11 มิ.ย. 2020 เวลา 04:11
ปรับตัวยังไงเมื่อจำเป็นต้องทำงานแบบ Work from home
บ้านที่เคยใช้พักผ่อนอย่างเดียว เมื่อจะต้องทำงานไปด้วยแล้ว ควรทำยังไงดีนะ?
ในช่วงที่เกิดวิกฤตโรคระบาดแบบนี้ การพาตัวเข้าไปอยู่ในที่ที่มีคนพลุกพล่านแออัด โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดนั้น ถือเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเองติดโรค หรือแพร่กระจายส่งเชื้อโรคติดต่อกันไปได้ ด้วยความจำเป็นหลายๆ หน่วยงานที่ขานรับนโยบาย Work from home ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านโดยไม่ต้องเข้าออฟฟิศมาทำงานได้ หลายๆ คนอาจจะรู้สึกชอบและดี แต่หลายๆ คนก็ไม่เคยชิน และรู้สึกเครียด เมื่อต้องปรับตัวมาทำงานที่บ้านด้วยแบบนี้ เพราะไม่สามารถแยกได้เมื่อ Safe Zone ที่พักผ่อนต้องกลายเป็นที่ทำงาน ทำให้ระบบชีวิตแปรปรวนไปเลยทีเดียว อาจจะทำให้ไม่ได้งานดั่งที่ใจต้องการได้ ดังนั้นเราจะมาแนะนำ วิธีทำงานแบบ Work from home ให้ได้ประสิทธิภาพ และทำให้ชีวิตมีความสุขได้กัน
1. จัดมุมทำงานที่เหมาะสมไว้สักที่
หามุมทำงานเหมาะๆ สักมุมในบ้าน จัดให้เป็น Working Corner เป็นมุมที่เราจะมานั่งทำงานอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าออกมาจากมุมนี้แล้วจะถือว่าส่วนอื่นเป็นที่ผ่อนคลายตามปกติ ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญเพราะถ้าตั้งใจทำงานจริงๆ แล้วไม่ว่าที่ไหนก็น่าจะทำได้มิใช่หรือ แต่ในบางคนมีสมาธิหรือเสียสมาธิต่างกัน รวมถึงบางคนยังปรับตัวไม่ได้ กับการทำงานที่บ้านที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการพักผ่อนหรือว่าต้องทำงานอยู่ตลอดเวลากันแน่ การแยกสัดส่วนในการทำงานแบบเด็ดขาดไปเลย จะทำให้ปรับตัวได้ง่ายกว่ากันเยอะ
2. อาบน้ำ แต่งตัว ก่อนทำงาน
แม้ว่าอยู่บ้านไม่จำเป็นจะต้องแต่งตัวเลยด้วยซ้ำ จะตื่นมาแล้วทำงานเลยก็ยังได้ แต่การอาบน้ำ แต่งตัวสักหน่อยจะทำให้เราสดชื่นสดใส รู้สึกพร้อมสำหรับการเริ่มทำงานมากขึ้น ร่วมถึงกินข้าวก่อนเริ่มทำงานให้เสร็จเรียบร้อยด้วย ไม่กินข้าวไปทำงานไป หรือเอาข้าวมากินหน้าคอมพิวเตอร์นะ ทั้งนี้รวมไปถึงไม่ควรหาอะไรมากินจุบจิบมากเกินควรด้วย เพราะจะทำให้อ้วนได้ง่ายสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานนานๆ
3. แบ่งเวลาทำงาน พัก เลิกงาน
อย่างเช่น ถ้าออฟฟิศของคุณเริ่มทำงาน 9 โมง คุณก็ควรเริ่มทำงานตามเวลานี้ ควรมีเวลาพักเบรคทุกชั่วโมง ครั้งละ 5-10 นาที ลุกมาเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง มีเวลาพักเที่ยงตามปกติจะเริ่มก่อนหรือหลังก็ได้ตามความยืดหยุ่น แต่ไม่ควรสายเกิน 15-20 นาที เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ควรหยุดทำงานแล้วพักผ่อนตามปกติ เพราะถ้าทำงานมากไปจะเกิดความเครียด และการทำงานตอนที่ฟ้าเริ่มมืดแล้วก็ไม่เป็นผลดี การใช้สมองตอนดึกๆ ยิ่งเหนื่อยยิ่งล้าฝืนวิถีธรรมชาติ อาจจะส่งผลต่อการนอนหลับที่ผิดปกติในระยะยาวเอาได้
4. แบ่งเวลาออกกำลังกายด้วย
การใช้เวลาอยู่บ้านนานๆ เรามักจะนั่งๆ นอนๆ เป็นส่วนใหญ่ ยิ่งถ้าต้องทำงานก็จะต้องใช้เวลานั่งที่โต๊ะทำงานนานๆ ด้วย อาจจะส่งผลด้านลบกับสุขภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นเลือดลมไม่ไหวเวียน เป็นโรคอ้วน มีโอกาสเป็นออฟฟิศซิมโดรม ปวดหลัง ปวดบ่า เพราะเกร็งอยู่ท่าเดียวเป็นเวลานานๆ และเพื่อสุขภาพที่ดีหลังทำงานที่เหน็ดเหนื่อยและไม่ได้เคลื่อนไหวมาทั้งวัน ก็พาตัวเองออกไปเดิน ไปวิ่ง ไปออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายบ้าง จะทำให้เลือดลมไหลเวียน กล้ามเนื้อผ่อนคลายด้วย ห่างไกลจากการเป็นโรคต่างๆ ได้
5. ทำความเข้าใจกับคนในบ้านให้ดี
คนที่อยู่บ้านร่วมกับเรา มักไม่เคยเห็นมุมที่เราต้องทำงานเวลาอยู่ที่บ้าน ก็อาจจะไม่เข้าใจ เพราะมักจะเห็นแต่เวลาชิลๆ ยามอยู่บ้านของเราอย่างเดียว ก็อาจจะมารบกวนเวลาการทำงานของเราได้ อาจจะใช้เราไปช่วยงานอื่นๆ หรือชวนเราคุย เราควรชี้แจงให้ดีว่า Work from home คือการทำงานที่ไม่ต่างจากทำงานที่ออฟฟิศนะ บอกเลยว่าเวลาไหนคือเวลาทำงานของเรา ขอความเป็นส่วนตัวห้ามมารบกวนเป็นอันขาด เพราะว่าเราจะเสียสมาธิ หรือรบกวนตอนที่ประชุมอยู่เอาได้ ถ้าช่วงพักหรือทำงาน ค่อยทำตัวตามปกติเหมือนเดิมเท่านั้นเอง
เพียงเท่านี้เวลาทำงานที่บ้านของคุณก็จะทำได้ดี มีประสิทธิภาพได้ไม่แพ้กับเวลาอยู่ที่ทำงานได้แล้วเหมือนกัน เราอาจไม่เคยชิน แต่เราก็สามารถปรับตัวได้ ถ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของงานก็ถือว่าเป็นความจำเป็นนะ อนาคตข้างหน้า Work from home เองก็อาจมีบทบาทและความจำเป็นมากขึ้นในหลายๆ สายงานด้วย ฝึกทำให้เป็นบ้างก็จะดีนะ
บทความ โดย : Akine_noxx

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา