28 ก.ค. 2019 เวลา 10:57 • สุขภาพ
ผลไม้รสหวาน อันตรายกว่าที่คิด !
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้ผมกำลังไดเอทอยู่ เพราะรู้สึกอึดอัด เสื้อผ้าที่เคยใส่ก็รู้สึกแน่นไปหมด ไม่คล่องตัว
รู้แล้วล่ะว่าตัวเองอ้วนขึ้น แต่ก็เดี๋ยวค่อยลดมาตลอด เดี๋ยวค่อยอยู่นั่นแหละ ไม่ได้เริ่มซักที
แล้วคนไทยนะ นานๆเจอกันที ประโยคแรกทักกันก่อนเลย “อ้วนขึ้นมากเลยนะ”
.
หน้าชาซิครับที่นี้
.
วันนึงผมก็มีโอกาสไปดิวงานที่โรงพยาบาล จึงขอพยาบาลชั่งน้ำหนัก
แม่จ้าวววว !!!
น้ำหนักขึ้นมา 7 กิโลกรัม ในระยะเวลาประมาณหนึ่งปีเท่านั้น
ที่ตกใจตัวเองเพราะปกติตอนที่น้ำหนักขึ้นจะประมาณ 3 กิโลกรัมเท่านั้นเอง 😅
ผมคิดว่าผมต้องไดเอทอย่างจริงจัง !!!
อันดับแรกเลยที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึงถ้าต้องการไดเอทคือ ไม่มัน ไม่หวาน กินให้น้อยๆ ลดแป้ง ออกกำลังกายเป็นประจำ
ผมสนใจเรื่องของความหวาน เพราะเนื่องจาก ผมเป็นคนชอบทานของหวาน จึงหาแรงบันดาลใจ โดยหาข้อมูลสนับสนุน เพื่อทำให้ลด ละ เลิก กินหวาน กินน้ำตาล
เริ่มต้นโดยการลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม เช่นกาแฟก็จะเป็นแบบหวานน้อย จนปัจจุบันก็ทานกาแฟดำได้ ขนมหวานต่างๆก็ลดได้เยอะ ทานเป็นบางครั้งเพื่อให้ร่างกายไม่เครียดไป
แต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือ ผลไม้ก็มีน้ำตาลที่เป็นอันตรายเช่นกัน
ที่ผมรู้สึกตกใจเนื่องจากมันขัดกับความเชื่อบางอย่างว่าผลไม้มีแต่ประโยชน์ ยิ่งกินเยอะยิ่งดี
แต่ข้อมูลทางการแพทย์นี่ไม่ใช่อย่างที่ผมเชื่อเลย
มีเพื่อนๆหลายคนคงคิดแบบผม...
ถ้านึกถึงน้ำตาล เราคงนึกถึงน้ำตาลทราย น้ำตาลปีบ ประมาณนั้น
ปัจจุบันคนไทยกินหวานมากกว่า 20 ช้อนชาต่อวันซึ่งเกินมาตรฐานไปมาก ( มาตรฐานคือ 6 ช้อนขาต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ ) ทำให้คนไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานกันมากขึ้น และมีอัตราที่สูงขึ้นด้วย
โดยสถิติจากสมาคมเบาหวานแห่งประเทศไทย ใน 100 คนจะพบคนที่เป็นเบาหวานสูงถึง 7 คน !!! เยอะนะ
นอกจากเบาหวานแล้วก็ยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายแรงในกลุ่มโรค NCD ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
คราวนี้เกี่ยวอะไรกับผลไม้ล่ะ
ในผลไม้ที่มีรสหวานจะมีน้ำตาลประเภทฟลุคโตส
น้ำตาลฟรุคโตส เป็นน้ำตาลที่ไม่มีประโยชน์ในการให้พลังงานแก่กล้ามเนื้อและสมองเลยแต่จะถูกสะสมไว้เป็นไขมันพอกตับ
2
นอกจากนี้ยังไประงับการหลั่งสารอินซูลิน ทำให้เกิดการเผาผลาญที่ผิดปกติ โรคความดันสูง ระดับคอเลสเตอรอลผิดปกติ การอ้วนลงพุง จนนำไปสู่โรคหัวใจและโรคเบาหวานตามมา
แหม่...ผลไม้ในเมืองไทยมีแต่อร่อยๆทั้งนั้น จะให้เลิกกินผลไม้เลย ก็ยังขัดกับความเชื่อที่คุณครูบอกว่าผลไม้มีประโยชน์มาก
คงต้องใช้หลักการ Too More To Bad อะไรมากไปก็ไม่ดี
ต่อไปผลไม้ก็คงต้องเลือกกินที่รสไม่หวาน ไม่ทานเป็นมื้อหลักซึ่งอาจจะทานหลังอาหาร ทานผลไม้ให้หลากหลายมากขึ้นในแต่ละครั้ง
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้วิตามินจากผลไม้ แต่เรายังมีทางเลือกการได้รับวิตามินและเอ็นไซน์จากธัญพืชอื่นๆอีกเยอะ
อย่างไรก็ดีร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การกำจัดไขมัน สารพิษ หรือของเสียต่างๆก็ต่างกัน เพราะผมเคยได้ข้อมูลมาว่าบางชนเผ่าที่กินแต่ผักและผลไม้ก็มีชีวิตยืนยาวโดยเฉลี่ยเป็น 100 ปี
ทางที่ดีใครที่ชอบทานผลไม้มากๆ ก็ควรหาโอกาสไปตรวจสุขภาพ เช็คระดับไขมันพอกตับ เพื่อความสบายใจครับ
สุขภาพดีสร้างได้
โจอี้ - ธีระ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา