Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
SyncroNice
•
ติดตาม
16 ก.พ. 2020 เวลา 05:58 • สุขภาพ
วิธีลดพุงแบบไม่ต้องหักดิบ ไม่ต้องพึ่งยา
2
ก่อนอื่นเราต้องรู้สาเหตุก่อนว่า อะไรที่ทำให้เราอ้วน/บวมได้บ้าง
1. อาหารที่มีแป้ง/น้ำตาลสูง
2. อาหารที่มีไขมันสูง
3. อาหารที่มีโซเดียมสูง
ส่วนวิธีแก้กรรม ง่ายที่สุดก็คือต้องลดของกินพวกนี้ แต่วิธีนี้อาจทำให้บางคนโทรม ไม่มีแรง และเกิดอาการโยโย่ในภายหลังได้
ผมขอแนะนำให้ทุกคนออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
แล้วออกกำลังกายวิธีไหนดีล่ะ จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เวทเทรนนิ่ง คือคำตอบ
แต่ก็ใช่ว่าการคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ จะไม่สำคัญนะครับ แต่สาเหตุที่ยกให้เวทเทรนนิ่งมาก่อน เพราะ...
ลองคิดตามนี้นะครับ
สมมติเราน้ำหนัก 50 กก. เครื่องในและระบบภายในร่างกายของเราต้องใช้พลังงาน ประมาณ 100 กิโลแคล/วัน (ขอย้ำว่าสมมตินะครับ เพื่อให้เข้าใจง่าย)
แล้วถ้าเราน้ำหนัก 60 กก. แน่นอนเราต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพราะมวลร่างกายมากขึ้น นั่นคือ 120 กิโลแคล/วัน
ที่พูดมาจะเกี่ยวข้องกับ “อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน” Basal metabolic rate (BMR)
1
ซึ่งอัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐานจะแปรผันตรงกับมวลกล้ามเนื้อในร่างกาย ก็คือ ถ้ากล้ามเนื้อมากขึ้น ค่า BMR ก็จะสูงขึ้นตามนั่นเอง
ถ้าคุณมีกล้ามเนื้อที่มากพอ แม้ว่าคุณจะนั่งหายใจเฉยๆ ทั้งวันพลังงานที่ร่างกายของคุณเผาผลาญอาจจะสูงกว่าคนที่มีกล้ามเนื้อน้อยที่เดินทั้งวันก็ได้ 😮 เพราะเครื่องในและกล้ามเนื้อของคุณทำงานหนักกว่าคนที่กล้ามเนื้อน้อยนั่นเอง
การลดน้ำหนักวิธีอื่นมีข้อเสีย คือ จะทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ดูบอบบาง ไม่แข็งแรง และในระยะยาวจะกลับมาอ้วน/บวมง่าย เนื่องจากไม่มีกล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญ
ยอมเจียดเวลาเวทเทรนนิ่ง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 1-1.5 ชม. ผสมคาร์ดิโอบ้างตามความเหมาะสม แล้วคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
สำหรับคนที่ผอมแต่มีพุง : นอกจากเวทแล้ว ให้คาร์ดิโอแยกวัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 วัน วันละไม่เกิน 40 นาที ก็โอเคแล้วครับ
สำหรับคนอ้วน : ต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนผอมลงพุงครับ ให้เพิ่มคาร์ดิโอ 20 นาที ก่อนเวทเทรนนิ่งด้วยนะ
หมายเหตุ: ปรับวิธีได้ตามสภาพร่างกายของแต่ละท่านนะครับ
การกิน:
กินอาหารที่มีโปรตีนสูงให้มากขึ้น แบ่งกินระหว่างมื้อด้วย เช่น 10:00, 14:00, 19:00 น.
สำหรับของหวาน สามารถกินได้ทุกอย่างเลย แต่ขอให้คิดไว้ในใจเสมอว่า “กินเพื่อให้รู้รส” เช่น น้ำอัดลม จากที่เคยกินหมดแก้ว ก็กินแค่ครึ่งแก้วพอให้หายอยาก ของหวานทุกเมนู ถ้าสั่ง “หวานน้อย” ได้ก็จะดีมาก รสไม่ต่างกันมากหรอกครับ
ก๋วยเตี๋ยวน่ะ ไม่ต้องปรุงเลยครับ นอกจากเติมพริก น้ำส้ม คนส่วนใหญ่มักจะปรุงก่อนชิมด้วยนะ และน้ำซุปบางร้านอาจจะเต็มไปด้วยผงชูรส (โซเดียมสูงตัวจะบวม) เราก็ไม่ควรซดจนหมดชามนะครับ
ส่วนของทอดก็ ”กินเพื่อให้รู้รส” เช่นกัน
พอกินแบบนี้ไปสักระยะ ร่างกายและสมองจะปรับตัวครับ เช่น บางทีผมกินสูตรหวานน้อยก็ว่าหวานมากแล้ว แต่เพื่อนกลับบอกว่าจืด เป็นต้น
การนอน:
แล้วอย่าลืมนอนพักผ่อนให้เพียงพอล่ะ! เพราะฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญและสร้างกล้ามเนื้อ จะหลั่งได้ดีก็ต่อเมื่อเราพักผ่อนตรงเวลาและคุณภาพในการนอนดีเพียงพอ
ขอให้ทุกท่านถึงเป้าหมายที่วางไว้ครับ🙂
23 บันทึก
37
7
22
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Health
23
37
7
22
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย