23 มิ.ย. 2020 เวลา 09:30 • ประวัติศาสตร์
'แวมไพร์หญิงแห่งบาร์เซโลนา' คดีอาชญากรรมสุดสยอง ลักพาตัวเด็กไปค้ากาม แถมใช้ชิ้นส่วน เลือด-ไขมันเหยื่อ ผลิตเครื่องสำอาง
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของชาวสเปน ที่ยังติดตาตรึงใจกันมาจนถึงทุกวันนี้ คือ คดีอาชญากรรมการลักพาตัวเด็กอายุ 5-15 ปี ของหญิงวัยกลางคนรายหนึ่ง พฤติกรรมของเธอไม่เพียงแค่ลักพาตัวเท่านั้น แต่เธอยังทรมานเด็กจนได้ชื่อว่า "แวมไพร์หญิง แห่งบาร์เซโลนา"
Enriqueta Marti เป็นที่รู้จักกันดีในนามของ "แวมไพร์หญิงแห่ง บาร์เซโลนา" ชื่อนี้มีที่มาที่ไปจากความโหดร้ายของเธอ ภายใต้ใบหน้าอันแสนซื่อ ซ่อนความโหดเหี้ยมและร้ายกาจเอาไว้แบบที่ใครก็ไม่สามารถดูออก จนในปี 1912 มีข่าวฆาตกรต่อเนื่องออกล่าเหยื่อที่เป็นเด็กอายุ 5-15 ปี กำลังเป็นที่โจษจัณฑ์กันในเมือง ว่าฆาตกรน่าจะเป็นคนที่ป่วยอาการทางจิตหรือไม่ทำเพื่อการค้าอะไรสักอย่าง
Enriqueta Marti เดินทางมายังเมืองบาร์เซโลนาเพื่อหางานทำ งานแรกของเธอคือการเป็นสาวใช้ในบ้านของขุนนาง แต่ว่าเงินที่ได้รับยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเธอ Enriqueta จึงไปหารายได้เสริมจากการเป็นโสเภณีและมันทำให้เธอได้รับรู้ถึงความน่าขยะแขยงและกิเลสตัณหาของมนุษย์ เธอทำงานเก็บเงินจนสามารถเช่าห้องเล็กๆ อาศัยอยู่ในเมืองได้
ในปี 1909 Enriqueta ตัดสินใจว่าเธอต้องหารายได้เพิ่มจากอาชีพใหม่ที่เธอเพิ่งคิดวิธีการได้ นั่นคือ สวมใส่เพียงแค่เสื้อผ้าเก่าๆ ใช้ความใจดีและเล่ห์เหลี่ยมของตนเอง ลักพาตัวเด็กอายุ 5-15 ปีทั้งชายและหญิง มาขังไว้ที่ห้อง และขายพวกเขาให้เป็นทาสบำเรอกามให้บรรดาเศรษฐีของเมือง
WIKIPEDIA PD
นอกจากเด็กๆ จะถูกจับมาขายและทารุณอย่างโหดเหี้ยมแล้ว พวกเขายังถูกรีดไขมัน เลือด และกระดูก นำมากวนใช้เป็น “ครีบบำรุงผิว” แล้วขายให้กับบรรดาหญิงชนชั้นสูงในเมืองบาร์เซโลนา เพราะเธอเชื่อว่าเลือดของเด็กหนุ่มนั้นเป็นยาอายุวัฒนะที่จะทำให้มีชีวิตยืนยาว และไขมันของเด็กสาวคือสกินแคร์ชั้นเยี่ยม ที่ทำให้ผิวเปล่งปลั่งงดงาม
ไม่นานนักข่าวการหายตัวไปของเด็กๆ เริ่มครึกโครมขึ้นเรื่อยๆ ในปี 1912 เพื่อนบ้านของ Enriqueta Marti รู้สึกผิดสังเกต เมื่อเห็นว่ามักจะมีเด็กๆ เข้าไปในห้องของ Enriqueta Marti บ่อยๆ แต่กลับไม่มีใครเคยได้ออกมาเลย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นก็แทบหงายท้อง เพราะภายในบ้านเต็มไปด้วยซากศพเด็กหลายสิบคน อีกทั้งยังมี เลือด และไขมัน ในหม้อต้ม พร้อมจะทำเป็นเครื่องสำอาง รวมถึงชิ้นส่วนของมนุษย์ที่เกลื่อนอยู่บ้าน
Enriqueta ถูกจับกุมและตัดสินประหารชีวิตทันที เธอถูกประนามว่าเป็น ปีศาจและเป็นแวมไพร์ แต่เธอกลับหยิ่งผยองว่าตัวเองไม่ผิดและสวนกลับไปว่า “เธอไม่ได้เป็นปีศาจ พวกลูกค้าของเธอต่างหาก ที่เป็นปีศาจ!”
เธอไม่ได้เป็นคนที่ป่วยทางจิต เธอเป็นคนปกติและเป็นคนปกติที่ฉลาดมาก
เลยด้วย เพียงแต่การกระทำของเธอมันมันช่างเลือดเย็น และโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ เธอคิดว่าเด็กๆ เหล่านั้นคือขยะ ที่จะทำอะไรก็ได้ ทั้งนี้ เธอพยายามฆ่าตัวตายระหว่างอยู่ในคุกถึง 2 ครั้ง แต่สุดท้ายกลับถูกรุมประชาทัณฑ์จากเพื่อนร่วมคุกจนเสียชีวิต
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
1
โฆษณา