ภาคเจ็ด “จอมทมิฬถิ่นสามานย์” กล่าวถึงความเสื่อมโทรมของขุมกำลังต่างๆทั้งแจ้งและลับ ทำให้เกิดช่องว่างในการแทรกแซงของชนเผ่าต่างแดนจากทั่วทุกสารทิศด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป จ้าวนครหลักทั้งสามจึงต้องระดมสรรพกำลังในการต่อต้านการรุกรานของเหล่าอนารยชนทั้งหลาย พร้อมๆกับการรับมือกลุ่มขุมกำลังลับที่ยังเดินหมากทอนกำลังอย่างต่อเนื่อง เนื้อหาปรับเปลี่ยนไปยังฉากตอนที่ไม่เคยบันทึกบนหน้าประวัติศาสตร์มาก่อน จากศึกชิงดินแดนภายในสามก๊ก ขยายวงไปยังสงครามชายแดนถิ่นกันดาร ชนเผ่าอันห้าวหาญพร้อมเคลื่อนไหวด้วยวิถีทางพิสดาร นอกจากนั้น ยังมีการเปิดตัวขุมกำลังใหม่ที่พร้อมจะทำศึกแตกหักกับทุกฝ่ายในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของวิกฤตการณ์ จนเกิดเป็นภาพสงครามเวหา ยุทธนาวี พลังวิเศษ และเวทมนตร์มายา หน่วยปักษาสวรรค์หมดสิ้นความได้เปรียบในอดีต ถูกบีบบังคับให้จนตรอก จนไม่อาจจะควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว จึงทำได้แค่ประคองตัวเอาชีวิตรอดในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ยากจัดการ ทั้งคนมีอาคม คนเหนือธรรมชาติ และคนที่ฟื้นคืนจากความตาย ในขณะที่เหล่าทายาทรุ่นที่สองเริ่มช่วยเหลือเหล่าผู้อาวุโสได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสายแพทย์ที่ได้บุกเบิกวางรากฐานไว้ตั้งแต่ต้น ภาคนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ - ปัญหารอบด้านของกษัตริย์ใหม่ทั้งสามแผ่นดิน และจุดจบของสมุนคนสำคัญ - การเปิดรากฐานสำคัญของขุมกำลังลับ: สำนักหุบเขาปีศาจ ขบวนการฟ้าดิน สำนักฟ้าประทาน - การบรรจบกันของโลกแห่งเวทมนตร์ กลไกวิทยาศาสตร์ และอภินิหารเหนือธรรมชาติ - บทบาทของตัวละครสำคัญอื่นๆในช่วงร่วงโรย เช่น กำเหลง สุมาล่ง จูล่ง เบ้งเฮ็ก อ้วนซง เป็นต้น
ภาคหก “พญายมถล่มแดนดิน” กล่าวถึงจุดจบของตัวละครมีชื่อเสียงจำนวนมากที่ร่วมบุกเบิกร่วมทำศึกกับเหล่าจ้าวนครทั้งสามมาตั้งแต่ต้น ส่งผลให้เกิดตัวละครหน้าใหม่ทะยอยเข้ามาแทนที่ เมื่อสามขุมกำลังหลักเคลื่อนไหวรุกคืบชิงความได้เปรียบจนใกล้แตกหัก เหล่าขุมกำลังลับก็ชิงเร่ิมต้นลงมือซ้อนแผน หมายกินรวบเช่นกัน แต่แล้ว กลับเกิดปาฏิหาริย์ไม่คาดฝันแทรกซ้อน เปลี่ยนทิศทางหมากกระดานไปอีกรูปแบบหนึ่ง เนื้อหาส่วนใหญ่จะมุ่งไปสู่แผนการขั้นสุดท้ายที่รวบรวมบุคคลสำคัญทั่วแผ่นดินมาไว้ในจุดสมรภูมิรบที่แปลกประหลาด สกุลซุนกับสกุลจูกัดขับเคื่ยวกันอย่างหนักหน่วงรุนแรงย่ิงไปกว่าศึกสกุลโจกับสกุลเล่าเสียอีกด้วยซ้ำ จนสุดท้าย มหาสงครามครั้งที่สาม-ศึกอิเหลงก็เกิดขึ้น ทับซ้อนด้วยพลังเหนือธรรมชาติ จนนำไปสู่ความตายของผู้นำแต่ละฝ่ายที่จบสิ้นไปอย่างพิสดารเกินกว่าที่คาดหมาย หน่วยปักษาสวรรค์หวนกลับมาควบคุมภาพรวมอีกครั้ง แต่ต้องเผชิญกับผลกระทบต่อเนื่องที่สมาชิกเดิมก่อเรื่องเอาไว้ อีกทั้ง สมาชิกที่เหลืออยู่ ยังทะยอยตายไปอีกหลายคน ทำให้จำต้องบอกเลิกภารกิจข้ามอดีตอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตาม กลุ่มทายาทรุ่นใหม่กลับเริ่มออกมามีบทบาทบนหน้าประวัติศาสตร์แทน ภาคนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ - จุดจบของราชวงศ์ฮั่น และการเข้าสู่ยุคสามก๊กอย่างแท้จริง - การล่มสลายของขุมกำลังลับ: สำนักหุบเขาปีศาจ พันธมิตรฟากฟ้าและขบวนการฟ้าดิน - ปาฏิหาริย์มังกรจักรวาลที่แปรเปลี่ยนชีวิตคนดัง และชะตากรรมแผ่นดิน - บทบาทของตัวละครสำคัญอื่นๆในช่วงไม้ผลัดใบ เช่น จูกัดกุ๋ย ซุนเกี๋ยน ลกซุน เทียหยก เสียวเอี่ยนจื่อ เป็นต้น
ภาคห้า “พยัคฆ์หยกนรกทักษิณ” กล่าวถึงพลังแฝงเร้นและเครือข่ายใต้ดินที่ผลักดันให้ซุนกวนกลายเป็นผู้นำตัวเลือก แตกต่างจากโจโฉกับเล่าปี่ที่มุ่งชูแต่ประเด็นทางการเมือง และกำลังทหาร ในขณะที่โจโฉ เล่าปี่เริ่มซีบซับอำนาจสูงสุด และมาถึงจุดเปลี่ยนทางความคิด แต่แล้ว เหล่าสมุนใกล้ชิดของแต่ละฝ่ายกลับเริ่มมีความคิดเป็นของตนเอง พยายามรวมหัวหักหลังเจ้านาย หวังช่วงชิงความเป็นใหญ่ ส่งผลกระทบราวกับขุมนรกเริ่มแตกทะลาย เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การต่อสู้มากมายที่ไม่เคยบันทึกมาก่อนในประวัติศาสตร์ ความพยายามของลูกสมุนคนสำคัญต่างเดินหมากที่แตกต่างกัน มุ่งหวังจะกำชัยชนะก่อนหลุดพ้นวังวนแห่งอำนาจ ทำให้บางคนอาจชิงลงมือเพราะความแค้น บางคนจำเป็นต้องทำตามสถานการณ์ และบางคนจำใจตัดสินเพื่อให้ภารกิจลุล่วง หน่วยปักษาสวรรค์ยังคงพยายามจัดการกับสถานการณ์ใหญ่ ไม่ให้บานปลายจนควบคุมไม่ได้ แต่แล้ว กลับต้องพบกับความจริงที่เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส จนบางคนเริ่มท้อแท้ หมดกำลังใจ และขออำลาจากบทบาทที่ตนเองได้รับมานาน อีกทั้ง ความลับและเงื่อนงำต่างๆที่สมาชิกเคยทิ้งไว้ เร่ิมเปิดเผยออกมาชัดเจนมากขึ้น ภาคนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ - การเผยโฉมขุมกำลังใหม่ของราชสำนัก และทายาทขุนนางเก่า - การทรยศหักหลังภายในขุมกำลังหลัก: สกุลโจ สกุลเล่า และสกุลซุน - การลงมือของขุมกำลังลับ: สำนักหุบเขาปีศาจ พันธมิตรฟากฟ้าและเหล่าคนแตกแถว - บทบาทของตัวละครสำคัญอื่นๆในช่วงผสมผสาน เช่น เล่าฉวน ม้าเฉียว บังเต๊กกง แฮหัวตุ้น เอียนซี เป็นต้น
ภาคสี่ “อาชาตะวันตก” กล่าวถึงจุดเปลี่ยนผันครั้งใหญ่ของผู้นำทั้งสาม อันได้แก่ โจโฉ ผู้นำรัฐบาลที่ถูกศัตรูเก่าเข้ามาแทรกแซง สวมรอยสังหารเชื้อพระวงศ์ คนสนิท และทำลายอิทธิพลขุนนางเก่า สุดท้าย ยังฉุดรั้งกองทัพหลวงไปเล่นศึกอยู่ทางฟากฝั่งตะวันตกตอนบนเสียเนิ่นนาน ฝ่ายเล่าปี่แห่งขุมกำลังเกงจิ๋ว ก็ฉวยโอกาสขยับขยายเขตแดนไปทางตะวันตกตอนใต้เช่นกัน กลืนกินดินแดนเสฉวนเป็นฐานที่มั่น จึงคงมีแต่ซุนกวนแห่งกังตั๋งที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ หมายจะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสบ้าง ดังนั้น ภาพรวมของการทำสงครามการเมืองจึงค่อยขยับขยายครอบคลุมทั่วทั้งแผ่นดินแล้วจริงๆ เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การทำสงครามปราบตะวันตกของโจโฉตัวปลอมและเล่าปี่ สลับฉากกับการล่มสลาย หรือการปรับเปลี่ยนเป้าหมายของขุมกำลังลับบางกลุ่มเช่นกัน ตัวละครรุ่นแรกเริ่มโรยรา และตัวละครรุ่นใหม่เข้ามาสืบทอดปณิธานดั้งเดิม ทำให้เกิดสมดุลย์ใหม่ ขั้วอำนาจใหม่ ประปราย จนสุดท้าย สกุลม้าที่คล้ายจะรุ่งโรจน์ กลับมุ่งหน้าเข้าสู่จุดแตกสลายก่อนใครเพื่อนไปอีกกลุ่มหนึ่งด้วย หน่วยปักษาสวรรค์เผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สมาชิกก่อขึ้นเอง ประวัติศาสตร์มิอาจย้อนคืนเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ทุกคนกลายเป็นกลไกส่วนหนึ่งของการกำหนดชะตากรรมใหม่ให้กับแผ่นดินฮั่น และยุคสามก๊ก และความยุ่งยากอันหนักหน่วงยิ่งขึ้น ก็คือ การจากไปของผู้นำหน่วย จนคล้ายตกอยู่ในสภาวะสูญญากาศ บางคนยังคงทำหน้าที่ แต่บางคนคล้ายถอนตัวไม่ยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป ภาคนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ - การล่มสลายของกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มคนสายวิขาการ - การทำสงครามของขุมกำลังหลัก: สกุลโจ สกุลเล่า และสกุลซุน - การเปลี่ยนลำดับของขุมกำลังรอง: สกุลม้า สกุลกองซุน และสกุลเอียว - ท่าทีใหม่ของขุมกำลังลับ: ขุมกำลังสัตตดารา สำนักหุบเขาปีศาจ ชนเผ่าต่างแดน และสหพันธ์การค้า - บทบาทของตัวละครสำคัญอื่นๆในช่วงเปลี่ยนผ่านยุคสมัย เช่น เตียวล่อ ฮองตง บังทอง หวดเจ้ง เตียวเฟิง เป็นต้น
ภาคสาม “มังกรจ้าวบูรพา” กล่าวถึงแผนการขั้นต่อไปของรัฐบาลโจโฉ นั่นคือ การปราบปรามจ้าวนครใหญ่ฝั่งตะวันออกของแผ่นดินฮั่น อันได้แก่ กลุ่มเล่าเปียว เชื้อพระวงศ์อาวุโสแห่งเกงจิ๋ว และกลุ่มซุนกวน พยัคฆ์หนุ่มแห่งกังตั๋ง จนนำไปสู่มหาศึกครั้งที่สอง - ศึกเซ็กเพ็ก ทำให้เกิดการขับเคี่ยวต่อสู้กันของเหล่ากุนซือมากปัญญา ขุนพลมากฝีมือ และอาวุธสงครามสุดพิสดาร อุดมการณ์หรือภารกิจอันยิ่งใหญ่พร้อมที่จะถูกพลิกเปลี่ยนไปด้วยเรื่องราวส่วนตัว หรือการตัดสินใจชั่ววูบของบุคคลที่ไปอยู่ในตำแหน่งวิกฤตของเส้นทางแห่งชีวิต ฉากหน้าเป็นศึกสงครามที่ยิ่งใหญ่ แต่ฉากหลังยังมีสงครามเย็นแบบจารชนไส้ศึก หรือความขัดแย้งทางความคิดส่วนตัว ปะปนอีกด้วย เนื้อหาส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การประสานกำลังพลของพวกขบถจ้าวนคร และขุมกำลังลับทั้งหลาย เพื่อต่อต้านความเกรียงไกรของเจ้าพระยาปราบอุดร โจโฉ กลุ่มทายาทมังกรและสำนักหุบเขาปีศาจกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาเป็น-ตาย ทุกความเคลื่อนไหว ล้วนมีหมากกลซุกซ่อน อัจฉริยะกลยุทธ์หวังควบคุมสถานการณ์ หากแต่โชคชะตากำหนด ฟ้าถูกลิขิต มิอาจฝืนต้าน ลำพังเพียงกลุ่มก้อนเดียว ยากจะรับมือพลังประสานรอบด้าน อีกทั้ง ยังมีอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนที่มีความสลับซับซ้อนยิ่งขึ้นเป็นตัวผลักดัน ส่วนหน่วยปักษาสวรรค์กลับเข้าสู่จุดตกต่ำรุนแรง สมาชิกหลายคนทำงานพลาดพลั้ง ถูกสังหารตายในภารกิจแบบไม่อาจแก้แค้นคืน จนสูญสิ้นปณิธาน ลังเลต่อคำสั่งดั้งเดิม สุดท้าย ค่อยค้นพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเกิดภารกิจซ้อนในองค์กร ปักษาที่ทรยศกลับกลายเป็นผู้ที่มั่นคงต่อหน้าที่ และเป้าหมายคือการทำลายล้างผู้คนทั้งหน่วยงานตามคำสั่งลับของต้นสังกัดนั่นเอง ภาคนี้ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่สำคัญต่างๆ ดังนี้ - การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของกลุ่มราชสำนักเดิม และสำนักหอสมุดใต้หล้า - รูปแบบกลยุทธ์ของขุมกำลังหลัก: สกุลโจ สกุลซุน และสกุลเล่า - บทบาทของขุมกำลังรอง: สกุลจูกัด สกุลสุมา และสกุลม้า - การแทรกแซงของขุมกำลังลับ: สำนักหุบเขาปีศาจ กลุ่มทายาทมังกร ชนเผ่าต่างแดนฝั่งใต้ และหน่วยปักษาสวรรค์ - บทบาทของตัวละครสำคัญอื่นๆในช่วงถ่ายโอนอำนาจ เช่น โลซก อุยเอี๋ยน กวนอู จิวยี่ ซุนซ่างเซียง เป็นต้น