20 พ.ค. 2020 เวลา 02:20 • ไลฟ์สไตล์
การไม่มีโรคก็เป็นลาภอันประเสริฐยิ่งนักแล้ว ดีกว่านอนซมป่วยอยากทำอะไรก็ทำไม่ได้เอาน๊า
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ก็อยากให้ทุกๆ คนยังคงร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย พร้อมอ่านเรื่องราวดีๆ ที่ในบล็อกกัน รวมถึงเป็นช่วงที่โรคระบาด Covid-19 ยังคงแพร่กระจายอยู่ พร้อมแฝงตัวมาติดเราและคนรอบข้างได้ เรายิ่งต้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงกันเข้าไว้นะ
1. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
เหมาะที่จะทำเสมอๆ ในทุกฤดูกาลเลยล่ะค่ะ การดื่มน้ำเยอะจะช่วยให้เลือกไหลเวียน การถ่ายเทของเสียออกจากร่างกาย การขับถ่ายก็เป็นปกติ หากดื่มน้ำน้อย หรือว่าดื่มไม่เพียงพอก็มีโอกาสที่จะทำให้เจ็บป่วยได้ ควรดื่มน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 8 แก้วนะคะ เพื่อสุขอนามัยที่ดี และเพื่อท้องที่สบายไม่ปวด หรือท้องอืดแล้ว ในช่วงอากาศหนาวๆ เย็นๆ ชื้นๆ แบบนี้ดื่มน้ำอุ่นๆ จะช่วยให้สบายท้องมากกว่าน้ำเย็นจัดค่ะ
2. กินวิตามินซีเสริมความแข็งแรงให้ร่างกาย
การรับประทานวิตามินซีเสริมวันละ 500-1,000 มิลลิกรัม ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ร่างกายเสียสมดุลได้ง่ายกว่าปกติมากยิ่งใครป่วยง่ายยิ่งต้องดูแลกันเป็นพิเศษเลย อย่ารอให้ร่างกายขาดวิตามินก่อนแล้วค่อยไปหาเสริมเลยค่ะ บางทีเราอาจจะป่วยจนต้องกินยาหมอขมๆ ฝาดๆ คอแทนไปเสียก่อน มันจะทรมานกว่ากันเยอะเลยน๊า
3. ทำความสะอาดของใกล้ตัว
ซักผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอนทุกสัปดาห์ ถอดไส้กรองแอร์ไปล้างฝุ่นทุกสัปดาห์ ที่จริงเรื่องพวกนี้ควรทำประจำสม่ำเสมอนะคะ เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์ยามนอน ที่นอนไม่มีฝุ่น เห็บ ไร ที่เป็นตัวเร่งทำให้เกิดการแพ้อากาศ เกิดเป็นสิวเพราะปลอกหมอนสกปรก รวมถึงเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจจะมากับอากาศยามมีลมมีฝนแบบนี้ด้วย เสียเวลาสัปดาห์ละครั้งเอง เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีนะคะ
4. อย่าอยู่ในที่อับ
อากาศไม่ถ่ายเท อับชื้นเพราะฝนจะทำให้เรารับอากาศที่ไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อที่แฝงอยู่ในที่ต่างๆ หากมีเวลาทำความสสะอาดก็ควรหมั่นที่จะทำ แต่ถ้าหากไม่มีเวลา ก็ควรที่จะอยู่ตรงที่โล่งๆ อากาศถ่ายเทจะปลอดภัยกับสุขภาพในช่วงที่ฝนตกชุก อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้นะคะ
5. ทำกิจกรรม Outdoor เท่าที่ทำได้
การที่มีบรรยากาศฝนตก เงียบๆ เย็นๆ เหงาๆ หงอยๆ ชวนให้เรามีความเสี่ยงที่จะซึมเศร้า ส่งผลกับสุขภาพจิตใจที่ไม่ดี เลยเราอาจจะเอาแต่น้อย ไร้แรงกายแรงใจที่จะทำอะไรต่างๆ ได้ ถ้าเป็นไปได้ควรออกไปเดินเล่นยามที่ไม่มีฝนบ้าง ออกไปพบปะเพื่อนๆ หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่ได้อยู่แต่ในร่มเพียงอย่างเดียวนะคะ ลองกระตุ้นให้ตัวเองมีความคึกคักสักหน่อยดีกว่าค่ะ
6. ออกกำลังกายเรียกเหงื่อ
การออกกำลังกายทำให้ร่างกายได้ขยับเขยื้อนบ้างไม่เกิดความอึดอัด ร่างกายได้หลั่งสารอะดรีนาลีนซึ่งจะทำให้เกิดความสุข ยิ่งถ้าเหงื่อออกได้ ได้ขับของเสียออกมาบ้างก็จะทำให้สบายตัวมากยิ่งขึ้นด้วยนะ หากฝนตกออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะ หรือยิม และฟิตเนสไม่ได้ลองเปิดคลิปแล้วเต้นตาม หรือเล่นโยคะตามคลิปแทนก็ยังดีกกว่าไม่ออกกำลังบ้างเลยล่ะน๊า
7. รับประทานอาหารที่เผ็ดร้อน
การเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน เป็นการเพิ่มอุณหภูมิให้แก่ร่างกายจะทำให้ร่างกายรู้สึกอบอุ่น มีภูมิต้านทานพร้อมสู้กับอากาศเย็นๆ ได้ ให้คุณลองเลือกกินอาหารที่มี ขิง ข่า กระชาย พริกสด พริกไทยดำ ดูเป็นต้น จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ เพิ่มความตื่นตัวกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนะ
8. เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น
กลับกันเราก็ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น อย่างเช่น อาหารประเภท แตง ฟัก และผลไม้บางชนิด สมุนไพรบางอย่างเช่น หล่อฮังก้วย และเก๊กฮวย เพราะทำให้อุณหภูมิของร่างกายที่เย็นอยู่แล้วยิ่งหนาวลงไปอีก จนอาจจะทำให้ไม่สบายได้ง่ายขึ้น หรือถ้ากินก็ควรกินแต่น้อยๆ ก็เพียงพอแล้ว อาหารจำพวกนี้เหมาะที่จะรับประทานในเวลาที่อากาศร้อนมากกว่านะ
9. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนถือเป็นกลไกประจำวันของร่างกายที่จะต้องมีการพักเพื่อฟื้นฟูซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกไป ทำให้ร่างกายสดชื่น ตื่นอย่างสดใสพร้อมใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในวันใหม่ได้ หากขาดการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอแล้ว ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะต่ำลง มีสิทธิ์จะไม่สบายมีโรคแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง ควรนอนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันขึ้นไปค่ะ
10. เตรียมจิตใจให้พร้อม
หากสภาวะจิตใจดี อยู่ในด้านบวก เวลาเจอกับเรื่องร้ายๆ หรือเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจแล้วเราก็ยังพร้อมรับมือกับมันไหว หากแต่เราจิตใจระส่ำระสาย หดหู่ รู้สึกไม่ดี บรรยากาศที่ดูอืมครืม เศร้าสร้อย เหงาหงอยในฤดูหนาวแบบนี้มีแต่จะบั่นทอนจิตใจให้แย่ลงได้ ควรมีวิธีจัดการกับจิตใจของตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอเป็นกลางค่อนข้างไปทางบวกจะดีที่สุดค่ะ นั่งสมาธิ ศึกษาธรรมะ พูดคุยกับคนที่ทำให้สบายใจแล้วแต่วิธีที่ทำแล้วได้ผลกับตัวเองได้เลย
เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะสามารถเฮลตี้มีสุขภาพที่ดี ไม่หวั่นแม้วันฝนตกมากได้แล้วล่ะ แถมวิธีเหล่านี้เองก็ไม่จำเป็นต้องทำแต่ในหน้าฝนด้วย เพราะการดูแลตัวเองให้ดีนี่ทำได้ฤดูนะคะ เพื่อร่างกายแข็งแรง จะได้ใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา