Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกลับปักษาสวรรค์ (จินตนิยายสามก๊ก)
•
ติดตาม
8 เม.ย. 2021 เวลา 02:23 • นิยาย เรื่องสั้น
3.7. ห่วงโซ่ขาดสะบั้น
เป็ดน้ำ (บังทอง) 7 รู้รอบ - พิราบ (โลซก) 8 การทูต - เค้าแมว (ขงเบ้ง) 11 ลึกซึ้ง
ณ เมืองซินเอี๋ย บิต๊ก บิฮอง ที่อยู่โยงรักษาเมืองน้อย ร่วมกับสองสหาย กันหยง อีเจี้ย และเล่าฮอง บุตรบุญธรรมของเล่าปี่ รู้สึกยินดีที่บิฮูหยินมีอาการดีขึ้น พอจะพูดคุยรู้เรื่อง สามารถอธิบายความผิดของกวนอูกับกำฮูหยินได้แล้ว จึงเพียงรั้งรอได้พบกับเล่าปี่ เพื่อบอกเล่าความจริงให้ทราบ
หากแต่บิฮูหยินกลับมีข้อมูลน่าสนใจมาบอกกล่าวตามประสาผู้หญิงด้วยกัน กำฮูหยินซึ่งมิได้ยุ่งเกี่ยวกับเล่าปี่มานานร่วมปี กำลังตั้งครรภ์ครั้งที่สอง ผลพวงความผิดกำลังจะสุกงอม โดยที่พวกมันเพียงรอคอยเวลาเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชักจูงให้เล่าปี่คล้อยตามโดยปราศจากหลักฐานแล้ว
พวกคนสกุลบิจึงได้แต่ประคบประหงมกำฮูหยินเป็นพิเศษ พร้อมแจ้ง “ข่าวดี” ให้เจ้านายใหญ่ทราบ หวังให้เล่าปี่กลับจากเมืองอ้วนเซียวันใด จะได้สะสางเรื่องราวครอบครัวด้วยตัวเอง
…
ค่ำคืนนั้น กวนอูอาศัยม้าเซ็กเทาเลื่องชื่อ ใส่ชุดรัดกุมปิดบังใบหน้า ลอบกลับมาพบปะกับกำฮูหยินในห้องนอน ข่าวการตั้งครรภ์ของฮูหยินใหญ่ย่อมสำคัญจนไม่อาจปกปิดพี่น้องร่วมสาบานได้ พอเล่าปี่รับทราบ กลับยังนิ่งเฉย ยากเข้าใจในความคิด เตียวหุยเมามายฟุบหลับเช่นเคย คงมีแต่กวนอูที่รุ่มร้อนใจ และรีบปลีกตัวหาทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
“หากเจ้าเลือกอยู่กับพี่ใหญ่ จงนำยาสลายครรภ์นี้ไปใช้ในทันที ต่อจากนี้ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่หากเจ้าตัดสินใจพเนจรไปกับข้า ก็จงรั้งรออีกสักระยะหนึ่งก่อน รอให้เราได้สารภาพผิดต่อพี่ใหญ่ เชื่อว่าท่านจะเข้าใจในความรักของเราสอง แล้วพวกเราค่อยออกเดินทางไปด้วยกัน” กวนอูใจนักเลง เสนอทางออกให้คนรัก
กำฮูหยินจ้องมองกวนอู คว้าซองยาสลายครรภ์ขว้างทิ้งไปนอกหน้าต่าง พลางกล่าวคำสัตย์สาบาน “ข้ายินยอมติดตามท่านไปทั่วหล้า และจะรักษาบุตรคนที่สองของท่านยิ่งชีวิต ไม่ยอมให้ตกเลือดสูญเสียเด็กไปดั่งครรภ์แรกอีก”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ขอเพียงมีจังหวะเหมาะสม เราจะบอกกล่าวทุกเรื่องราวด้วยตนเอง จงรอคอยก่อนเถอะนะ เสียวหลาน” กวนอูถึงกับเรียกหากำฮูหยินในชื่อเดิม
หลังจากตัดสินใจครั้งสำคัญแล้ว ทั้งสองประคองกอดกันตามประสาคู่รักขวางโลก ในขณะที่ภายนอก บิฮูหยินแอบได้ยินคำพูดต่างๆหมดสิ้นด้วยสีหน้าที่เคียดแค้น พลางหยิบซองยาเปียกชื้นน้ำขึ้นมา “ความลับเช่นนี้ มีแต่จะทำร้ายจิตใจของท่านพี่ พวกมันล้วนสมควรตายทุกคน”
ได้ยินเสียงบิต๊กบิฮองเมามายกลับมาเช่นเดิม กำลังส่งเสียงเอะอะอยู่ภายนอก เข้าใจว่า พบเห็นร่องรอยม้าใหญ่ด้านนอกเป็นที่ผิดสังเกต กวนอูเกรงว่า ผู้คนล่วงรู้การมาของตน จะยิ่งทำให้เรื่องราวยุ่งยาก จึงรีบลอยตัวขึ้นม้าหลบหนีไป
เล่าฮองหลบอยู่ในมุมมืดหลังตรอก จ้องมองอาคันตุกะที่หลบหนีด้วยสีหน้ายิ้มหยัน ถึงจะปิดบังใบหน้า มันก็จดจำได้ว่า เป็นกวนอูผู้อหังการ์ที่เคยทักท้วงความก้าวหน้าของมัน มันจึงแอบติดตามมาดูตั้งแต่ตอนบุกรุกเข้าห้องนอนฮูหยินใหญ่ จนถึงช่วงเวลาหลบหนี พลางปะติดปะต่อเรื่องราวอื้อฉาวเข้าด้วยกัน
…
นกพิราบ สมาชิกลำดับแปดของหน่วยปักษาสวรรค์ ในคราบของคนรับใช้ กำลังเฝ้ามองโลซก ผู้เป็นเจ้านาย เดินผ่านเหล่าทหารองครักษ์ เข้าไปในห้องนอนเหมือนกิจวัตรปกติ นับเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่มันปลอมปนเข้ามาอยู่ในบ้านพักหลังคาเดียวกันกับโลซก หนึ่งในสี่เสาหลักแห่งกังตั๋ง
นี่คือวิธีการปกติที่พวกปักษาจะได้เรียนรู้ และทำความรู้จักบุคคลต่างๆที่อยู่รอบตัวของเป้าหมาย ก่อนที่จะลงมือจัดการขั้นสุดท้ายด้วยการอ่านจิต และเปลี่ยนโฉมหน้าตนเอง สวมรอยเข้าไปเป็นตัวบุคคลในสามก๊กแทน
ใช่แล้ว เป้าหมายของมันคือ โลซก หนึ่งในตัวปัญหาที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำสามก๊ก แทนผู้นำตัวจริงตามประวัติศาสตร์ ด้วยความโดดเด่นของบทบาทการทูตของโลซก ที่ประสานความสัมพันธ์ระหว่างจ๊กก๊ก และง่อก๊กในอนาคตอันใกล้ หน่วยปักษาสวรรค์จึงส่งนักการทูตชั้นเยี่ยมอย่างมันมาสวมบทบาทแทนโลซกเสียเลย
โลซกที่มันเรียนรู้มานั้น คือ คุณชายตระกูลร่ำรวยที่มีความทะเยอทะยานพอตัว แต่ยังคงทำงานการเมืองด้วยความซื่อตรงในหน้าที่ ยังไม่มีลางบอกเหตุใดๆที่ทำให้เชื่อได้ว่า โลซกจะกลายเป็นตัวปัญหาในอนาคต จึงเข้าใจว่า จุดพลิกผันของคนผู้นี้ยังมาไม่ถึง ต่อไป อาจจะเป็นตัวมันเองที่ต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบดังกล่าว
เนื่องจากการต่อสู้ไม่ใช่แนวทางที่ชำนาญของมัน ตามแผนการที่ระบุมาตั้งแต่แรก เหยี่ยวดำ ลำดับสิบสามในฐานะมือสังหารชั้นดี สมควรจะเป็นผู้ทำหน้าที่ "จัดการ" ให้ หากแต่เหยี่ยวดำยังไม่ฟื้นสมบูรณ์เต็มที่จากอาการบาดเจ็บเรื้อรังจากพิษร้าย และบาดแผลใหม่ที่ท้องแขนจากการลอบสังหารสุมาเต๊กโชก็ยังไม่หายดี จึงกลายเป็นงานที่สมาชิกคนอื่นจึงต้องมาช่วยแทนในคืนนี้
สัญญาณตบมือดังสามครั้งมาจากห้องนอน "ท่านโลซก เรียกหาน้ำชาแล้ว" พิราบส่งเสียงรับทราบให้กับทหารองครักษ์หน้าห้องนอน พลางหยิบถาดชุดน้ำชา เข้าไปในห้องนอนตามปกติ หากถูกต้องตามแผนการ โลซกควรจะนอนรอความตายอยู่บนเตียงนอนแล้ว ด้วยฝีมือของสมาชิกปักษาสวรรค์อีกคนหนึ่งที่มันนัดหมายกันเอาไว้
เมื่อพิราบเข้าไปในห้องนอน เห็นร่างชายคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนเตียงที่ปิดม่านอยู่ครึ่งหนึ่ง ไม่ทันตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ก็รีบปลดหน้ากากหนังมนุษย์ของตนเองออก เห็นเป็นใบหน้าของโลซกแทน และเดินตรงเข้าไปยื่นมือ หมายจะใช้การอ่านจิต ซึ่งต้องกระทำเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่ตัวจริงจะตายไป
แต่แล้ว มันต้องหยุดชะงัก เพราะเป้าหมายที่นอนอยู่ ไม่ใช่ โลซก แต่กลับเป็นชายคลุมหน้าใช้กระบี่แทงสวนออกมา พิราบยกมือขึ้นกุมลำคอตามสัญชาตญาณ นัยน์ตาเบิกโพลงคล้ายไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์ผิดพลาดเช่นนี้ได้อย่างไร พร้อมกับวิญญาณที่หลุดลอยไป
โลซกตัวจริงเดินออกมาจากตู้เสื้อผ้าด้านข้าง จึงกล่าวขึ้น "บังทองเอย ท่านช่วยชีวิตเราไว้แล้ว หากแต่เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรหรือ"
ที่แท้ คนคลุมหน้าคือบังทอง กุนซือหงส์ผงาด ที่มาอาศัยอยู่ในจวนของโลซกนี่เอง บังทองตอบ "คนรับใช้ผู้นี้ ท่าทางมีพิรุธ และเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานนัก เมื่อข้าสืบย้อนไป ก็พบแต่ประวัติที่ปลอมแปลงมาทั้งสิ้น จึงคอยจับตาดูโดยตลอด จนพบเบาะแสความเคลื่อนไหวในค่ำคืนนี้"
"ดีมาก มีท่านอยู่ข้างกาย เราก็วางใจได้มากแล้ว" โลซกชมเชยส่งท้าย บังทองนับเป็นคนสนิทที่น่าสนใจ เพราะมีฝีมือทั้งบู๊และบุ๋นเพียบพร้อม น่าจะเทียบเท่าได้กับตันกุ๋น กุนซือจอมโหดของโจโฉ เพียงเสียดายที่ซุนกวนไม่โปรดปราน เพราะใบหน้ามีร่องรอยบาดแผลลึก จนต้องคลุมใบหน้าไว้ตลอดเวลา
ใบหน้าของบังทองเปลี่ยนแปลงเช่นไร ย่อมไม่มีใครทราบ เพราะถูกปิดบังไว้ด้วยผืนผ้าคลุมหน้า หากแต่แผนห่วงโซ่สัมพันธ์ของหน่วยปักษาสวรรค์ขาดสะบั้นไปอีกหนึ่งเปลาะเสียแล้ว อวสาน เจ้าพิราบ นักการทูต
...
ห่างไกลออกไป ฮองเสงหงันมองขงเบ้งเดินถือหนังสือตำราเข้าไปในห้องอาบน้ำที่กว้างใหญ่ เท่าที่มันลอบสังเกตมาหลายเดือนที่ผ่านมา มีแต่ช่วงเวลานี้ที่ขงเบ้งจะเปราะบางที่สุด เพราะยังต้องรักษาพิษร้ายที่ตกค้างอยู่ด้วยการแช่ว่านน้ำยาในถังน้ำใหญ่ที่จัดการโดยฮองเย่อิงเอง ภายหลัง ถึงกับติดหนังสือตำราเข้าไปอ่านในระหว่างแช่ตัวอยู่ในน้ำตามลำพังคนเดียว และใช้เวลาอยู่ในห้องอาบน้ำเนิ่นนานกว่าคนท่ัวไปจนเป็นกิจวัตร ดูแล้ว เหมาะสมต่อการลงมือเป็นที่สุด
ที่แท้ ฮองเสงหงันเป็นนกเค้าแมว อันดับสิบเอ็ด สมาชิกปักษาสวรรค์ปลอมแปลงมานี่เอง เป้าหมายก็คือขงเบ้ง หนึ่งในสามตัวปัญหาเช่นกัน เนื่องจากอินทรีพี่ใหญ่ สุมาเต๊กโชดักจับตัวฮองเสงหงันตัวจริงได้ จึงให้มันสวมรอยเข้ามาในฐานะสูงส่งนี้เสียเลย เพราะข้อมูลความทรงจำของฮองเสงหงันส่วนใหญ่ ถูกอินทรีซึมซับขึ้นมาแล้ว และถ่ายทอดด้วยวาจาให้มันมาจนหมดสิ้น จึงน่าจะเข้าถึงตัวขงเบ้ง ลูกเขยคนใหม่ ซึ่งไม่คุ้นเคยกันได้ไม่ยาก
ขงเบ้ง-จูกัดเหลียงเป็นคนรอบคอบ ระมัดระวังตนอย่างยิ่ง ผู้รับใช้ในบ้านถูกสับเปลี่ยนหน้าที่อยู่เนืองๆ ยากที่จะเข้าถึงตัว ดังนั้น นับว่า มันโชคดียิ่งนักที่อาศัยสถานะของพ่อตาที่ไม่คุ้นเคยกัน จึงพอจะแทรกซึมเข้ามาได้ แต่ก็พอตระหนักได้ว่า ตัวมันถูกทั้งขงเบ้ง และฮองเย่อิง ทดสอบความถูกต้องอยู่เนืองๆ ซึ่งมันก็ยังสามารถผ่านด่านทดสอบมาได้โดยตลอด แต่ไม่อาจวางใจให้เกิดขึ้นเนิ่นนานเกินไป ความผิดพลาดอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ มันจึงต้องรีบลงมือแล้ว
ด้วยความที่ฮองเสงหงันเป็นพ่อตา เข้าออกบ้านลูกเขยได้สะดวกสบาย เมื่อถึงวันที่พร้อมดำเนินการสวมรอยแล้ว เพราะเล่าปี่กำลังจะเดินทางมาพบขงเบ้งในไม่ช้า วันนี้ มันจึงได้ใช้เย่อิงไปซื้อของในเมือง และแอบผสมยานอนหลับที่ได้มาจากนกฮูก-ฮัวโต๋ลงในถังน้ำว่านยา หวังว่าการลงมือกระทันหันเช่นนี้จะสามารถจัดการมังกรซ่อน ขงเบ้งได้อย่างง่ายดาย
นกเค้าแมว-ฮองเสงหงัน เจาะช่องมองเข้าไปในห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ ด้วยความที่ขงเบ้งรักความสะอาด จึงทุ่มเทตกแต่งห้องอาบน้ำจนใหญ่โตสวยงาม ตรงกึ่งกลางเป็นสระน้ำใหญ่สำหรับใช้ล้างตัวแช่น้ำสะอาด บนผนังมีจิตรกรรมเป็นร่องลึกสลักรูปภาพของโหวอี้ยิงอาทิตย์ ขนาดเท่าคนจริงจากฝีมือสร้างสรรค์เย่อิง ดูลึกลับ สะดุดตา
ใกล้ๆกัน มองเห็นขงเบ้งใส่ชุดขาวบางเบากึ่งนั่งกึ่งนอนในถังไม้ใบใหญ่ ครึ่งล่างแช่อยู่ในถังน้ำ ครึ่งบนฟุบหลับอยู่ที่ขอบถัง ตำราร่วงหล่นอยู่ข้างๆ คงจะเป็นยานอนหลับที่ผสมไปนั้น ออกฤทธิ์แล้ว
มันจึงไม่รอช้า ค่อยๆย่องเข้าไปทางด้านหลังขงเบ้ง พร้อมกระชับกระบี่ในมือ เตรียมแทงซ้ำใส่กลางหลังให้สาหัสปางตาย ก่อนทำขั้นตอนการถ่ายทอดจิตต่อไป
ขณะที่นกเค้าแมวกำลังดึงกระบี่ หมายจะแทงใส่ที่กลางหลัง แต่รู้สึกคล้ายโดนกระแทกที่ข้อศอกวูบหนึ่ง ขงเบ้งที่ฟุบหลับอยู่ กลับแผ่พลังดันถังไม้แตกกระจาย พร้อมหมุนตัวสะบัดน้ำว่านยาครอบคลุมใส่ฮองเสงหงันจนเป็นม่านน้ำสีคราม บดบังสายตาไปจนหมดสิ้น จนมันต้องแกล้งส่งเสียงตวาด “รับอาวุธลับ”
การตวาดเตือนเรื่องอาวุธลับ เป็นเพียงมารยาทอย่างหนึ่งในยุทธภพ ที่จริง หากคิดลอบสังหารเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องส่งเสียงร้องบอก หากแต่เค้าแมวจนใจที่ตนเองมองไม่เห็นความเคลื่อนไหวชัดเจน จึงแสร้งร้องก่อกวนเหลวไหลออกมา
แต่เมื่อแผนการโจมตีชะงักงันไปเพียงวูบเดียวนั้นเอง ขงเบ้งไม่สนใจฝ่ายตรงข้ามร่ำร้อง กลับรีบเบียดกายเข้าไปในรอยสลักลึกรูปโหวอี้ ตบมือใส่กลไกด้านใน กลายเป็นกลุ่มลูกดอก เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง มากมาย พุ่งเข้าปักผู้บุกรุกจากทุกทิศทางภายในห้อง จนกลายเป็นตัวเม่น เสียชีวิตไปในทันที
ขงเบ้งขยับกายออกจากที่ซ่อน มองดูร่างไร้ชีวิตของฮองเสงหงันพลางกล่าวว่า "เราแช่ตัวว่านยานี้มาตั้งหลายสิบวันแล้ว หากมีกลิ่นแปลกปลอมเกิดขึ้นมา เราย่อมสังเกตพบได้ ครั้งนี้ เกรงว่าท่านต้องสังเวยชีวิตให้เรา เพราะความประมาท ดูเบาต่อประสาทสัมผัสของเราจนเกินไปเสียแล้ว"
ที่แท้ ขงเบ้งพบความผิดปกติในบ่อน้ำ จึงสับเปลี่ยนถ่ายน้ำที่มีปัญหาออกไปจนหมดสิ้น แต่ยังคงแสร้งทำเป็นไร้เรื่องราว หลอกล่อให้ศัตรูในที่มืด เผยโฉมออกมา ส่วนกลไกรอยสลักที่ติดตั้งภายในห้องอาบน้ำนั้น เป็นฝีมือของฮองเย่อิงจัดการให้ ซึ่งความลับนี้รับรู้กันเพียงแค่ขงเบ้งกับฮองเย่อิงเท่านั้นเอง แม้แต่พ่อตาก็ไม่เคยได้ล่วงรู้เรื่องนี้ เพราะยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี
ฮองเย่อิงกลับมาจากตลาด เดินเข้าพบเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ตกใจอย่างมากที่เห็นกลไกทำงานใส่บิดาจนนอนตายอยู่กับพื้นห้อง แต่ยังคงระงับสติอารมณ์ไว้ได้ พอดีกับที่ขงเบ้งพิจารณาคนตาย กลับพบเห็นหน้ากากหนังมนุษย์ที่โดนน้ำเปียกชื้นจนเผยอออกเล็กน้อย ทำให้เมื่อลอกหน้ากากออก เห็นเป็นใบหน้าของชายหนุ่มที่คุ้นเคยในวัยเดียวกันกับตนเอง ใบหน้าของขงเบ้ง มังกรซ่อน ตัวมันนั่นเอง!
ขงเบ้งงงงันวูบ มองหน้ากันกับเย่อิง ที่แท้ จุดประสงค์ของมือสังหารคือการปลอมตัวเป็นตัวมันเอง แสดงว่าขบวนการนี้ น่าจะมีเบื้องหลังความเป็นมายิ่งใหญ่ไม่น้อยเสียแล้ว จึงลงมือพิสดารเหนือชั้นกว่านักฆ่าทั่วไป
ขงเบ้งลุกขึ้น เดินไปหยิบพัดขนนกประจำตัวที่วางบนโต๊ะใกล้ๆผนังรูปภาพ พลางสบตาส่งสัญญาณให้กับเย่อิง นางหันกายคล้ายจะเดินออกไปจากห้อง แต่ตบมือใส่ข้างประตูฉาดใหญ่ ขงเบ้งรีบเบียดกายซ่อนในรอยสลักอีกครั้ง
ฉับพลัน หลังคาผืนใหญ่ของห้องอาบน้ำกลับถล่มทลายลงมา พร้อมเงาร่างใหญ่คล้ายคนผู้หนึ่งพลอยร่วงหล่นลงมาด้วย เพราะหมดสิ้นที่ทิ้งน้ำหนัก ตกลงไปในสระน้ำกึ่งกลางห้องในทันที ขงเบ้ง เย่อิงขยับไปอีกคนละมุม คล้ายตั้งใจจะใช้กลไกพิสดารอันใดอีก
"ช้าก่อน เป็นเราเอง" เสียงห้าวใหญ่ดังขึ้นจากร่างที่เปียกโชกไปด้วยน้ำ ขณะกำลังพยายามแหวกว่ายกลับขึ้นมาที่ฝั่ง
ขงเบ้งเพ่งมองเงาร่างที่คุ้นตา พลางส่งเสียงหัวร่อขึ้น "ที่แท้ ก็เป็นท่านหงส์ร่วง นี่เอง ที่อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียมน้องแล้ว"
ที่แท้ เงาร่างที่เปียกโชก จนดูไม่ได้ กลับเป็นชายคลุมหน้าในชุดรัดกุมสีดำผู้หนึ่ง โดนน้ำจนแนบเนื้อยิ่งขึ้น เป็น หงส์ผงาด บังทอง ที่ถูกหยอกล้อจากขงเบ้ง ศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน
“โชคดีที่พวกเราไม่ได้ขึ้นไปบนนั้นกับเจ้าด้วย จึงไม่ต้องเปียกปอนเช่นนี้" เสียงก้องกังวานดังขึ้นปะปนกันกับเสียงหัวเราะของอาจารย์ใหญ่ สุมาเต๊กโช พร้อมกล่าวลอยๆขึ้น "เวลาเท่านั้นเป็นบทพิสูจน์"
สุมาเต๊กโชปรากฏตัวขึ้นที่ประตู พร้อมส่งสัญญาณให้บังทองขึ้นจากสระน้ำ และแล้ว ทายาทมังกรที่เหลือทั้งสาม สุมาอี้ ตันฮก และ ลกซุน ค่อยทะยอยก้าวเดินตามเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นอีกครั้งที่ทายาทมังกรมาอยู่กันพร้อมหน้าครบถ้วน
ขงเบ้งรีบตรงเข้าไปคารวะอาจารย์ สวมกอดจับมือทักทายไปทุกๆคนด้วยความยินดี ใบหน้าสุมาเต๊กโชยิ้มแย้ม ผ่อนคลาย มองนิ่ง พิจารณาขงเบ้งอย่างละเอียด แล้วค่อยกวาดตามองที่เกิดเหตุ และหยุดลงที่ศพของ "ขงเบ้ง" อีกครั้ง พลางกล่าวขึ้น "ขุมกำลังสัตตดารา ช่างร้ายกาจนัก ถึงกับคิดจะแทรกซึมเข้ามาในเครือข่ายของเรา ดีนะที่เจ้ามีการเตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี"
"เหตุใด อาจารย์จึงคิดว่า มันเป็นพวกสัตตดารา" ลกซุนถามแทรกขึ้น
"สัตตดารา คือ เดนตายเจ็ดคน จากพรรคฟ้าเหลือง หนึ่งในนั้น คือ ดาวอำพราง ที่มีความสามารถในการปลอมแปลงโฉมหน้า ผู้ตายคงจะเป็นดาวอำพรางแล้ว" สุมาเต๊กโช-อินทรี ตอบ
มันจงใจเลือกใช้คำว่า "คงจะ" แม้ว่าพวกทายาทมังกรจะพอล่วงรู้ว่าใครเป็นใครในขุมกำลังสัตตดารา แต่เรื่องสมญานามนั้น ไม่มีใครชัดเจน จึงอาศัยเรื่องนี้ กลบเกลื่อนร่องรอยความผิดพลาดของนกเค้าแมว ป้ายความผิดให้กับพวกสัตตดาราไปแทน ถึงแม้ภายหลังร่องรอยถูกเปิดเผย ก็เป็นเพียงข้อสังเกต ไม่น่าจะมีใครได้ทันสงสัยอีก
สุมาเต๊กโชหยุดเล็กน้อย ค่อยกล่าวต่อ "พวกเรานัดหมายกันมาที่นี่ ทางหนึ่งเพื่อเยี่ยมเยียนเจ้าที่ได้รับบาดเจ็บเรื้อรังมานาน อีกทางหนึ่งเพื่อปรับเปลี่ยนแผนการแทรกซึมเสียใหม่ พวกเราไปหาที่เหมาะสม นั่งพูดคุยกันเถอะ"
ขงเบ้งจึงเชื้อเชิญอาคันตุกะที่ไม่ได้นัดหมายทั้งหมด ไปยังห้องหนังสือ ปล่อยให้ฮองเย่อิงจัดการให้คนรับใช้เข้ามาเก็บกวาดสถานที่ และซากศพฮองเสงหงันตัวปลอม พร้อมกับตั้งข้อสมมุติฐานว่า ฮองเสงหงันตัวจริงคงมีเภทภัยไปก่อนนานแล้ว
…
อินทรีรับทราบถึงความผิดพลาดอยู่ภายในใจ นกเค้าแมว อันดับสิบเอ็ด คนที่เก่งกาจ รอบรู้ที่สุดในทีม ดันประมาทจนพลาดท่าเสียทีกับขงเบ้งไปเสียแล้ว ขงเบ้งผู้นี้จึงมิได้ตอบสนองต่อประโยคที่เป็นรหัสลับประจำหน่วย
น่าเสียดายที่เค้าแมวไม่รั้งรอให้พวกพ้องที่อุตส่าห์นัดหมายกันไว้มาช่วยเหลือ กลับเร่งรีบรุกเข้าไปลงมือก่อนเพียงคนเดียว หากแม้นทำตามแผนการที่วางไว้ พวกปักษาหลายคนย่อมจัดการจู่โจมใส่ขงเบ้งได้อย่างรวดเร็ว และ อย่างมาก ก็ไม่ถึงกับต้องตายไปเช่นนี้
อีกอย่าง อินทรีนึกเสียดายพลังจิตที่สูญเสียไป มิเช่นนั้น คงได้โอกาสสำรวจความคิดของขงเบ้ง และทายาทมังกรทั้งหมดไปแล้ว แต่ก็ยังยินดีที่ไม่มีใครสังเกตพิรุธในตัวมันแต่อย่างใด
หากอินทรีรับรู้ด้วยว่า พิราบก็โดนฆ่าตายในจวนโลซกไปแล้วเช่นกัน มันอาจจะปั้นสีหน้าผ่อนคลาย นั่งปรึกษาหารือกับขงเบ้ง และทายาทมังกรอื่นๆไม่ได้แล้ว
…
หลังจากข่าวคราวเจ็บป่วยของเชื้อพระวงศ์เล่าเปียวแพร่สะพัด ทำให้กองทัพพันธมิตรสี่สายล้วนล่าถอยไปในที่สุด หากแต่คนสกุลม้ายังไม่อาจยุติ เพราะทำศึกเพื่อล้างแค้้นที่โจโฉสังหารบิดาม้าเท้ง มิใช่เพียงเพราะคำสั่งระดมพลกอบกู้ชาติ
ดังนั้น ม้าเฉียว ผู้นำขุมกำลังเสเหลียงจึงสั่งการให้ม้าเลี้ยงกับม้าเจ๊ก ทำทีเป็นนำกองทัพใหญ่ล่าถอยกลับไป แต่ตนเอง ม้าต้าย และเหล่าองครักษ์มือดี กลับแฝงตัวเข้าไปสู่เมืองหลวงฮูโต๋ตามแผนการดั้งเดิมที่ซุนฮกเคยวางแผนเอาไว้ก่อนตาย
เรือประมงลำน้อยล่องลอยไปตามแม่น้ำฮวงโหมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง พรรคพวกกระจายตัวกันปะปนกับพ่อค้าและคนทำงานอาชีพต่างๆทะยอยกันล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ขุนพลหนุ่มสกุลม้าทบทวนข้อมูลซ้ำอีกครั้ง
การลอบสังหารกลางเมืองมิอาจกระทำได้บ่อยครั้ง แพ้ชนะตัดสินด้วยการจู่โจมเพียงพริบตา ดังนั้น ลงมือหนเดียว ต้องสำเร็จเท่านั้น
...
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภาค 3 - มังกรจ้าวบูรพา
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย