องการให้พวกเขาอยู่ที่นั่น พวกเขาก็จะอยู่ที่นั่น หากเธอเชื่อว่าพวกเขาจะอยู่ หรือแม้แต่แค่หวังว่าพวกเขาจะอยู่ เธอจะรับรู้ถึงพวกเขาที่อยู่รอบข้างเธอได้"
N : But…look, as I already told you, I’ve heard it said many times that the souls of those who have preceded me in death will be waiting for me when I ‘cross over.’ You said that yourself, earlier in this conversation. But I’ve never heard it said that the people who are alive with me now, who are alive at the moment of my death, will be there to greet me.
How can this be❓
นีล : แต่ว่า... ตามที่ผมได้เคยบอกไปแล้ว ผมเคยได้ยินจากที่อื่นมาแล้วหลายครั้งว่าวิญญาณของผู้ที่ตายก่อนผมจะรอผมอยู่ในตอนที่ผม 'ข้ามไป' แม้พระองค์เองก็เคยพูดเช่นนั้นในตอนต้นของการสนทนานี้ แต่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่กับผมในขณะนี้ ผู้คนที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในขณะที่ผมตาย จะมายืนรอรับผมที่อีกฝั่ง นี่มันจะเป็นไปได้ยังไงครับ❓
G : “Such is the wonder of the Ultimate Realty that, though it may be experienced as a long while for those who remain living in physicality within the illusion of time, it will be in your own Moment of Now that you will be reunited.”
พระเจ้า : "นี่คือความมหัศจรรย์ของความเป็นจริงสูงสุด แม้ว่ามันจะดูราวกับว่าเป็นเวลานานสำหรับผู้ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในโลกกายภาพภายใต้ภาพลวงตาของเวลา แต่สำหรับเธอ มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งปัจจุบันขณะของเธอเอง ที่พวกเธอจะได้พบกันอีกครั้ง"
N : But…I thought that I would be there to greet them when they die. I mean, if I am one of their loved ones, wouldn’t I be waiting for them when they die❓
นีล: แต่ว่า... ผมคิดว่าผมต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายที่รอรับพวกเขาในตอนที่พวกเขาตายไม่ใช่หรอครับ ผมหมายความว่า หากผมเป็นคนที่พวกเขารัก ผมจะไม่รอรับพวกเขาในตอนที่พวกเขาตายได้อย่างไร❓
G : “Yes, you would…and you will.”
พระเจ้า : "ใช่ เธอจะรอรับพวกเขา... และเธอจะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน"
N : Gosh, I’m sorry. I’m not doing such a good job of following this. If I am waiting for them as they cross over, and they are already there for me when I cross over, how can…what is the sequence here❓
นีล : พระเจ้า (เสียงสูง) ผมขอโทษครับ แต่ผมทำได้ไม่ดีเลยในการตามเรื่องนี้ให้ทัน ถ้าผมรอรับพวกเขาในตอนที่พวกเขาข้ามไป และพวกเขาก็อยู่ที่นั่นรอผมในตอนที่ผมข้ามไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร... ลำดับเหตุการณ์มันเป็นยังไงกันแน่❓
G : “Your greeting of each other at the end of your physical lives is sequentaneous.”
พระเจ้า : "การพบกันของพวกเธอในตอนสิ้นสุดชีวิตทางกายภาพของเธอ #จะเป็นไปแบบพร้อมกันในขณะเดียวกันและอย่างต่อเนื่องไปตามลำดับ"
N : But when a thing is sequential and simultaneous, which do I experience❓ You never explained this to me before. Do I experience that one thing is happening after another, or do I experience everything happening instantly❓
นีล : แต่เมื่อบางสิ่งเป็นไปแบบทั้งต่อเนื่องและพร้อมกัน ผมจะได้รับประสบการณ์แบบไหนครับ❓ พระองค์ไม่เคยอธิบายให้ผมเข้าใจมาก่อน ผมจะประสบหรือรับรู้ไปทีละเหตุการณ์ไปตามลำดับ หรือ ผมจะรับรู้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้พร้อมกันในขณะเดียวกันครับ❓
G : “Whichever you choose. You may look at an individual image in your ‘mural,’ or you may step back and look at the entire mural at once. It is all a matter of perspective. And you may choose any perspective that serves you. You may take any perspective that pleases you.”
พระเจ้า : "ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เธอเลือก เธออาจเลือกมองภาพเดี่ยวในภาพ 'จิตรกรรมฝาผนัง' ของเธอ หรือ เธออาจเลือกถอยหลังไปเพื่อมองภาพรวมทั้งหมดในคราวเดียวกันก็ได้ นี่เป็นเพียงแค่เรื่องของมุมมอง และเธอสามารถเลือกมุมมองแบบใดก็ได้ที่รับใช้ต่อเป้าประสงค์ของเธอ เธอสามารถเลือกมุมมองแบบไหนก็ได้ที่ทำให้เธอพอใจ"
N : The implications of this are enormous. It’s almost as if, when my life is over, everyone’s life is over. When I die, everyone dies. That doesn’t seem fair.
นีล : นัยยะของเรื่องนี้ใหญ่หลวงมาก มันเหมือนกับว่า เมื่อชีวิตของผมจบลง ชีวิตของทุกคนก็จบลงด้วย เมื่อผมตาย ทุกคนก็ตายไปด้วย นี่มันดูไม่เป็นธรรมเอาซะเลย
G : “There is nothing unfair about it. Injustice and unfairness are not possible in Ultimate Reality.
พระเจ้า : "ไม่มีอะไรที่ไม่เป็นธรรมในเรื่องนี้ #ความอยุติธรรมไม่อาจเกิดขึ้นได้ในความเป็นจริงสูงสุด
“It may be many years before your presently living loved ones die, yet those years will be compressed into less than an instant in the place of No Time. If you wish to step back from the mural and see the whole picture, you will experience them joining you in the Afterlife in ‘no time at all.’
"อาจใช้เวลาหลายปีก่อนที่คนที่เธอรักซึ่งมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันจะตาย #แต่ปีเหล่านั้นจะถูกบีบอัดให้เหลือน้อยกว่าแค่ชั่วขณะเดียวในสถานที่ที่ไร้กาลเวลา หากเธอปรารถนาที่จะถอยหลังจากภาพจิตรกรรมฝาผนังเพื่อมองภาพรวมทั้งหมด เธอจะรับรู้ถึงพวกเขาที่มาร่วมกับเธอในโลกหลังความตายได้ 'ในทันที' (โดยไม่มีเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง)
“That is why I said before that if you believe that your loved ones—all of your loved ones—will be with you in the Afterlife just as you cross over, if you so much as hope that they will be, you will be aware of their presence beside you. Belief creates perspective, and hope distances you from your worst imagining, allowing you to see a larger picture.”
"นั่นคือเหตุผลที่ฉันกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากเธอเชื่อว่าคนที่เธอรัก —ทุกคน— จะอยู่กับเธอในโลกหลังความตายในทันทีที่เธอข้ามไป แม้ว่าเธอเพียงแค่หวัง หวังว่าพวกเขาจะอยู่ที่นั่น เธอจะรับรู้ถึงพวกเขาที่อยู่รอบข้างเธอได้ #ความเชื่อสร้างมุมมอง และ #ความหวังจะทำให้เธอถอยห่างออกจากสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุด* (*ถอยห่างออกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังบางภาพ) #สองสิ่งนี้จะช่วยให้เธอเห็นภาพที่ใหญ่กว่า"
N : Oh, my gosh, this is theologically so new, so…startling. I have never heard this anywhere. I mean, it’s just not something I ever imagined.
นีล : โอ้ พระเจ้า นี่เป็นเรื่องทางศาสนศาสตร์ที่ใหม่มาก มัน...น่าตกใจมาก ผมไม่เคยได้ยินได้ฟังเรื่องนี้จากที่ไหนมาก่อน ผมหมายถึง ผมไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าความจริงจะเป็นเช่นนี้ไปได้
G : “That is a perfect description of the Kingdom of God.
พระเจ้า : "นั่นเป็นคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบของอาณาจักรแห่งพระเจ้า
“I tell you now, you will be together with all the souls with whom you have ever traveled, those you are traveling with now, and those souls you will travel with in the future.”
"มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องบอกกับเธอว่า #เธอจะได้อยู่ร่วมกับวิญญาณทั้งหมดที่เธอเคยเดินทางด้วย #ทั้งผู้ที่เธอกำลังเดินทางอยู่ด้วยในตอนนี้ และ #วิญญาณเหล่านั้นที่เธอจะเดินทางด้วยในอนาคต"
N : My future companions will be there❓
นีล : เพื่อนร่วมเดินทางในอนาคตของผมก็จะอยู่ที่นั่นด้วย❓ 😳
G : “If you want them there, yes.
พระเจ้า : "ใช่แล้ว หากเธอต้องการให้พวกเขาอยู่ที่นั่น พวกเขาก็จะอยู่ที่นั่น
“Nothing will happen that you do not choose. Remember, ‘heaven’ is getting what you want. “Hell’ is getting what you don’t want. There has been a lot of theology created around both of those words, but in the end, that’s it. And ‘hell’ does not even exist unless you create it yourself—which means that you are still getting what you want❗ And if you do create your own hell, it disappears the moment you don’t want it anymore.”
"จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกเหนือไปจากสิ่งที่เธอเลือก จงจำไว้ว่า 'สวรรค์' คือการได้ในสิ่งที่เธอต้องการ ส่วน 'นรก' คือการได้ในสิ่งที่เธอไม่ต้องการ 'มีทฤษฎีทางศาสนามากมายที่สร้างขึ้นรอบๆคำสองคำนี้' ซึ่งในที่ท้ายสุดแล้วก็มีเพียงเท่านี้ และ 'นรก' จริงๆแล้วก็ไม่มีอยู่จริง นอกจากเธอจะเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง —ซึ่งหมายความว่า #เธอยังคงได้ในสิ่งที่เธอต้องการ❗ และหากเธอเป็นคนสร้างนรกของเธอขึ้นมาเอง #มันก็จะหายไปในทันทีเมื่อเธอไม่ต้องการมันอีกต่อไป"
N : So, in truth, heaven is all there is.
นีล : ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว สวรรค์คือสิ่งเดียวที่มีอยู่
G : “Indeed, this could be the whole of your theology. Heaven is all there is.”
พระเจ้า : "แน่นอน นี่อาจเป็นทั้งหมดของศาสนศาสตร์ของเธอ #สวรรค์คือสิ่งเดียวเท่านั้นที่มีอยู่"
➖➖➖(((จบบทที่ 3️⃣6️⃣)))➖➖➖

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา