Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าเรื่องอาหารรอบโลก
•
ติดตาม
8 เม.ย. เวลา 09:02 • อาหาร
อินเดีย
Raita เครื่องเคียงในอาหารอินเดียที่ทำจากโยเกิร์ต
Raita (รัยต้า) เป็นเครื่องเคียงจากอินเดียที่ทำจากโยเกิร์ตที่ผสมกับเครื่องเทศสมุนไพร, หรือผักสดต่างๆ เช่นแตงกวา, ผักชี, ผงพริกปาปริก้า นิยมรับประทานคู่กับอาหารรสจัด เช่น แกงเผ็ดหรือข้าวหมก (biryani) มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและยาวนาน เครื่องเคียงจานนี้ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในอนุทวีปอินเดียเท่านั้น แต่ยังแพร่หลายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก บทความนี้จะพาผู้อ่านสำรวจต้นกำเนิดของไรต้า ทั้งในแง่ของตำนานและหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ลองสั่ง chicken biryani ที่ร้านอาหารอินเดียในมาเลเซีย มี Raita เป็นเครื่องเคียง
แม้ว่าต้นกำเนิดที่แน่ชัดของ Raita จะยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน แต่นักวิชาการมักเชื่อว่า Raita เกิดขึ้นในอนุทวีปอินเดียมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยโยเกิร์ตหรือ Curd นั้นมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมการกินของชาวอินเดียมาอย่างยาวนาน โยเกิร์ตได้รับการยกย่องไม่เพียงเพราะคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังมีคุณสมบัติในการให้ความเย็น ซึ่งเหมาะกับภูมิอากาศร้อน
คำว่า "Raita" มาจากภาษาสันสกฤตว่า "ราชิกา" (Rajika) แปลว่าการผสมผสาน หรือส่วนผสม ในคัมภีร์โบราณอย่าง "อายุรเวท" ซึ่งเป็นศาสตร์การแพทย์แผนโบราณของอินเดีย ก็มีการกล่าวถึงอาหารประเภทไรตาเช่นกัน อายุรเวทยังเน้นการปรุงอาหารอย่างสมดุล ทั้งรสชาติและคุณประโยชน์ ซึ่ง Raita ก็ถือว่าตอบโจทย์แนวคิดนี้ เพราะช่วยลดความเผ็ดร้อนของอาหารจานหลักได้อย่างลงตัว
ในอดีต Raita ได้รับการยกย่องในด้าน "สรรพคุณช่วยย่อย" เนื่องจากโยเกิร์ตเองเป็นอาหารที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร และเมื่อใส่สมุนไพรหรือเครื่องเทศ ก็ยิ่งเสริมสรรพคุณทางสุขภาพมากขึ้นตามไปด้วย จากเดิมที่เป็นเพียงอาหารเพื่อช่วยในการย่อย Raita ก็ค่อยๆ พัฒนาเป็นเครื่องเคียงที่มีรสชาติอร่อยและหลากหลายมากขึ้น
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ในอินเดีย เช่น คัมภีร์ฤคเวท (Rigveda) ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 3,000 ปี ก็กล่าวถึงโยเกิร์ตและอาหารที่มีลักษณะคล้าย Raita การผสมโยเกิร์ตกับสมุนไพรและเครื่องเทศน่าจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จนกลายเป็นสูตรที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
---ความเชื่อเรื่องความเย็น: ความเข้าใจผิด---
หลายคนเชื่อว่า Raita ช่วยลดความเผ็ดได้จริง ซึ่งก็เป็นความเข้าใจทั่วไป แต่ตามความเชื่อก็มีเรื่องเล่าว่า ฤๅษีชื่อ "นารท" เป็นผู้คิดค้น Raita เพื่อช่วยให้คนที่กินอาหารเผ็ดจัดสามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งมิติของการใช้ประโยชน์จากอาหารอย่างมีปัญญา
---การปรับเปลี่ยนไปตามท้องถิ่น---
เมื่อ Raita แพร่กระจายไปทั่วอินเดีย ก็เกิดสูตรใหม่ๆ ตามท้องถิ่น เช่น
●
Boondi Raita (รัยต้าบุนดี) ในอินเดียเหนือ ใช้เม็ดแป้งทอดกรอบ
●
Curry leaves Raita ภาคใต้ใส่ มะพร้าวและใบแกง
●
Kadhi (คาดี) ที่เป็นโยเกิร์ตหวานในภาคตะวันตก เช่น รัฐคุชราต ที่จะนิยมรสหวาน
Boondi Raita
---การแพร่กระจายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน---
Raita ไม่เพียงได้รับความนิยมในอินเดีย แต่ยังแพร่ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างปากีสถาน บังกลาเทศ และเนปาล รวมถึงประเทศในตะวันออกกลางอย่างกรีซและตุรกี โดยมีเมนูคล้ายคลึง เช่น
ซาซิกิ (Tzatziki) ในกรีซ ที่ผสมโยเกิร์ต แตงกวา กระเทียม และสมุนไพร
จาจึก (Cacık) ในตุรกี ซึ่งคล้ายกับซาซิกิและไรตา
●
ซาซิกิ (Tzatziki) ในกรีซ ที่ผสมโยเกิร์ต แตงกวา กระเทียม และสมุนไพร
●
จาจึก (Cacık) ในตุรกี ซึ่งคล้ายกับซาซิกิและไรตา
Tzatziki จากกรีซ
Cacık (จาจึก) ในตุรกี
---สรุป---
ประวัติศาสตร์ของRaita ผูกพันกับรากลึกทางวัฒนธรรมและอาหารของอนุทวีปอินเดียอย่างแน่นแฟ้น โดยเริ่มจากเป็นเครื่องช่วยย่อยในศาสตร์อายุรเวท สู่เมนูเครื่องเคียงที่มีรสชาติเข้ากันได้กับอาหารหลากหลาย โดยยังคงคุณค่าเดิมที่ให้ความสดชื่นและประโยชน์ต่อร่างกาย
ความรู้
อาหาร
ประวัติศาสตร์
1 บันทึก
4
3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
อาหารอินเดีย
1
4
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย