29 ก.ย. 2021 เวลา 08:42 • ประวัติศาสตร์
รู้จัก “American Pizza” ต้นแบบของ พิซซ่าฉบับฟาสต์ฟู้ด ทั่วโลก
ถ้าพูดถึง พิซซ่า (Pizza) และต้นกำเนิด
เราก็คงจะนึกไปถึงต้นกำเนิด ที่มาจากชาวเนเปิล ในประเทศอิตาลี
ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด “อิตาเลียนพิซซ่า (Italian Pizza)” และ นโปลีพิซซ่า (Neapolitan Pizza)
แล้วถ้าเราพูดถึงพิซซ่า แบบฟาสต์ฟู้ด ที่เน้นสะดวก และ รวดเร็วละ ?
ก็คงเป็นอย่างที่เพื่อน ๆ หลายคนทราบกันดีว่า หนึ่งในพิซซ่า ที่กลายมาเป็นวัฒนธรรมการกินอาหารฟาสต์ฟู้ดเนี่ย
กลับไม่ใช่ อิตาเลียนพิซซ่า
แต่เป็น “อเมริกันพิซซ่า (American Pizza)” นั่นเอง
โอเค พอเราพูดถึง อเมริกันพิซซ่า แล้ว
เราก็เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เพราะหลายคนต้องชอบสั่งมาทาน โดยเฉพาะเวลาอยู่กับเพื่อนฝูง
อย่างเช่น แบรนด์พิซซ่าคอมพานี พิซซ่าฮัท หรือ โดมิโน่
ว่าแต่ว่า เจ้าอเมริกันพิซซ่า ที่ว่าเป็นต้นแบบของ พิซซ่าฉบับฟาสต์ฟู้ดทั่วโลก (ที่ไม่รวมอิตาลีนะ)
มันเป็นแบบไหน และ มาจากไหนกันละ ?
พอพูดถึงประเทศอเมริกา เราก็คงจะนึกถึงเรื่องของการปฏิวัติ ครั้งแล้วครั้งเล่าในประวัติศาสตร์
สงครามกลางเมืองต่างๆ มากมาย
ที่ทำให้เกิดการเรียกร้อง เสรีภาพ ซึ่งคือเอกลักษณ์ของพวกเขา นั่นเอง
เสรีภาพที่ว่านี้ ก็นำมาซึ่งความหลากหลายของเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ รวมถึงความชอบ ของคนอเมริกัน
หนึ่งในนั้นก็คือ เรื่องของการกินอาหารด้วย เช่นกัน
อาหารอย่าง พิซซ่า ที่ชาวอเมริกันชอบทานเนี่ย มีหลากหลายมากมาย ตามสูตรของแต่ละเมืองเลยก็ว่าได้
จุดที่สำคัญคือ พิซซ่าต้องทานแล้วอร่อย สะใจ จะต้องมีชีสเยอะๆ หนานุ่มคล้ายพาย
แน่นอนว่า พิซซ่าไม่มีทางที่จะกำเนิดจากคนอเมริกัน
อ้าว แล้ว พิซซ่าเข้ามาเผยแพร่อย่างไรละ ?
เรื่องราวนี้ ก็ไม่พ้นชาวอิตาลี ที่อพยพเข้ามาอยู่ในอเมริกา ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ว่ากันว่า อาหารอย่างพิซซ่าเนี่ย ก็เริ่มเผยแพร่และเป็นที่นิยม ในตัวเมืองที่มีชาวอิตาลี อพยพมาอาศัยอยู่ เช่น นิวยอร์ก ชิคาโก ฟิลาเดลเฟีย หรือ เซนต์หลุยส์
โดยผู้ที่เริ่มนำเมนูพิซซ่า เข้ามายังอเมริกา ก็คือ ชาวเนเปิลที่ชื่อว่า Giovanni และ Gennaro Bruno ที่เมืองบอสตัน ในปี 1903
แล้วเมนูแรก ที่ถูกเริ่มเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก มีชื่อว่า “Neapolitan Pizza” หรือ “Naples-style Pizza” พิซซ่า มะเขือเทศ ชีสมอสซาเรลล่า ใบโหระพา และน้ำมันมะกอก ที่อบในเตาฟืน แบบดั้งเดิมนั่นเอง
แต่ว่า นะแต่ว่า…
อีกต้นกำเนิดหนึ่ง ซึ่งมีความขัดแย้งกับประโยคด้านบนเนี่ย เขาว่ากันว่า มาจากร้านอาหารอิตาลีที่มีชื่อว่า “Lombardi's” เปิดมาตั้งแต่ในปี 1897 แล้ว ในย่าน Little Italy ของแมนฮัตตัน ในเมืองนิวยอร์ก
ที่เจ้าของร้าน ก็เป็นชาวอิตาเลียน มีชื่อว่า Gennaro Lombardi ที่เป็นคนพัฒนาสูตรพิซซ่าของชาวอิตาลี และ ชาวอเมริกัน ผสมกันออกมาได้อย่างลงตัว
จนกลายเป็น อเมริกันพิซซ่า ที่โด่งดังจนถึงทุกวันนี้
(แต่ชาวอิตาลีก็มักจะบอกว่า นี่มันพายมะเขือเทศ ที่พยายามใส่ชีสให้เยิ้มๆ เท่านั้น จะเรียกว่าพิซซ่า ไม่ได้หรอกนะ !)
อเมริกันพิซซ่า ที่โด่งดัง และ เป็นต้นแบบในหลายๆเมนูของ พิซซ่าฟาสต์ฟู้ด
ก็จะมีด้วยกัน 2 แบบหลักๆเลย คือ
แบบที่ 1 คือ “ชิคาโกพิซซ่า (Chicago-Style Pizza)”
จุดเด่นของ ชิคาโกพิซซ่า จะเป็นพิซซ่าจานลึก (Deep-pan) แป้งหน้านุ่มที่อบในกระทะ ประกอบไปด้วยชั้นของชีสที่หลากหลาย แน่นอนว่า เหนียวยืดดดมากกกกก
ชิคาโกพิซซ่า หรือ พิซซ่าจานลึก ว่ากันว่า กำเนิดจากร้านพิซซ่าอิตาลีในเมืองชิคาโก ที่ชื่อว่า “Pizzeria Uno” ในปี 1943
อย่างไรก็ดี เพื่อตอบสนองกับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค พิซซ่าชิคาโกแบบบางกรอบ (Thin crust) ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในเวลาต่อมา
จุดเด่นคือ พิซซ่าบางกรอบนี้ จะถูกเสิร์ฟในรูปแบบพิซซ่าสี่เหลี่ยม ที่ถูกหั่นมาให้พอดีคำแล้ว หรือ เราเรียกว่า "tavern-style"
แบบที่ 2 คือ “นิวยอร์กพิซซ่า (New York Style Pizza)”
(คุ้นๆกันไหม ที่พิซซ่าคอมพานี เขานำมาเป็นต้นแบบ ทำให้เรารับประทานกันนี่ละ)
ว่ากันว่าจุดกำเนิดของสูตรนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล
แต่คือร้าน “Lombardi's” ที่มาเคลมว่า เขาคือผู้นำรากฐานแห่งพิซซ่า และ สร้างสูตรอเมริกันพิซซ่าขึ้นมาเอง
ด้วยการผสมผสานกันระหว่าง “Naples” และ “American” ของร้าน “Lombardi's”
จึงทำให้ นิวยอร์กพิซซ่า จะมีลักษณะเด่นที่คล้ายกับ ชิคาโกพิซซาแบบบางกรอบ (Chicago Thin crust)
Chicago Thin crust
เพียงแต่ว่า นิวยอร์กพิซซ่า เขาจะเน้นความกรอบที่มากกว่า
ในเรื่องของตัวชีสเอง ก็จะมีการนำชีสเพียงแค่ 1 ชนิดมาใส่ ก็คือ เน้นบางกรอบกินง่ายไปเลย
แน่นอนว่า รวมถึงความเหนียวยืดหนืด ก็จะน้อยกว่าตัวชิคาโก อีกด้วย
จุดที่ทำให้ นิวยอร์กพิซซ่า อาจมีความได้เปรียบกว่าคือ การเดินรับประทานที่สะดวก ตอบโจทย์ชีวิตคนทำงาน มากกว่าด้วยซ้ำ
เพราะในส่วนของชิคาโกพิซซ่า ถึงแม้ว่าจะทานตัวบางกรอบแล้ว
แต่ด้วยเอกลักษณ์ของชีสหลากหลายตัว และ ความยืดนั้น ทำให้หลาย ๆ ครั้ง ผู้คนจำเป็นต้องนั่งรับประทาน พร้อมใช้ส้อมมีด เป็นตัวช่วย นั่นเอง
อ่านถึงตรงนี้แล้วเนี่ย เราก็จะเห็นการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมของการทานอาหาร ที่ต่างประเทศ ก็จะต่างวัฒนธรรม นั่นรวมถึงสูตรอาหารด้วยเช่นกัน
เพราะ คนอเมริกัน อาจไม่ได้ต้องการที่จะรอคอยนาน ๆ เพื่อรับประทานพิซซ่า ที่มีความพิถีพิถันสูงในแบบของชาวอิตาลี
รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างกว้างใหญ่มาก จึงทำให้พิซซ่าอิตาลีที่ค่อยๆเริ่มขยาย จากตัวเมืองใหญ่ อย่างนิวยอร์ก หรือ ชิคาโก ขยายออกไปมากขึ้น
แน่นอนว่า สูตรต่างๆ ก็จะถูกพัฒนาปรับเปลี่ยน จนแตกต่างกันออกไป หลากหลาย ตามวิถีชีวิตของคนแต่ละเมือง
แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คล้ายๆกันของ อเมริกันพิซซ่า คือ
ความสะดวก รวดเร็ว กินง่าย อร่อย และ ไม่จำเป็นต้องพิถีพิถัน ทั้งเรื่องของการทำและการทาน
จึงทำให้ อเมริกันพิซซ่า กลายเป็นที่นิยมในฐานะอาหารจานด่วน ในรูปแบบของพิซซ่า และได้ถูกเผยแพร้ไปทั่วโลก จากการเข้าไปขยายสาขาของบริษัทพิซซ่าสัญชาติอเมริกัน ไปซะเรียบร้อย
แล้วเพื่อน ๆ รู้ไหมว่า นอกจากพิซซ่าของ 2 คู่แข่งอย่าง ชิคาโก กับ นิวยอร์ก แล้ว
อเมริกันพิซซ่า ก็ยังมีอีกหลากหลายประเภทเลยละนะ ยกตัวอย่างเช่น
- California Style Pizza ที่มีความคล้ายกับนิวยอร์กพิซซ่า แต่มีขนาดเล็กกว่า
- New Jersey style ที่จะออกมาในแนวคล้ายพายมะเขือเทศ
- St. Louis Style ที่มีการใช้ชีสโพรเวล (Provel) ที่มีฐานมาจากเชดดาร์ชีส
- New England Style Pizza ที่มีแรงบันดาลใจมาจาก พิซซ่าของชาวกรีก เหนียวนุ่มไม่หนา และ กรอบ
California Style Pizza
New England Greek Style Pizza
อย่างไรก็ดี พวกเราก็อยากจะบอกว่า อเมริกันพิซซ่า ที่ตั้งใจทำในแบบที่ไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ดเนี่ย ก็มีเยอะอยู่เหมือนกันนะ
เพราะเราเองก็เคยไปรับประทาน ชิคาโกพิซซ่าจานลึก (Chicago Deep pan) ไกลถึงเมืองชิคาโกเลย
ขอบอกเลยว่า ประทับใจสุดๆเลย ! (แต่ว่า 2 ชิ้นนี่ เราก็อิ่มจัดแล้วละ แห่ะๆ)
ปิดท้ายด้วยเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ พิซซ่าในสหรัฐอเมริกา
จากข้อมูลของเว็ป Statista ระบุว่า
ในปี 2018 มีร้านพิซซ่าเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 76,993 ร้าน
ในปี 2019 มีร้านพิซซ่าเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 77,724 ร้าน
ในปี 2020 มีร้านพิซซ่าเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด 78,092 ร้าน
เห็นได้ว่า ธุรกิจของร้านอาหารพิซซ่า สามารถเติบโตได้ใน ปีต่อปี เลยทีเดียว
และ ถึงแม้ว่า ในปี 2020 จะเกิดวิกฤติโควิด 19 รอบแรกที่หนักหนาสาหัส แต่ดูเหมือนว่า จะไม่กระทบมาก กับผู้ประกอบการร้านพิซซ่า ที่สามารถชูจุดเด่นในเรื่องของฟาสต์ฟู้ด และ ระบบ delivery ได้เนอะ
โดย 3 อันดับเชนร้านขายพิซซ่า ของสหรัฐอเมริกา คือ
อันดับที่ 1 Domino’s Pizza
อันดับที่ 2 Pizza Hut
อันดับที่ 3 Little Caesars
แต่ละเชนนี้ คุ้นหูคุ้นตา กันหมดเลย ก็ไม่แปลกใจเท่าไร ที่อเมริกันพิซซ่าจะกลายเป็นเทรนด์พิซซ่าฟาสต์ฟู้ดได้
*หมายเหตุ : จริง ๆ แล้ว คำว่าพิซซ่า (Pizza) ถ้าเขียนให้ถูกต้องตามหลักของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา เราจะต้องเขียนว่า “พิซซา” ไม่มีไม้เอกนะ
แต่ว่า ในบทความนี้ ขออนุญาตใช้ พิซซ่า เป็นกรณีพิเศษที่ทำให้เพื่อน ๆ อ่านแล้วไม่สะดุดแทน
โฆษณา