ความคิดเห็นบนคำถาม
คำตอบ (10)
- ตื่นมีความหมายตรงข้ามกับหลับหรือหลงอยู่คือกิเลสตัณหา เมื่อเรารู้สติรู้เท่าทันกับสภาวะธรรมอันเป็นทางแห่งกิเลสตัณหา เราจึงไม่หลงไปกับสภาวะเหล่านั่น จึงเรียกว่า ตื่นรู้
- เป็นภาวะทางใจของบุคคลที่"รู้สึก"ถึงความกระจ่างชัด รู้แล้ว เข้าใจแล้วต่อเรื่องราว เหตุการณ์ สิ่งต่างๆที่เคยรับรู้และเกี่ยวข้อง ที่มักเป็นไปในทางที่แตกต่างจากเดิม หรือรู้เพิ่มเติมมากขึ้นจากเดิม จนอาจก่อให้เกิดมุมมอง ทัศนคติ แนวปฏิบัติใหม่ต่อสิ่งนั้นๆ...
- ในทางธรรมพระท่านว่าไว้แบบนี้ค่ะ
- 2
- “ตื่นรู้” คือ ภาวะที่จิตใจรู้เท่าทันความจริงของชีวิต ไม่ตกเป็นทาสของกิเลส อารมณ์ หรือมายาคติที่ถูกปลูกฝังในทางพุทธศาสนา “ตื่นรู้” หมายถึง การเข้าถึงสัจธรรม หรือ อริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และ มรรค ครับ
- หมายถึง-รู้อริยสัจ และ-รู้ตัวทั่วพร้อม ในขณะที่ยังตื่นอยู่ อายตนะ (ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส ใจ) ยังเปิดอยู่อย่างสมบูรณ์...
- ..จิตที่เดินทาง เป็นนักท่องเที่ยว .หลงใหลในโลกียะ ..ตื่นรู้ แก้ไข ..ทางเดืนของจิต..ไม่ได้เลย .เกิดที่ไร ..ก็ไม่เคยจับตนค้นตน ที่อาศัยอยู่ในกาย ..จิตไปอาศัยในสังขารกรรมหมูหมากาไก่ .มันก็หมดโอกาส ที่จะใช้สังขารกรรมนั่นมาเรียนรู้ทำเรื่องราวดีๆ .มีแต่กายมนุษย์..ที่สุดประเสริฐ สามารถม...
- มีความเข้าใจในภารกิจ หรือเป็นการศึกษาทำความเข้าใจกับแผนก่อนที่จะลงมือทำนั่นเอง
- คำว่า "ตื่นรู้" คนไทยไป copy ฝรั่งเขามาทั้งดุ้น มันมาจากคำว่า Awakening และบางกลุ่มก็บอกว่ามาจาก Awareness จนเมื่อพระสงฆ์บ้านเรา ถูกญาติโยมซักถามว่าหมายถึงอย่างใด พระสงฆ์บ้านเราที่พอจะผ่านการศึกษาตำราฝรั่งมังค่า ก็พัฒนาใส่คำว่า Self ลงไป เป็นคำว่า "Self Awareness" ให้ความหมายด้วย...
- 1
- ตื่นรู้คือปลุกให้จิตตื่นจากการหลับใหลถูกครอบงำเราทุกคนมีจิตที่เป็นจิตเดิมแท้และจิตที่ห่อหุ้มจิตเดิมแท้เรียกว่าจิตตสังขารเพื่อสร้างองค์ความรู้จิตตสังขารทำหน้าที่ปรุงแต่งส่วนจิตเดิมแท้...
- 2
