Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขมานันทะในใจเรา - ชาติพันธุ์ภาวนา
•
ติดตาม
10 พ.ค. 2021 เวลา 23:00 • ปรัชญา
ไตร่ตรองมองหลัก (๒๕)
ตัวสติปัฏฐานคือตัวนำไปสู่พรหมจรรย์ ความสมบูรณ์ของปัญญา ที่ท่านพูดว่า ศีลอันใด สมาธิอันนั้น สมาธิอันใดปัญญาอันนั้น นี่เป็นองค์คุณสัมพันธ์ ศีลอันใดที่ไม่มีสมาธิอยู่ในนั้นไม่เกี่ยวกับปัญญานั้น ไม่ใช่ศีลในพุทธศาสนา
ทุกวันนี้สังคมบ้านเราไม่แยกแยะเลย ทีนี้ใครคนหนึ่งอยากฝึกสมาธิไปเรียนสมาธิโดยไร้เหตุผลไม่ได้มีที่มาที่ไป ฝึกจนเพี้ยนไปก็มี เสียจริตไปก็มี บางพวกเจาะจงไปที่ภูมิปัญญาเลย โดยที่ไม่มีองค์คุณอื่นรองรับ อันนี้เป็นเหตุใหญ่ทีเดียว บางพวกเชื่อมั่นว่าศีลจะนำไปสู่ปัญญาแล้วหลุดพ้นได้ องค์คุณสัมพันธ์ที่เราเรียกพรหมจรรย์นี้ จุดประกายขึ้นแล้วถูกหมุนให้มันเจริญให้แผ่ไปได้ เราจึงโยงถึงสติปัฏฐานสี่
พระพุทธเจ้าตรัสว่าเห็นกายในกายนั้น อาจอธิบายขยายความว่า เมื่อผู้ปฏิบัติเหยียดแขนหรือคู้เข้าก็รู้ นี้เราทำความรู้จักง่ายๆ จะนั่งจะลุกในอิริยาบถทั้งสี่มีอาการรู้ตัว แต่ว่าประโยคถัดมาก็คือ เธอนั้นถือเอากายสักแต่ว่าเป็นที่ตั้งของการรู้ เธอนั้นถอนความยินดียินร้ายในโลกเสียได้ มันมีเนื้อความเป็นท่อนๆ
เนื้อความเป็นตอนนี้โดยอรรถ มันเล็งไปสู่การกระทำอันเดียวที่เบ็ดเสร็จด้วยองค์คุณเหล่านั้น แต่เมื่อไปอธิบายมันเข้า ความหมายก็เลือนราง ตรงนี้แหละที่เป็นเรื่องคลุมเครือ ถ้าความหมายมันต้องถูกเข้าใจอย่างกระจ่าง กระทั่งเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติ
ทีนี้ย้อนมาดูท่านผู้รู้ท่านหนึ่งคือหลวงพ่อเทียน ท่านบอกให้รู้ขณะที่พลิกมือให้รู้ เคลื่อนมือให้รู้ คู้เข่าให้รู้ แล้วยังไปสู่อิริยาบถย่อย กะพริบตาให้รู้ ก้มหน้า เงยหน้าให้รู้ กลืนน้ำลายให้รู้ พูดให้รู้ เงียบให้รู้ นี่เป็นอิริยาบถย่อยๆ ซอยเข้าไปอีก
แม้แต่ความคิดก็เป็นอิริยาบถภายในการเคลื่อนไหวภายใน ให้จับอาการเหล่านี้ แต่เนื้อหาก็คือให้รู้ แต่อย่ารู้อะไร ตรงนี้ มันสอดรับกับเนื้อหาของสติปัฏฐานสี่
หมายความว่ารู้ แต่เธอนั้นไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใดในโลก คือไม่เอาอะไรจากการรู้เลย เป็นการรู้เฉยๆ ตอนนี้เป็นจุดสำคัญมาก ถ้าไปเพ่งเอาเป็นเอาตาย ให้รู้นี้มันติดทันที ถือเอาร่างกายเป็นเพียงฐานที่ตั้งของการปฏิบัติแล้วไม่ยินดีไม่ยินร้าย ไม่ยินดีไม่ยินร้ายนี้เป็นตัวกำกับใหญ่
ตัวหลังนี้มันจะนำไปสู่การไร้นิมิต สิ้นนิมิต ถ้าไปเพ่งกลายเป็นสติ ซึ่งละเวรไม่ได้ คือรู้แต่ติดสิ่งที่รู้นั้น ส่วนรู้แต่อย่าให้มันรู้อะไรโดยจำเพาะ เนื้อความมันรัดกุมมาก อย่าให้มันคิดซ้อนคิด ถ้าเข้าใจตรงนี้จะเข้าใจทั้งหมดในการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่
สนทนา : สติปัฏฐาน ๔ กับอ.ปรีชา ก้อนทอง
จากหนังสือไตร่ตรองมองหลัก
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ไตร่ตรองมองหลัก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย