19 ก.พ. เวลา 13:00 • ธุรกิจ

ชนะโดยไม่ต้องรบ – กลยุทธ์ที่ทำให้คุณเป็นเบอร์ 1 โดยไม่ต้องปะทะ

"ชนะโดยไม่ต้องรบ" – คำพูดนี้ฟังดูขัดกับความรู้สึกหรือไม่?
ถ้าไม่รบแล้วจะชนะได้อย่างไร? ในโลกธุรกิจ คู่แข่งอยู่ทุกที่ การแข่งขันรุนแรง แล้วเราจะเอาชนะโดยไม่ต้องปะทะได้จริงหรือ?
1️⃣ ทำไม "ชนะโดยไม่ต้องรบ" คือชัยชนะที่แท้จริง?
ยอดเยี่ยมที่สุดของการทำสงครามคือการชนะโดยการทำลายกุศโลบายของศัตรู รองลงมาคือการชนะโดยใช้การทูต รองลงมาอีกคือการใช้กำลัง และระดับต่ำที่สุดคือการโจมตีเมือง
ซุนวู
📌 4 ระดับของชัยชนะ ตามหลักซุนวู:
  • 1.
    ทำลายกุศโลบายของศัตรู (Winning by Strategy)
  • 2.
    ชนะด้วยการทูต – ทำให้ศัตรูขาดมิตร (Winning by Diplomacy)
  • 3.
    ชนะด้วยการแสดงแสนยานุภาพ – ให้ศัตรูกลัว (Winning by Power Projection)
  • 4.
    การเข้าตีเมือง – ทางเลือกสุดท้าย (Winning by Direct Confrontation)
🔥 หลักคิด: การรบที่ฉลาด ไม่ใช่การเอาชนะด้วยอาวุธ แต่คือการชนะตั้งแต่ก่อนรบ
💡 แล้วในโลกธุรกิจ สิ่งเหล่านี้หมายถึงอะไร?
* การทำลายกุศโลบายของคู่แข่ง → การทำให้คู่แข่งไม่สามารถใช้แผนของพวกเขาได้
* การใช้การทูตให้ชนะ → การสร้างพันธมิตรและตัดขาดเครือข่ายของคู่แข่ง
* การใช้แสนยานุภาพ → การสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทำให้คู่แข่งไม่กล้าต่อสู้โดยตรง
* การเข้าตีเมือง → การแข่งขันด้านราคา ลดต้นทุน ปะทะกันโดยตรง (ทางเลือกสุดท้าย)
2️⃣ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป: "ชนะโดยไม่ต้องรบ" และขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้อย่างไร?
🔥 1. "ทำลายกุศโลบายของศัตรู" – ไทยยูเนี่ยนเปลี่ยนจาก "ขายวัตถุดิบ" เป็น "เจ้าของอุตสาหกรรม"
🔹 คู่แข่งรายอื่น: แข่งกันที่ราคา → ขายปลาทูน่าราคาถูก แข่งต้นทุน แข่งกำลังผลิต
🔹 ไทยยูเนี่ยน: ไม่แข่งราคา → สร้างแบรนด์พรีเมียม + มาตรฐานอุตสาหกรรม
📌 กลยุทธ์ที่ใช้:

✅ เปลี่ยนจาก "แค่ผู้ผลิต" เป็น "ผู้ควบคุมมาตรฐาน"

✅ ลงทุนใน Sustainable Fishing (การประมงยั่งยืน) → ทำให้บริษัทใหญ่ ๆ ต้องซื้อจากไทยยูเนี่ยน

✅ สร้างมาตรฐาน Traceability (ตรวจสอบย้อนกลับ) → ทำให้คู่แข่งรายเล็กตามไม่ทัน
💡 ผลลัพธ์: คู่แข่งที่เคยแข่งราคา ไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป
🔥 2. "ชนะด้วยการทูต" – สร้างพันธมิตรระดับโลก ตัดกำลังคู่แข่ง
🔹 คู่แข่งรายอื่น: มุ่งทำตลาดในประเทศของตัวเอง
🔹 ไทยยูเนี่ยน: ใช้กลยุทธ์ M&A (Mergers & Acquisitions) ซื้อกิจการคู่แข่งแทนการแข่งกันโดยตรง
📌 กลยุทธ์ที่ใช้:
✅ ซื้อกิจการต่างประเทศ เช่น Chicken of the Sea, John West, Red Lobster
✅ ควบคุมซัพพลายเชนในระดับโลก → ทำให้ซูเปอร์มาร์เก็ตต้องซื้อสินค้าจากเครือข่ายของไทยยูเนี่ยน
💡 ผลลัพธ์: ไทยยูเนี่ยน ขยายอาณาจักรโดยไม่ต้องแข่งกับใครโดยตรง
🔥 3. "ชนะด้วยการแสดงแสนยานุภาพ" – พิสูจน์ว่าเป็นผู้นำอุตสาหกรรม
🔹 คู่แข่งรายอื่น: ยังใช้โมเดลธุรกิจเดิม ๆ
🔹 ไทยยูเนี่ยน: ลงทุนใน Future Food & Innovation → พัฒนาสินค้าใหม่ที่ไม่มีใครแข่งได้
📌 กลยุทธ์ที่ใช้:
✅ ลงทุนใน โปรตีนจากพืช (Alternative Protein)
✅ เปิดตัว นวัตกรรมอาหารทะเลเพื่อสุขภาพ เช่น Omega-3 Tuna
✅ สร้าง โรงงานนวัตกรรม (Global Innovation Center – GIC)
💡 ผลลัพธ์: คู่แข่งไม่สามารถตามเทรนด์ใหม่ได้ และถูกทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ
3️⃣ ตัวเลขการเติบโตของไทยยูเนี่ยน (2563 - 2567)
📌 ปี 2563: ไทยยูเนี่ยนมียอดขาย 132,402 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,246 ล้านบาท เติบโตขึ้น 63.7%
📌 ปี 2564: ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 141,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 8,010 ล้านบาท เติบโต 28.3%
📌 ปี 2565: ยอดขายลดลงเป็น 136,153 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลงเหลือ 4,499 ล้านบาท
📌 ปี 2566: ไทยยูเนี่ยนบันทึกผลขาดทุนสุทธิ 13.9 พันล้านบาท เนื่องจากค่าเผื่อการด้อยค่าจาก Red Lobster แต่หากไม่นับรายการพิเศษ บริษัทยังมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 1,213 ล้านบาท
📌 ปี 2567: ไทยยูเนี่ยนเริ่มฟื้นตัว มียอดขาย 138,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 4,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2%
🔥 ทำไมไทยยูเนี่ยนคือซุนวูของวงการอาหารทะเล?
📌 1. เปลี่ยนเกมจาก "แข่งขันด้านราคา" เป็น "ควบคุมมาตรฐานอุตสาหกรรม"
📌 2. ใช้ M&A ซื้อกิจการ แทนการแข่งโดยตรง

📌 3. ลงทุนในเทรนด์อนาคต ทำให้คู่แข่งตามไม่ทัน

📌 4. ไม่ต้องแข่งโดยตรง แต่ทำให้ตลาดต้องพึ่งพาพวกเขา
🚀 นี่คือกลยุทธ์ "ชนะโดยไม่ต้องรบ" ที่แท้จริง
โฆษณา