14 เม.ย. เวลา 03:00 • สุขภาพ

ยาเบาหวาน ลดน้ำหนัก สู่ความหวังใหม่ ป้องกันอัลไซเมอร์?

คิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อยาอย่าง Ozempic หรือ Wegovy (ซึ่งมีตัวยาสำคัญคือ Semaglutide) กันมาบ้างใช่ไหมครับ โดยเฉพาะในแง่ของการช่วยลดน้ำหนัก จนกลายเป็นกระแสไปทั่วโลก แต่จริงๆ แล้ว ยาในกลุ่มนี้ที่เรียกว่า GLP-1 receptor agonists (ผมขอเรียกสั้นๆ ว่า GLP-1 RA นะครับ) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นหลัก แต่ล่าสุดนี้เอง วงการแพทย์เริ่มหันมาให้ความสนใจกับศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของยาเหล่านี้ นั่นคือ การปกป้องสมอง ของเราครับ
"ภาวะสมองเสื่อม" ซึ่งรวมถึงโรคอัลไซเมอร์และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กำลังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก อย่างในสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยเกือบ 7 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าภายในปี 2060 แม้แต่ในประเทศไทยของเรา ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตก็ชี้ว่ามีผู้สูงอายุไทยป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์จำนวนไม่น้อย และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามสังคมผู้สูงอายุ
แม้ว่าปัจจุบันจะมียาใหม่ๆ สำหรับรักษาอัลไซเมอร์ออกมาบ้าง แต่ก็ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยอยู่ ทำให้การมองหายาเดิมที่มีอยู่แล้ว และค่อนข้างปลอดภัย มาใช้ในข้อบ่งใช้ใหม่ (Drug Repurposing) กลายเป็นแนวทางที่น่าจับตามองอย่างยิ่งครับ
เร็วๆ นี้ มีงานวิจัยที่น่าสนใจ 2 ชิ้น และบทบรรณาธิการในวารสารการแพทย์ชั้นนำอย่าง JAMA Neurology ได้จุดประกายความหวังนี้ขึ้นมาครับ
งานวิจัยชิ้นแรกจากมหาวิทยาลัยฟลอริดา งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาขนาดใหญ่ครับ เขาไปดูข้อมูลผู้ป่วยเบาหวานกว่า 90,000 คน แล้วเปรียบเทียบความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมที่เกี่ยวข้อง (Alzheimer's disease and related dementias หรือ ADRD) ระหว่างกลุ่มที่ใช้ยา GLP-1 RA และยาเบาหวานอีกกลุ่มที่เรียกว่า SGLT2 inhibitors (SGLT2i) กับกลุ่มที่ใช้ยาเบาหวานชนิดอื่นๆ
ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ใช้ยา GLP-1 RA มีความเสี่ยงในการเกิด ADRD ต่ำกว่าถึง 33% ส่วนกลุ่มที่ใช้ยา SGLT2i มีความเสี่ยงต่ำกว่าถึง 43% เมื่อเทียบกับยาเบาหวานอื่นๆ แม้ว่าตัวเลขของ SGLT2i จะดูดีกว่าเล็กน้อย แต่ทางสถิติแล้วถือว่าไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ นั่นหมายความว่า ยาทั้งสองกลุ่มนี้อาจมีผลช่วยปกป้องสมองได้คล้ายๆ กันครับ
งานวิจัยชิ้นที่สองจากมหาวิทยาลัยกัลเวย์ (ไอร์แลนด์) งานวิจัยนี้แตกต่างออกไปครับ เป็นการทบทวนวรรณกรรมและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Systematic Review and Meta-analysis) จากงานทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม (RCTs) ถึง 26 ชิ้น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 164,000 คน
ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า ยาในกลุ่ม GLP-1 RA มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อม แต่ที่น่าสนใจคือ งานวิจัยนี้ ไม่พบ ประโยชน์ที่คล้ายกันในยา SGLT2i หรือยา Pioglitazone (ยาเบาหวานอีกชนิด) ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันนี้ ทำให้คิดได้ว่า ยา GLP-1 RA อาจจะมีกลไกพิเศษบางอย่างในการปกป้องการทำงานของสมองโดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากยาเบาหวานกลุ่มอื่นที่มีผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือดอยู่แล้ว
ทีนี้คำถามคือ แล้วยา GLP-1 RA มันไปทำอะไรกับสมองของเราได้ล่ะ? เดิมทีเรารู้ว่ายาพวกนี้ออกฤทธิ์ที่ตับอ่อนและทางเดินอาหาร ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก แต่ต่อมานักวิทยาศาสตร์ค้นพบเรื่องน่าทึ่งครับว่า ตัวรับ (Receptor) ของ GLP-1 ไม่ได้มีอยู่แค่ในอวัยวะเหล่านั้น แต่ยังพบได้ใน สมอง หัวใจ และระบบภูมิคุ้มกัน ด้วย
จากการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่ายา GLP-1 RA มีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างต่อสมองครับ เช่น
1. ลดการอักเสบในสมอง (Reduce brain inflammation) การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมของเซลล์สมอง
2. เพิ่มความยืดหยุ่นของจุดเชื่อมต่อเซลล์ประสาท (Enhance synaptic plasticity) ช่วยให้เซลล์สมองสื่อสารกันได้ดีขึ้น ซึ่งสำคัญต่อการเรียนรู้และความจำ
3. ลดการสะสมของโปรตีนผิดปกติ ลดการสะสมของโปรตีน เบต้า-อะไมลอยด์ (Amyloid-β) และ ทาว (Tau) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
ดร. ไดอานา ธิอารา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก ได้เขียนไว้ในบทบรรณาธิการของ JAMA Neurology ว่า ผลต่อสมองเหล่านี้ "มีแนวโน้มที่ดีอย่างยิ่ง" (highly promising) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยา GLP-1 RA รุ่นใหม่ๆ อย่าง Semaglutide ที่ออกฤทธิ์ได้แรงและนานขึ้น เธอยังบอกอีกว่า เราเพิ่งจะอยู่แค่ "จุดเริ่มต้น" (precipice) เท่านั้น เพราะกำลังมียาใหม่ๆ ที่ออกฤทธิ์ต่อฮอร์โมนหลายตัวพร้อมกัน (Dual and Triple hormone agonists) ซึ่งอาจมีศักยภาพในการปกป้องสมองได้ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต
แน่นอนครับว่า ข้อมูลที่เรามีตอนนี้ส่วนใหญ่มาจากการศึกษาเชิงสังเกต (Observational study) หรือการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง ซึ่งบอกได้แค่ "ความสัมพันธ์" แต่ยังไม่ได้ยืนยัน "ความเป็นเหตุเป็นผล" อย่างชัดเจน ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การรอผลการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่ในมนุษย์โดยตรงครับ
ขณะนี้ มีการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 (Phase III Clinical Trials) ที่สำคัญกำลังดำเนินการอยู่ เช่น การศึกษา EVOKE และ EVOKE Plus ซึ่งเป็นการศึกษาผลของยา Semaglutide ต่อผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้นโดยตรง หากผลการทดลองเหล่านี้ออกมาเป็นบวก ยืนยันว่ายา GLP-1 RA สามารถชะลอหรือป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้จริง ก็จะถือเป็นการพลิกโฉมหน้าการดูแลทั้งผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมเลยทีเดียวครับ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มักพบทั้งสองภาวะนี้ร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ในฐานะเภสัชกร ผมต้องย้ำเสมอว่า ยาทุกชนิดมีทั้งคุณและโทษครับ ยาในกลุ่ม GLP-1 RA ก็เช่นกัน ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจมีอาการเบื่ออาหาร หรือการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ (Lean muscle mass) ซึ่งอาจเป็นเรื่องน่ากังวลในผู้สูงอายุที่เสี่ยงต่อภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อย (Sarcopenia) อยู่แล้ว
ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้น้อยแต่รุนแรง เช่น ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis) และเคยมีข้อกังวลจากผลการศึกษาในสัตว์ทดลองเกี่ยวกับความเสี่ยงมะเร็งไทรอยด์บางชนิด แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่พบความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในมนุษย์
โดยสรุปแล้ว ข้อมูลเบื้องต้นที่ว่ายาในกลุ่ม GLP-1 RA ซึ่งใช้รักษาเบาหวานและลดน้ำหนัก อาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมได้นั้น นับเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นและเป็นความหวังใหม่จริงๆ ครับ กลไกการออกฤทธิ์ต่อสมองที่ค้นพบในสัตว์ทดลองก็ดูมีเหตุผลสนับสนุน แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องรอผลการศึกษาในมนุษย์ที่น่าเชื่อถือมายืนยัน ก่อนที่จะสรุปอะไรได้นะครับ
ดังนั้น ณ ตอนนี้ ผมยังไม่แนะนำให้ใครไปหาซื้อยาเหล่านี้มาใช้เพื่อหวังผลป้องกันอัลไซเมอร์ด้วยตัวเองนะครับ เพราะยังไม่มีข้อบ่งใช้ที่ได้รับการรับรอง และยาทุกตัวก็มีผลข้างเคียงที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบภายใต้การดูแลของแพทย์
แต่สิ่งที่เรื่องนี้กระตุ้นให้เราฉุกคิดก็คือ ความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพกายโดยรวม กับสุขภาพสมอง มันอาจจะใกล้ชิดกันมากกว่าที่เราคิดนะครับ การดูแลสุขภาพองค์รวม เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การรักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน แต่ยังอาจช่วยดูแลสมองของเราให้แข็งแรงไปนานๆ ด้วยก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง:
1. Jackson, J. (2025, April 9). New reports suggest diabetes weight loss drugs could reduce Alzheimer's risk. Medical Xpress. Retrieved April 11, 2025, from the provided PDF document.
2. Tang, H., et al. (2025). GLP-1RA and SGLT2i Medications for Type 2 Diabetes and Alzheimer Disease and Related Dementias. JAMA Neurology. DOI: 10.1001/jamaneurol.2025.0353
3. Seminer, A., et al. (2025). Cardioprotective Glucose-Lowering Agents and Dementia Risk. JAMA Neurology. DOI: 10.1001/jamaneurol.2025.0360
4. Thiara, D. (2025). GLP-1 Receptor Agonists—From Breakthroughs in Cardiometabolic Treatment to Emerging Neuroprotective Potential. JAMA Neurology. DOI: 10.1001/jamaneurol.2025.0237
โฆษณา