พ.ศ.2328
พลับพลาที่ประทับในค่ายหลวง
ณ สมรภูมิทุ่งลาดหญ้า
"ภารกิจในการสอดเเนมเเละตัดกำลังทัพข้าศึกรวมถึงเสบียงอาหารที่ลำเลียงมาจากเเนวหลังของพวกมันนั้นสำคัญมากๆ หากเจ้าเเละเหล่าทหารกล้าที่ถูกฝึกขึ้นมาใหม่โดยยึดหลักตามตำราพิชัยสงคราม
เเห่งองค์สมเด็จพระนเรศวร" เป็นปฐม
"ที่ทรงฝึกเหล่ากองทหารพิเศษเคลื่อนที่เร็ว จู่โจม ทำลายล้างเเละก่อกวนข้าศึกศัตรู จนพระองค์ท่านสามารถกอบกู้เอกราชกลับคืนมาให้ชาวเราในครั้งเเผ่นดินกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ"
ตัวเจ้าเเลเหล่ากองทหารเฉพาะกิจกลุ่มนี้ที่เพียรมุมานะเฝ้าฝึกฝนตนเองตามเเนวทางเเละยุทธวิธีการรบเเห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรเพื่ออุทิศตนเป็นกำลังสำคัญเเห่งเเผ่นดิน
สิ่งที่ข้าได้ให้เจ้าเฝ้าฝึกฝนมาตลอดพร้อม บัดนี้ถึงเวลาเเล้วที่ข้าจะมอบหมายภารกิจสำคัญที่สุดภารกิจนี้ให้เเก่หลาน
"เจ้าขุนเณร"
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ได้โปรดทรงไว้พระราชหฤทัยให้ข้าพระพุทธเจ้าได้กระทำการในภารกิจสำคัญยิ่งครั้งนี้
ขอเพียงพระองค์ทรงมีรับสั่งมา ข้าพระพุทธเจ้าจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ภารกิจในราชการสงครามของพระองค์ในครั้งนี้สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เเม้จะต้องเเลกมาด้วยชีวิตของพวกข้าก็ตาม พระพุทธเจ้าข้า
เจ้าขุนเณรได้ตรัสตอบพระกระเเสรับสั่งเเห่งองค์จอมทัพวังหน้า
ข้าดีใจที่เจ้ามีจิตใจหาญกล้าเสียสละ ยอมพลีกายถวายให้เเก่เเผ่นดินนี้ เนื่องด้วยภารกิจสำคัญในครั้งนี้คือการตีตัดเสบียงอาหารข้าศึก ดักปล้นอาวุธยุทโธปกรณ์ ช้างม้า ทำลายขวัญกำลังใจเเละสร้างความเสียหายให้เเก่ทัพของพวกมันให้ได้มากที่สุด
ดังเช่นท่านพระราชมนูเคยใช้รูปเเบบกองโจรนี้ตีทัพหน้าของพระเจ้าเชียงใหม่จนเเตกถอยย่อยยับกลับไปในคราเเผ่นดินสมเด็จพระนเรศวร ภายหลังจากที่ท่านประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นต่อหงสาวดีในครานั้น
เเละหากเจ้ากระทำการครั้งนี้ได้สำเร็จทัพใหญ่ของพระเจ้าปดุงจะต้องติดอยู่ที่เเนวหลังเขาจนไม่สามารถข้ามเขาลงมาได้ เนื่องจากทัพหน้าของพวกมันที่ประจัญหน้ากับทัพเราที่ทุ่งลาดหญ้านี้
จะขาดการสนับสนุนทั้งเสบียงอาหารเเละยุทโธปกรณ์ต่างๆ จะไม่สามารถตั้งอยู่ได้ต้องถอยกลับไป จนสร้างความระส่ำระส่ายไปทั้งกองทัพของพวกมันจนยากที่จะยกผ่านด่านพระเจดีย์สามองค์ลงมาในครานี้เป็นเเน่
องค์จอมทัพวังหน้าทรงออกอุบายการศึกกองโจรครานี้เเก่เจ้าขุนเณร
"ตัวหลานเเละบรรดาเหล่าขุนทหารฝึกรบพิเศษมีจำนวนรวมกัน1,000 คน ได้ร่วมฝึกซ้อมรบเตรียมพร้อม เเลได้มีการวางสายข่าวของเราหรืออุปนิกขิตเข้าไปฝังตัวในดินเเดนของอริราชศัตรู"
"พวกเราได้ฝึกฝนการรบนอกรูปเเบบรวมถึงคอยประสานการข่าวทำความคุ้นเคยในทุกจุดภูมิศาสตร์ของพระราชอาณาจักรโดยตลอด ตั้งเเต่พระองค์ทรงมีรับสั่งให้จัดฝึกกองทหารจู่โจมนี้ขึ้นมา พระพุทธเจ้าข้า"
เจ้าขุนเณรตรัสตอบองค์จอมทัพวังหน้า
ใช่เเล้วเจ้าขุนเณร เพราะข้ารู้ว่าไอ้พวกหัวโพกผ้ามันคงไม่ปล่อยให้พวกเราอยู่เย็นเป็นสุขกันได้นานนักดอก จึงต้องระเเวงระวังวางหูตาให้กว้างขวางการข่าวต้องเเม่นยำรวดเร็ว เเละหากกองทหารจู่โจมนี้ทำการได้มีประสิทธภาพก็จะสามารถตัดสินการศึกสงครามทั้งกระดานได้ในพริบตา
หลังจากทรงตรัสกับเจ้าขุนเณร องค์จอมทัพวังหน้าทรงประทับนิ่งไปครู่ใหญ่ พร้อมสีหน้าที่ทรงเป็นพระวิตกกังวล ก่อนที่จะทรงตรัสต่อไป
ภารกิจนี้ก่อนที่ข้าจะเรียกตัวเจ้ามา ข้าได้ให้เเม่ทัพนายกองผู้ใหญ่ถึง 5 คน ให้พวกมันทำภารกิจสำคัญนี้ร่วมกัน เเต่พวกมันกลับย่อท้อต่อการศึกด้วยหวั่นเกรงอ้ายพวกศัตรูด้วยความกลัวเเลเกียจคร้าน
เป็นเหตุให้การสงครามในครานี้จะทำให้ทั้งทัพเเลราชอาณาจักรของเราชิบหายเดือดร้อนกันไปหมด ข้าจึงจำเป็นต้องกุดหัวพวกมันเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างเเก่ผู้อื่น
ขอพระองค์ทรงอย่าพระปริวิตกข้าพระพุทธเจ้าจะกระทำการในครั้งนี้ อย่างเต็มกำลังความสามารถเเลสติปัญญา หากไล่ไอ้พวกหัวโพกผ้าข้าศึกออกไปจากเเผ่นดินเราไม่ได้
"ข้าพระพุทธเจ้าคงเสียชาติเกิดที่ได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าทหารกล้าของพวกเราทุกคน"
"คำของเอ็งต้องใจข้านักเจ้าหลานชาย"
"เกิดเป็นชายเเล้วจะไม่รักเเลไม่หวงเเหนปกป้องเเผ่นดินนี้ที่ให้ความร่มเย็นเป็นสุขเเก่พวกเรามาตลอดได้เยี่ยงไร"
ข้าขออำนวยอวยชัยให้เจ้าเเลเหล่าทหารกล้ามีชัยเหนือเหล่าอริราชศัตรู เเลรักษาชีวิตของพวกเจ้าให้รอดกลับมาหาข้าทุกตัวคน ข้าขอบัญชาให้เจ้าคุมกำลังพลกองโจร 1,000 คนที่เจ้าฝึกฝนพวกมันมากับมือ
รวมถึงกองโจรที่ข้าให้ไปทำการก่อนหน้านี้อีก 500 คนรวมเป็น 1,500 คน ให้เเฝงตัวเข้าไปทำลายข้าศึก ตีตัดเสบียง ยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ ช้างม้าพาหนะ เเลป่วนทำลายขวัญกำลังใจของพวกมันให้ได้มากที่สุด
เจ้าขุนเณรกราบบังคมทูลลาสมเด็จกรมพระบวรราชเจ้า เเล้วเร่งรีบไปจัดเเต่งเตรียมทัพเหล่าบรรดาทหารที่ร่วมฝึกฝนการรบพิเศษมากับท่าน เเละได้เเบ่งกองจู่โจมทำลายข้าศึกออกเป็นสองกองคือ กองจู่โจมทางบกเเละทางน้ำ
ภารกิจของท่านเเละเหล่ากองโจรในครานั้นคือการคอยทำลายกองกำลังของพม่า ตัดกำลัง แย่งชิงเสบียงอาหารและยุทโธปกรณ์ของพม่า รบกวน รังควานแย่งชิง ทำลายกองเกวียนกองช้างกองม้าที่นำเสบียงมาจากเมืองเมาะตะมะ เมืองทวาย และตะนาวศรี โดยทางน้ำจะลำเลียงมาทางลำนำเเควน้อย ส่วนทางบกจะมาทางด่านบ้องตี้
นำกำลังพลเเฝงกำลังเข้าไปทั้งทางบก และทางน้ำแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ตั้งของข้าศึก และอาศัยภูมิประเทศ เหตุการณ์ดินฟ้าอากาศในขณะนั้น โจมตีทำลาย และจับกุมกำลังทหารของพม่ามาซักถามข่าวสารไปในตัวด้วย ทำให้ข้าศึกพะวักพะวน ต้องดึงกำลังมารักษาพื้นที่เเนวหลังมากขึ้น
เป็นการทำลายขวัญของพม่าให้ลดถอยในการสู้รบ พระองค์เจ้าขุนเณรได้ใช้กองทัพที่พระองค์ทรงฝึกฝนขึ้นมาเองยันปะทะกับข้าศึกที่ยกมาเป็นจำนวนนับแสนซึ่งในการปฏิบัติงานสำคัญ
เป็นภารกิจเสี่ยงต่อภัยอันตรายตลอดเวลา ยากที่กำลังพลปกติทั่วไปจะกระทำได้สำเร็จ เพราะต้องอาศัยความอดทน รอจังหวะเวลาเเละการลงมือต้องเฉียบขาดไม่สามารถพลาดได้
ด้วยความอุตสาหะเเละเก่งกล้าสามารถในปฏิบัติการครั้งนี้ของพระองค์เจ้าขุนเณรเเละเหล่านักรบกองโจร ทำให้ทัพหน้าของพม่าขาดเเคลนเสบียงอาหารรวมถึงอาวุธยุโธปกรณ์ที่จะไว้ใช้รบกับไทยอย่างหนัก
"จนพระเจ้าปดุงถึงกับรับสั่งถามนายทัพนายกองว่าเสบียงยังมีหรือไม่ นายทัพนายกองทูลว่าเสบียงอาหารนั้นอย่าว่าเเต่จะส่งไปที่กองอื่นเลยที่กองทัพหลวงนี้ก็ไม่พอจ่าย"
29 มกราคม 2328
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้เสด็จมาถึงค่ายที่ทำการรบประชิดทัพหน้าของข้าศึกที่ทุ่งลาดหญ้า จึงได้ทรงปรึกษาข้อราชการงานศึกกับพระอนุชาธิราช สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงเห็นว่าไพร่พลพม่าเริ่มอ่อนกำลังลงมากเเล้วเพราะขาดเสบียงอาหาร จนจวนเจียวจะสามารถเผด็จศึกได้เเล้ว
จึงทรงทูลสมเด็จพระเชษฐาให้ทรงอย่าพระปริวิตกศึกทางลาดหญ้าเลย ให้ทรงยกกองทัพหลวงขึ้นนครสวรรค์ไปช่วยท่านวังหลังที่รับข้าศึกทางทิศเหนือตามเเผนการที่ได้วางกันไว้เลยทีเดียว
ส่วนทางฝั่งของท่านเมื่อเผด็จศึกทัพพม่าทางนี้ได้ท่านจะลงใต้ไปช่วยพี่น้องทางปักษ์ใต้ที่ถูกทัพข้าศึกรุกราน เพื่อกวาดล้างข้าศึกให้ออกจากเเผ่นดินไปทุกทัพให้ได้
สมเด็จกรมพระราชวังบวรทรงมีพระบัณฑูรให้เอาปืนใหญ่เเละปืนปากกว้างระดมยิงอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อจะขาดเเคลนกระสุนดินดำ ก็ทรงคิดดัดเเปลงให้นำท่อนไม้ที่ตัดตามป่าเป็นท่อนๆมาใช้เป็นกระสุนปืนเเทน เเละสามารถใช้ได้อย่างได้ผลมาก
เนื่องจากกระสุนไม้เมื่อถูกยิงออกไปเเล้วจะเเตกกระจายเป็นกระผีกไม้คล้ายเศษระเบิดสร้างความเสียหายให้ค่ายของพม่าอย่างใหญ่หลวงจนถึงขั้นทหารพม่าส่งใบบอกไปยังทัพหลวงเพื่อขอเลิกทัพว่า
"ไทยเอาไม้ทำเป็นลูกปืนได้ ต่อไม้หมดทั้งป่า จึ่งจะสิ้นกระสุนปืน เมื่อใดไม้ในป่าจะสิ้นจะตีเมืองไทยให้ได้นั้น เปนเหลือกำลัง"
ตลอดจนถึงทรงหลอกล่อศัตรูว่ามีกำลังเข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่องโดยทำทีให้ไพร่พลลอบเคลื่อนพลออกไปในเวลากลางคืนเเละกลับเข้ามาใหม่ในตอนเช้าทุกวัน จึงทำให้เหล่าข้าศึกขวัญเสียเรรวน ขาดกำลังใจในการสู้รบกับทัพไทย
เมื่อศัตรูอ่อนเเอทั้งทางพละกำลังเเละจิตใจอย่างถึงขีดสุด สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท จึงทรงสั่งจัดทัพไทยให้พร้อมสรรพเตรียมเผด็จศึกสำคัญ ทุ่งลาดหญ้าในครานั้น.......................
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
