5 ก.ย. 2019 เวลา 15:42 • ประวัติศาสตร์
ที่มาของปุ่มชั้น G ที่อยู่ในลิฟต์
เคยสงสัยไหมครับว่า ...
ทำไมในลิฟท์เรียกชั้น 1 ว่า ชั้น g (นิยมในอังกฤษ ส่วนอเมริกานิยมใช้ 1)
ทำไมคำว่า คณะกรรมการ จึงใช้คำว่า board ที่แปลว่า แผ่นไม้ หรือแผ่นกระดาน
แล้วทำไมคำว่า chairman (คนนั่งเก้าอี้) จึงแปลว่า ประธาน
คำถามทั้งหมดนี้ ถ้ามองจากมุมมองของคนปัจจุบันเช่นพวกเรา อาจจะตอบได้ยาก เพราะเราไม่รู้ต้นกำเนิดของคำเหล่านี้ ดังนั้นเรามาเดินทางย้อนกลับไปในอดีตกันอีกสักครั้งดีไหมครับ คราวนี้เราจะไปอังกฤษในยุคกลางกัน (medieval England) แล้วคุณจะเห็นว่า แค่เปิดประตูบ้านของพวกเขาเข้าไปเราก็แทบจะได้คำตอบต่างๆที่เราสงสัยกันอยู่
ตอนนี้เราก็มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอังกฤษยุคกลางกันแล้วนะครับ
เดินไปตามถนนตรงไปเรื่อยๆเลยครับ ใช่ครับ ดินสกปรก แฉะๆ ที่มีมูลของสัตว์กองเป็นหย่อมๆ นี่แหละครับคือถนน แต่เวลาเดินระวังด้วยนะครับ พยายามมองด้านบนไว้หน่อย เพราะบ้านในยุโรปยุคนี้เขาไม่มีส้วมกัน เดินๆไป อาจจะมีใครที่อยู่ชั้นสองสาด ปัสสาวะหรืออุจจาระออกมาทางหน้าต่างได้ เจอไม่บ่อยหรอกครับ แต่ก็มีบ้าง หลายบ้านทำกันครับ ขับถ่ายเสร็จเขาก็สาดมาบนถนน ตั้งแต่อาณาจักรโรมันล่มสลายไปเมื่อเกือบพันปีก่อน ระบบน้ำประปา ระบบน้ำทิ้ง และส้วม ก็ถูกลืมเลือนกันไป
ถึงหน้าบ้านแล้วครับ ผลักประตูเข้าไปได้เลยครับ
แอ๊ดด.....
ไม่ต้องถอดรองเท้าก็ได้ครับ คนอังกฤษเขาไม่ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านเพราะอากาศมันหนาว
มองไปรอบๆเห็นอะไรบ้างครับ ใช่ครับ แม้ว่าจะอยู่ในบ้านแล้ว แต่พื้นบ้านก็ยังเป็นดินหรือยังเป็น ground อยู่
ชั้นล่างของบ้านจึงนิยมเรียกว่า ชั้น ground ต่อมาแม้ว่าถนนจะปูด้วยก้อนหินหรือเปลี่ยนเป็นคอนกรีตแล้ว แต่คนก็ยังติดปากและเรียกชั้นล่างที่ติดถนนว่า ชั้น ground อยู่ดีครับ
คราวนี้ลองมองไปรอบๆบ้านครับ เห็นอะไรบ้างครับ ?
แทบจะไม่มีอะไรเลยใช่ไหมครับ เป็นห้องโล่งๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย กลางบ้านเหมือนจะมีที่ก่อกองไฟอยู่กองนึง ตามพื้นมีกองฟางกองไว้ตรงนู้นนิด ตรงนี้หน่อย เขาเอาไว้ปู่นั่ง หรือมาห่มให้ความอบอุ่นครับ ส่วนที่ก่อกองไฟกลางบ้านใช้สำหรับทำอาหารและให้ความอบอุ่นไปด้วยกัน
สงสัยใช่ไหมครับ แผ่นไม้กระดานหนาๆใหญ่ๆ ที่แขวนไว้บนฝาผนังบ้านคืออะไร?
แผ่นกระดานไม้หรือ board อันนี้ เป็นแผ่นไม้เอนกประสงค์ครับ เช่น เมื่อถึงเวลากินข้าว ก็จะยกลงมาแล้วเอามาวางบนตักของทุกคนเพื่อใช้เป็นโต๊ะอาหาร หรือเมื่อจะมีการนั่งประชุมกัน โดยสมาชิกในบ้านหรือคนที่จะมาร่วมประชุมจะมานั่งบนม้านั่งยาวๆหรือ bench แบบที่เรายังใช้กันอยู่ในโรงอาหาร แล้วนำ บอร์ด มาวางบนหน้าตักของทุกคน เพื่อทำเป็นโต๊ะอาหารหรือโต๊ะประชุม
และด้วยเหตุนี้เองคณะกรรมการที่นั่งรอบๆ บอร์ดจึงถูกเรียกว่าเป็น สมาชิกของ “บอร์ด” หรือ member of the board แล้วต่อมาเรียกสั้นลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นำคว่า บอร์ดที่ใช้กันในปัจจุบัน เช่น บอร์ดการบินไทย บอร์ด อสมท.
1
ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพราะอย่างที่เห็นนั่นแหละครับคือ บ้านมันมีขนาดเล็กมาก ถ้าวางโต๊ะตัวใหญ่ๆไว้ ก็จะไม่มีที่นอนกันครับ เลยต้องใช้วิธีนี้เอา
4
ส่วนประธานของที่ประชุมจะนั่งหัวโต๊ะครับ และเพราะคนที่หัวโต๊ะไม่สามารถนั่งบนม้านั่งยาวกับคนอื่นๆได้ เขาจึงได้นั่งบนเก้าอี้ที่มี 4 ขา ที่เรียกว่า chair ครับ ใช่ครับ ด้วยเหตุนี้เราจึงนิยมเรียกประธานของที่ประชุมว่า chairman หรือ chairman of the board เพราะเขานั่งบน chair ไม่ได้นั่งบน bench เหมือนคนอื่นๆ
1
แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้ครับ
เพราะคำว่า board นี้ก็ยังวิวัฒนาการต่อไปเรื่อยๆจนกลายเป็นคำหรือวลีอีกหลายคำ เช่น เมื่อคำว่า บอร์ด มีความหมายว่าโต๊ะแล้ว วิวัฒนาการก็ยังไม่หยุดแค่นี้แต่นำไปสู่ วลีอื่นๆต่อเช่น above board หรือเหนือโต๊ะ หรือบนโต๊ะ ที่มีความหมายว่า เปิดเผยตรงไปตรงมา เพราะทำอะไรเหนือโต๊ะมันมองเห็นได้ชัด และเมื่อมีคำว่าเหนือโต๊ะก็มี สำนวนตรงข้ามคือ ใต้โต๊ะ หรือ under the table ที่แปลว่า ไม่ซื่อตรง คดโกง เกิดขึ้นตามมา
1
คำว่า boarding school ที่แปลว่าโรงเรียนประจำ หรือโรงเรียนกินนอนก็มาจาก board ที่แปลว่าโต๊ะ วิวัฒนาการต่อกลายเป็นคำว่า board ที่แปลว่า อาหาร (ความหมายนี้เลิกใช้ไปแล้ว) เพราะอาหารมักจะกินบนโต๊ะ จากคำว่าอาหารก็หมายถึง สถานที่ซึ่งมีอาหารและที่นอนให้ (เช่น โรงเตี๊ยมเล็กๆ) และเมื่อคำว่า board นี้มาใช้คู่กับคำว่าโรงเรียนเป็น boarding school จึงหมายถึง โรงเรียนที่นักเรียนกินนอนที่โรงเรียนเลย
สำหรับคำว่า board ที่หมายถึงการขึ้นเรือ หรือขึ้นเครื่องบินนั้น ที่มาไม่แน่ชัดเท่าไหร่ แต่เชื่อว่า น่าจะเริ่มจากคำว่าแผ่นไม้ แล้วก็กลายไปมีความหมายถึงด้านข้างของเรือ (ซึ่งทำด้วยไม้) เวลาจะขึ้นเรือในยุคกลาง เราต้องเอาแผ่นไม้ (board) มาปู พาดไปกับด้านข้างของเรือ (board) ดังนั้นการ boarding หรือ aboard จึงมีความหมายว่าขึ้น (เรือ)
1
หลายร้อยปีต่อมา เมื่อมีรถไฟเกิดขึ้น เมื่อมีเครื่องบินเกิดขึ้น การขึ้นรถไฟและเครื่องบิน จึงใช้ว่า boarding และก่อนจะขึ้น เราก็ต้องมี boarding pass ติดตัว
เห็นไหมครับ แค่เดินเข้าไปชะโงกดูบ้านในประวัติศาสตร์นิดเดียว คำศัพท์หลายคำที่ฟังแล้วแปลกในปัจจุบันก็กลายเป็นมีเหตุมีผลขึ้นมาก #ไม่รู้อดีตก็จะไม่เข้าใจปัจจุบัน #ไม่เข้าใจปัจจุบันก็จะเห็นอนาคตได้ยากขึ้น
และเช่นเคยครับ ปิดท้ายด้วยการโฆษณาเสียหน่อย ใครชอบเรื่องราวที่มาหรือรากศัพท์แบบนี้นะครับ แนะนำอ่าน ทำไมเราเลี้ยง pig แต่กิน pork และ ทำไมแฮมเบอร์เกอร์จึงไม่มีแฮม (คำว่า board ไม่มีอยู่ในหนังสือครับ) ถ้าไม่รู้จะซื้อที่ไหนก็สามารถเสริช์หาจาก Lazada ได้ครับ
โฆษณา