Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกลับปักษาสวรรค์ (จินตนิยายสามก๊ก)
•
ติดตาม
1 พ.ย. 2021 เวลา 00:03 • นิยาย เรื่องสั้น
7.9. ล้มล้างอิทธิพลชนเผ่า
เฉียนต้วน ผู้นำเผ่าตี - เงียมเตียง นักรบค้างคาว - สุมาหมิน เจ้าแปดผู้วายชนม์
สมาชิกหน่วยปักษาสวรรค์รุ่นแรก คือ นางแอ่น หัวขวาน เหยี่ยวดำ และรุ่นสอง คือ โงโพ้ ฮ่วมอา ย้อนกลับลงมาที่หมู่บ้านหมื่นเซียนด้านล่าง ทิ้งไว้เพียงตันเตา ตันอุ๋น ให้เฝ้าดูแลจูล่งกับค้างคาวที่ถูกสกัดจุดสลบบนลานกว้างด้านบนไปก่อน
ทั้งหมดตรงไปยังเพิงอุปกรณ์ ต้นทางของกรงเหล็กขึงลวด ซึ่งถูกแรงกระชากดึงเอาหลังคาถล่มลงมาปิดทับพื้นที่โดยรอบ นางแอ่น เหยี่ยวดำ ไม่อยากรอช้า จึงใช้พลังลมปราณกวาดฟาดเศษหญ้าออกไปด้านข้าง เปิดให้เห็นแผ่นไม้สี่เหลี่ยมที่ทำเป็นพื้นเรียบด้านล่างของเพิง แล้วหัวขวานตรงไปกดกลไกสองสามครา ค่อยเลื่อนสลักเปิดออก
ที่แท้ การหลบหนีด้วยกรงเหล็กของตันอุ๋นนั้นเป็นเพียงเป็นการหลอกล่อศัตรูให้ติดตาม ส่วนบุคคลสำคัญของจ๊กก๊ก อันได้แก่ อุยหลิงฉี เล่าเสี้ยน เล่าเอ๋ง เล่าลี เตียวซิงไช่ เตียวซิงเหอ กวนสก ล้วนหลบซ่อนอยู่ตำแหน่งเดิมในห้องลับใต้ดินนั่นเอง
สองเด็กแฝด และกวนสก ที่ยังมีน้ำตานองใบหน้า เนื้อตัวเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากห้องลับ นางแอ่นโผเข้าสวมกอดลูกน้อยทั้งสองด้วยความยินดี ส่วนเหยี่ยวดำได้แต่เลิกคิ้วถามหาคนที่เหลือกับกวนสกน้อยที่ดูควบคุมสติได้ดีกว่าคนอื่น
“คนอื่นๆถูกแมงมุมลักพาตัวไปตั้งแต่คืนแรกที่หลบซ่อนตัว” กวนสกกล่าวตอบพร้อมส่งแผ่นบันทึกหนังสัตว์ให้ “พวกเราตื่นมาก็ไม่เจอใคร นอกจากสิ่งนี้”
“จงบอกต่อสองคนโฉด ขงเบ้ง ฮองเย่อิง ให้มารับโทษทัณฑ์ที่อาณาจักรเพงายใหม่ด้วยตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับตัวประกันเหล่านี้ ก่อนที่ราชันย์ของเราจะหมดสิ้นความอดทน” เนื้อความจดหมายที่ขีดเขียนด้วยถ่านไม้มีเพียงแค่นี้ แต่มีสัญลักษณ์รูปแมงมุมชักใยอยู่ด้านล่าง จึงทำให้เด็กน้อยกวนสกพร่ำบอกว่า เป็นแมงมุมจับกุมตัวไป
พวกปักษารุ่นแรกงงงันวูบ นึกไม่ถึงว่า พวกม่านก๊กจะส่งขุนพลมาถึงสองคน คนแรกค้างคาวนำทัพมาถล่มหมู่บ้านหมื่นเซียนจนพังพินาศ และติดตามตันอุ๋นไม่ลดละอยู่หลายวัน ส่วนคนที่สองกลับลอบลักพาตัวประกันหลบหนีไปก่อนแล้ว แสดงว่า ภายในของพวกม่านก็อาจจะไม่ได้สมัครสมานสามัคคีกันเท่าใดนัก
แต่นับว่า แมงมุมยังมีความปรานี ไว้ชีวิตเด็กน้อยทั้งสาม และกลบเกลื่อนร่องรอยห้องลับไว้เช่นเดิม แสดงว่า ต้องการส่งสาส์นให้กับพวกมันโดยตรง แทนที่จะบอกกล่าวให้พวกเดียวกันให้รับรู้เรื่องราว
“เกรงว่า ขงเบ้งจะไม่กล้าหาญพอจะนำชีวิตตัวเองไปทิ้งเสียในแดนใต้ แต่ยังดีที่เราจับตัวค้างคาวเอาไว้ได้ อาจจะพอนำตัวไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้กระมัง” หัวขวานเสนอความคิดให้กับนางแอ่น เหยี่ยวดำ
ยังไม่ทันจะปรึกษาอันใดเพิ่มเติม ตันอุ๋น ตันเตาก็เดินโซเซลงมาจากเนินเขาด้วยสภาพร่างกายที่สะบักสะบอม ทำให้โงโพ้ ฮ่วมอา ต้องรีบวิ่งเข้าไปประคองตัวไว้ เป็นตันเตาที่รีบรายงานเหตุการณ์ “จูล่งแสร้งทำเป็นหมดสติ พอพวกท่านลงมาสักพัก มันก็ลุกขึ้นมาสกัดจุดและทุบตีระบายโทสะเราสองคน พร้อมสังหารค้างคาว และหลบหนีไปแล้ว”
“มันฝากบอกว่า มันเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างแล้ว ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองต่อไป อย่าได้สร้างปัญหาภายในต่อกัน” ตันอุ๋นกล่าว แล้วค่อยบอกเสริมให้กับนางแอ่นโดยเฉพาะ “มันยังเจาะจงให้บอกต่อท่านว่า มันเสียใจที่ถูกหลอกลวงมาโดยตลอด นับแต่นี้ ชีิวิตคู่ครองให้จบสิ้นกัน อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันอีก”
นางแอ่นได้รับฟังคล้ายดั่งมีค้อนทุบเข้ากลางอก เพียงครึ่งค่อนวัน เหตุการณ์ต่างๆประดังกันเข้ามามากมายยังพอรับได้ หากแต่ชีวิตสามีภรรยาเป็นเรื่องสำคัญต่อจิตใจอิสตรีทุกผู้คน จึงได้แต่กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง ก่อนสิ้นสติไปอีกครั้ง สร้างความตกใจให้กับคนทั้งหลาย ฮ่วมอารีบจัดการดูแล ในขณะที่โงโพ้นำเด็กๆไปพักผ่อนอีกด้านหนึ่ง พร้อมรักษาอาการฟกช้ำทั่วไปให้กับสองพี่น้องแซ่ตันด้วย
หัวขวานและเหยี่ยวดำ รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย จึงแยกตัวออกมาระบายอารมณ์เคร่งเครียดบ้าง โดยเฉพาะหัวขวานพร่ำด่าจูล่งด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพราะยังคาใจโมโหที่เมื่อแรกมาถึง ก็เพิ่งถูกจูล่งมุ่งหมายเอาชีวิต “ไอ้คนสารเลวชั่วช้า คราก่อน มันพาคนมาเล่นงานพวกเราปางตาย จนสุดท้าย พี่ใหญ่ก็ตายในมือมัน มาครั้งนี้ พี่เก้าอุตส่าห์ช่วยเหลือดูแลมันมาตั้งหลายปี ก็ยังทำร้ายจิตใจนางแทบตายไปอีกคน หากพวกเรายอมบอกความลับเสียแต่แรก นางคงไม่ต้องลำบากใจถึงเพียงนี้”
ส่วนเหยี่ยวดำยังคงอดกลั้น ไม่่ว่ากล่าวอันใด เพียงแต่ฟาดฝ่ามือระบายโทสะไปกับต้นไม้ข้างทาง สะท้อนถึงความแค้นที่ถูกคู่ปรับเก่าทำลายความได้เปรียบครั้งแล้วครั้งเล่า
…
จูล่งเฝ้ามองดูพวกปักษาสวรรค์จากระยะไกล มันแสร้งกดดัน ระบายโทสะใส่สองคนแซ่ตันให้บอกเล่าแทนตัวมัน แล้วลอบติดตามลงมาด้วยตนเอง เพื่อประเมินท่าทีการตอบสนองของเมียรักเสียวเอี่ยนจื่อ และขบวนการลับกลุ่มนี้ในคราวเดียวกัน
มันจับความผิดปกติได้ตั้งแต่ตอนขึ้นเขาแล้วว่า นางแอ่นกับพวกมิได้ไว้วางใจในตัวมัน จึงได้รับมอบตัวยาสมุนไพรที่ใช้ป้ายผ้าปิดจมูกกันการสะกดจิต แตกต่างไปจากคนอื่นๆ และได้รับการพิสูจน์ยืนยันจากการที่เหยี่ยวดำผู้นั้นออมมือ ไม่จัดการกับค้างคาวอย่างเต็มที่ คล้ายต้องการให้มันเป็นคนออกหน้ารับมือกับพวกม้าเลี้ยง ประกอบกับการที่มันยังคงได้รับกลิ่นหอมสะกดจิตอีกครั้งบนลานกว้าง ทำให้มันคอยระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม แต่ไม่เปิดโปงท่าทีให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ตัว
ในยามที่เสียวเอี่ยนจื่อพยายามสกัดจุด มันจึงใช้วิชาเคลื่อนย้ายชีพจรให้ไม่ถูกจุดสลบ แต่เสแสร้งหมดสติไป เพื่อเฝ้าคอยเป็นคนดูเหตุการณ์บ้าง อย่างน้อย มันก็พอคาดเดาได้ว่า ความคิดชั่วร้ายไม่มี แต่การหลอกลวงก็ยังเป็นเรื่องที่รับได้ยากลำบาก โดยเฉพาะจากคนที่เป็นที่รักข้างกายมานานหลายปี
สุดท้าย มันจึงประเมินจากท่าทีของสองสมาชิกอาวุโส และพอสรุปได้ว่า ความรักของเสียวเอี่ยนจื่อนั้นยังคงมีเฉกเช่นเดิม แสดงว่า นางยังไม่รับรู้ว่า มันคือผู้ที่ลงมือสังหารอินทรีมือเหล็ก ผู้เป็นอดีตหัวหน้าของขุมกำลังลับกลุ่มนี้
ดังนั้น หากเหยี่ยวดำ หัวขวาน และคนอื่นๆ ถูกกำจัดให้หมดสิ้นไป จนหน่วยงานต้องล่มสลายไปเสียก่อนความลับจะถูกเปิดเผย นางแอ่นก็อาจจะจบสิ้นหนทาง และกลับคืนสู่สถานะภรรยาที่รักของมันได้ดังเดิม
เพียงแต่ยามนี้ มันมิใช่ประมุขพรรคฟ้าเหลือง ผู้ทรงอิทธิพลของขุมกำลังสัตตดาราเหมือนในอดีตแล้ว การเคลื่อนไหวตอบโต้กับขุมกำลังอื่นๆจึงอาจจะยากลำบากอยู่บ้าง ขุนพลท่องเมฆาขบคิดวูบหนึ่ง จึงตัดสินใจเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากสหายผู้มีอำนาจที่มันน่าจะไว้วางใจได้ เพื่อเดินหมากต่อไปของตนเองบ้างแล้ว
…
เมื่อนางแอ่นฟื้นคืนสติแล้ว แต่อาการบอบช้ำภายในน่าจะยังคงคั่งค้างอยู่สักพัก จึงปรึกษาหารือกัน ในยามนี้ พวกมันมิได้จำเป็นต้องคงภารกิจของหน่วยปักษาสวรรค์ ผู้พิทักษ์ประวัติศาสตร์อีกต่อไปแล้ว ดังนั้น การตัดสินใจในเรื่องราวต่างๆจึงขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อตัวบุคคล หรือผลกระทบที่มีต่อโลกมนุษย์ มากกว่าจะพยายามให้เกิดเรื่องราวตามบทพงศาวดารเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป เพราะการเข้ามาแทรกแซงแผ่นดินฮั่นโดยขุมกำลังลับ หรือชนเผ่านอกด่านต่างๆ ตั้งแต่เผ่าโกกุเรียว แพกเจ วอ เย่ ตี ม่าน หรืออิวจื่อนั้น ก็ทำให้ประวัติศาสตร์ดั้งเดิมนั้นปั่นป่วนไปมากแล้ว
หลังจากวิเคราะห์สถานการณ์กันแล้ว ขุมกำลังลับที่น่ากลัวที่สุดในยามนี้ ก็คือ ขบวนการฟ้าดินที่มีพวกสกุลจูกัดเป็นประมุข ลำดับต่อมา ก็คือ สำนักฟ้าประทานของสกุลสุมาที่ร่วมกับกลุ่มชนเผ่าต่างๆเข้ามาชิงอิทธิพลเหนือดินแดนฮั่น ต่างพร้อมจะกินรวบจ๊กก๊กกับวุยก๊กที่เริ่มจะอ่อนแอทรุดโทรม เพราะเกิดการผลัดเปลี่ยนผู้นำ
ส่วนกลุ่มคนที่น่ากังวลใจที่สุดสำหรับพวกมัน อาจจะมิใช่ชนเผ่าหรือขุมกำลังลับอันใด นอกเสียจากกลุ่มคนที่ได้รับพลังมังกรจักรวาลที่เหลือ อันได้แก่ จูล่ง กุยห้วย ซุนกวนและลกซุน ที่มีพลังอำนาจเหนือมนุษย์ทั่วไป และมิอาจคาดเดาจิตใจได้นั่นเอง ยังดีที่ฝั่งของพวกมันยังมีนางแอ่นที่ได้รับพลังมังกรมาด้วยเช่นเดียวกัน
ดังนั้น นางแอ่นจึงให้ตันอุ๋น ตันเตาหาสถานที่ปลอดภัยไปหลบซ่อนตัวจากมรสุมสงครามช่วงนี้ ดูแลฝึกวิชาให้กับเด็กแฝดและกวนสกไปพลางก่อน เหยี่ยวดำ หัวขวานกับโงโพ้ ย้อนกลับไปจัดการกับกากุ๋ยคนชั่ว กุยห้วยตัวแสบ และขบวนการใต้ดินในวุยก๊ก รวมทั้งระวังท่าทีของกลุ่มชนเผ่าต่างถิ่นสายเหนือและตะวันออกไปพร้อมกัน
ส่วนนางจะอาศัยกลุ่มอิทธิพลเก่าของเล่าปี่ กลับไปสะสางเรื่องราวกับจูล่ง ขงเบ้งในจ๊กก๊ก รวมทั้งเบ้งเฮ็กแห่งม่านก๊ก และกลุ่มชนเผ่าทรงอิทธิพลทางแดนตะวันตกที่พัวพันอยู่กับม้าเฉียว โดยให้ฮ่วมอาอยู่ช่วยรักษาอาการของนางด้วย
คงเหลือง่อก๊กที่อาจจะต้องปล่อยให้เลยตามเลยไปก่อน เพราะยังไม่มีแรงกดดันอันใดปรากฏ และซุนกวนกับพวกกังตั๋งน่าจะยังคงสามารถดูแลสถานการณ์ไปได้สักพักหนึ่ง
ทั้งหมดต่างแยกย้ายกันไปตามแผนงานที่กำหนดขึ้น โดยไม่ได้ตระหนักว่า ซุนกวนตัวจริงในตำนานก็จบสิ้นชีวิตไปหลายเดือนแล้ว แม้แต่นางแอ่นที่เชื่อมโยงกับคนพิเศษอื่นๆด้วยสายใยแห่งมังกรก็ถูกหลอกลวงด้วยแผนการสวมรอยปลอมตัวของลกซุนกับซุนลู่ปัน จนพลาดเรื่องราวนี้ไปด้วยเช่นกัน
…
ณ เมืองหลวงลกเอี๋ยง สุมาล่ง สุมาอี้ กากุ๋ย นั่งจิบน้ำชาอยู่กลางสวนรับรองในเรือนพักของสุมาอี้ รอรับฟังข่าวดีในการลอบสังหารศัตรูคนสำคัญสามคน เป็น จูล่ง ขุนพลท่องเมฆา เสียวเอี่ยนจื่อ ขุนพลวิหคสวรรค์ ผู้เป็นภรรยา และนักฆ่าไร้ตัวตน นาม เหยี่ยวดำ แต่สุดท้าย กลับเกิดความผิดพลาดขึ้น
สองคนแรก ใครๆย่อมรู้จักว่า เป็นขุนพลลือนามแห่งจ๊กก๊ก หากแต่เบื้องหลัง กลับมีเพียงพวกมันที่ล่วงรู้ว่า จูล่ง หรือ เตียวหยุน ก็คือ ประมุขพรรคฟ้าเหลือง และหัวหน้าขุมกำลังสัตตดารา ที่แอบก่อกวนบ้านเมืองจนปั่นป่วนมาหลายครั้งหลายหนแล้ว
ส่วนอีกสองคน ก็คือสมาชิกองค์กรลับนามปักษาสวรรค์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ซับซ้อนมากมาย และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่กับกุนซือเงาปีศาจ กาเซี่ยง หมอเทพยดา ฮัวโต๋ กุนซือเดชนกยูง หวดเจ้ง เตียวหุย ขุนพลฟ้าคำราม กับ เตียวล่อ ดาวปกครองแห่งขุมกำลังสัตตดารา เป็นอาทิ
นี่คือข้อดีของการเป็นขุมกำลังลับท่ามกลางสงครามชิงอำนาจ คอยแอบดูคนอื่นเคลื่อนไหว จนอ่อนแรงก่อน แล้วค่อยจู่โจมให้เด็ดขาดในคราวเดียว พวกมันรอคอยมานานหลายสิบปี รอให้อาณาจักรไต้ฮั่นที่แตกแยกเป็นเสี่ยงๆให้ค่อยๆรวมตัวกันเป็นก๊กเป็นเหล่า จนหลงเหลือผู้นำเดนตายเพียงสองสามคน นั่นคือ โจโฉ เล่าปี่ และซุนกวน สามก๊กสุดท้ายที่ฝ่าฟันสงครามมาได้
แต่บัดนี้ สิ่งที่ดียิ่งกว่าแผนการดั้งเดิม ก็คือ โจโฉ เล่าปี่ ล้วนตกตายไปแล้ว ซุนกวนก็ยังด้อยบารมีกว่าคนอื่นอยู่ช่วงหนึ่ง และเมื่อโจผีลงมือกำจัดเหี้ยนเต้ ทำให้ผู้คนสูญสิ้นความหวังต่อราชวงศ์ฮั่นที่มีรากฐานยาวนานหลายร้อยปีไปแล้ว ดังนั้น หากใครมีอำนาจบารมีเพียงพอ ย่อมก้าวขึ้นครองตำแหน่งกษัตริย์แทนที่คนเดิมได้ไม่ยากเย็นนัก
คนสกุลสุมาเฝ้ารอมานานหลายร้อยปี ไม่น้อยกว่าราชวงศ์ฮั่นของสกุลเล่า หรือ สำนักหุบเขาปีศาจของตระกูลซุน แนวทางของมันยังคล้ายคลึงกับสำนักหุบเขาปีศาจด้วยซ้ำ เพียงแต่พวกสกุลซุนหมายมั่นให้แผ่นดินสงบสุข ในขณะที่ พวกมันรอคอยโอกาสชิงราชบัลลังก์มาโดยตลอด จนบางครั้ง พวกมันถึงกับแฝงตัวเข้าไปอยู่ในวังวนการจัดการของสำนักหุบเขาปีศาจ หรือขุมกำลังลับอื่นๆ เลยด้วยซ้ำ
ซุนเกี๋ยนแห่งสำนักหุบเขาปีศาจ จูกัดกุ๋ยแห่งขบวนการฟ้าดิน ต่างพยายามเล่นหมากล้อมใต้ดิน นึกว่าฝ่ายตนเองครอบครองอำนาจเหนือผู้คนแล้ว แต่ที่จริง ยังมีเครือข่ายสุมาที่แอบแฝงลงไปร่วมวงเล่นสงครามด้วยอีกกลุ่มในตำแหน่งมุมมองที่ซ่อนเร้น
ช่วงเวลาหนึ่ง สุมาเต๊กโชแห่งเครือข่ายสุมา ม้าเท้งแห่งพันธมิตรเสเหลียง เล่าเปียวแห่งกองทัพเกงจิ๋ว เคยแอบร่วมมือกันหมายมั่นจะช่วงชิงโอกาสลงมือบ้าง เพียงแต่เสียดายที่เล่าเปียว สุมาเต๊กโช ดันทะยอยถูกคนร้ายลอบสังหาร ม้าเท้งใจร้อน ไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำรุ่นถัดมาที่เยาว์วัยกว่า จึงทำการตามลำพัง แทรกแซงโจโฉก่อนถึงเวลาอันควร หวังขึ้นสู่อำนาจช่วงน้ำกำลังขุ่นมัว จนสุดท้ายกลับผิดพลาด ถูกสังหารตายไปอีกคน
ในยามนี้ บารมีสกุลเล่าแห่งเกงจิ๋วหมดสิ้นไปพร้อมกับราชวงศ์ฮั่น แต่โครงสร้างหลักของสำนักโดยสุมาล่ง ที่มีเครือข่ายทอดยาวไปถึงแดนไกลนอกด่าน เริ่มกลับมาจับมือกับพันธมิตรแห่งเสเหลียงของม้าเฉียวได้แล้วอีกครั้งหนึ่ง สกุลสุมากับสกุลม้ากำลังจะร่วมกันครองแผ่นดิน ชิงอำนาจจากสกุลโจ เล่า ซุน และจูกัด ในไม่ช้า
พวกมันคือ สำนักฟ้าประทาน รากฐานที่แท้จริงของเครือข่ายสุมา
…
แผนการก้าวแรกในการเปิดตัวสำนักฟ้าประทาน คือการโจมตีหุบเขาลำธารสวรรค์ เพื่อชิงตัวบุคคลสำคัญซึ่งไม่ชัดเจนว่าเป็นใครด้วยซ้ำ และวางกับดักสังหารศัตรูตัวหลัก
พวกมันล่วงรู้ว่า ค้างคาวกับแมงมุม สองนักรบเบญจพิษรุ่นใหม่แห่งม่านก๊ก นัดหมายชิงตัวคนสำคัญของจ๊กก๊กในหุบเขา เพราะน้องแปด สุมาหมิน ได้ลอบปะปนเข้าไปเป็นคนสนิทข้างกายของค้างคาวมาสักระยะหนึ่งแล้ว การลอบสังหารค้างคาวระหว่างการเดินทัพ และใช้หน้ากากค้างคาวสวมรอยแทน จึงเป็นไปได้โดยราบรื่น สำหรับภารกิจแรกเริ่มของน้องเล็กผู้นี้ในการแทรกแซงชนเผ่าม่าน
หลังจากถล่มหมู่บ้านหมื่นเซียนแล้ว จึงให้ค้างคาว-สุมาหมินหาเหตุรั้งรออยู่ก่อน พร้อมระดมพลเพิ่มเติม ในขณะที่ปล่อยข่าวล่อลวงให้ฝ่ายตรงข้ามระดมกำลังมาช่วยตัวประกัน ซึ่งผู้ที่เดินทางมา ก็คือ จูล่ง เสียวเอี่ยนจื่อ ตันเตา จากเมืองเซงโต๋ กลุ่มหนึ่ง และเหยี่ยวดำ โงโพ้ ฮ่วมอา จากเมืองลกเอี๋ยง อีกกลุ่มหนึ่ง
พอทราบข่าวเช่นนี้ สุมาล่งจึงไม่วางใจนัก เพราะผู้มาล้วนเป็นสุดยอดฝีมือ จึงรีบสั่งการให้พันธมิตรที่อยู่ใกล้จุดสมรภูมิที่สุด ม้าเฉียว ม้าต้ายตามตัวม้าเลี้ยงและผู้นำเผ่าตี เฉียนต้วน พร้อมกับค่ายกลเงาหิมะและกองทหารนายพราน เข้าไปช่วยเสริมกำลัง อาศัยลานกว้างบนเนินเขาเป็นจุดสังหารด้วยกำลังพลที่เหนือกว่าของเผ่าม่านและเผ่าตี
เพียงแต่แมงมุมแห่งม่านก๊กกับนักรบกำลังเสริมกลับขาดหายไปจากที่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า โดยไม่รู้สาเหตุ และม้าเฉียวไม่เชื่อฟังเต็มที่ เพียงส่งมือรองมาช่วยรับมือ เพราะเกรงว่า ขงเบ้งจะสงสัยในความจงรักภักดีของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม แผนการลอบสังหารสมควรจะประสพผลสำเร็จอยู่บ้าง หากแต่คนคำนวนมิสู้ลิขิตฟ้า ที่ให้ชนเผ่าอิวจื่อสอดแทรกเข้ามาในแผนการ มนตร์สะกดรอบแรกที่มีต่อตันเตา และรอบสองต่อจูล่ง ทำให้พวกปักษาสวรรค์เสียเวลาอยู่ระหว่างทางไปไม่น้อย และทำให้หัวขวานตามมาทันพอจะบอกเล่าคำเตือนก่อนตายของกาเซี่ยงได้ทันเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น นักสะกดจิตสาวยังขึ้นไปสะกดทัพค้างคาวด้านบนอีกเป็นคำรบสาม กลับทำให้เผ่าม่านที่ต้องมนตร์ลงมือทำร้ายกับกองทัพนายพรานของเผ่าตีเสียเอง จนพวกม้าเลี้ยงสับสนปั่นป่วน คิดว่า พวกสกุลสุมาหักหลังตนเอง และพลาดท่า ถูกมนตร์สะกดรอบที่สี่ ทำให้ม้าเลี้ยงถูกจับตัวไปได้ในที่สุด กลายเป็นเข้าทางแผนการของชนเผ่าอิวจื่อ
ในเมื่อแผนการล้มเหลวไปเช่นนี้ ม้าต้ายจึงสั่งการให้เผ่าตีสังหารทหารเผ่าม่านที่เหลือ และทิ้งให้ค้างคาว-สุมาหมินถูกพวกจูล่งจัดการเป็นการล้างแค้นสั่งลา จากนั้น จึงแจ้งข่าวให้กับม้าเฉียวถอนตัวจากศึกลับสกุลจูกัด-สุมา-ซุน พร้อมระดมพลเผ่าตี เตรียมยกกองทัพนายพรานไปตะลุยเผ่าอิวจื่อ ช่วยเหลือม้าเลี้ยงกลับคืนมา
…
ความเคลื่อนไหวของพวกสกุลม้าว่องไวนัก เพราะนับจากที่เอียสี ฮูหยิน และลูกทั้งสามของม้าเฉียวเสียชีวิตจากภัยสงคราม ครอบครัวของสกุลม้าก็ถูกส่งไปซ่อนตัวในสถานที่ปลอดภัยห่างไกลจากสงคราม ดังนั้น เพียงม้าต้ายส่งข้อมูลออกไป ม้าเฉียว ม้าเจ๊กก็ควบม้าออกจากเมืองเซงโต๋ไปรอพบพวกม้าต้ายที่เผ่าตีเรียบร้อยแล้ว เห็นทีว่า จะตระเตรียมออกนอกด่านฝั่งตะวันตกในเร็ววัน และที่สำคัญคือ ไม่มีคำแก้ต่างใดๆมาให้กับพวกมันเลยแม้แต่คำเดียว แสดงถึงการตัดความสัมพันธ์ไปโดยปริยาย
ข่าวสุดท้ายที่มาถึง ม้าเฉียวทั้งสาม พร้อมกับกองทหารนายพรานฝีมือดีหลายร้อยนาย ควบม้าหายลับออกนอกด่านตะวันตก พร้อมบรรจบกับทัพเสริมจากตองถู (เตียดลิเกียด) ผู้นำเผ่าเกี๋ยงอีกหลายพันคน มุ่งหน้าสู่ดินแดนทะเลทรายอิวจื่อไปแล้ว เพื่อแสดงถึงอิทธิพลบารมีคนสกุลม้าที่มีอยู่ในพื้นที่นอกด่าน
สุมาล่งตะลึงลาน คาดไม่ถึงว่า เดินหมากผิดพลาดไปครั้งเดียว กลับสูญเสียน้องเล็กสุมาหมิน และพันธมิตรเสเหลียงไปทั้งกลุ่ม สุมาอี้ได้แต่ปลุกปลอบใจให้กับพี่ชายคนโต อย่างน้อย สกุลจูกัดหรือจ๊กก๊กก็ซวนเซไปด้วยเช่นกัน จึงสมควรวางแผนตอบโต้ต่อไป
…
ณ เมืองฮันต๋ง ขุนพลพายุคลั่ง อุยเอี๋ยน นับเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในกลุ่มเล่าปี่ ตั้งแต่ยึดอำนาจมาจากตันจิ๋น-เตียวเหียน เจียวอ้วน ช่วยเหลือขุนพลรอง อองเป๋ง ออกจากที่คุมขัง และประสานกับขุุนพลสายเอ๊กจิ๋ว ลิเงียม งออี้ และขุนพลรุ่นใหม่ เตียวเอ๊ก กวนหิน เตียวเปา ที่ยึดครองด่านแฮบังก๋วนต่อจากตันเซ็ก ครอบคลุมพื้นที่ไปครึ่งค่อนดินแดนเสฉวน ทำให้ลดทอนอำนาจทางการเมืองฝ่ายขงเบ้งไปได้ไม่น้อย
คนที่จูล่งตัดสินใจเลือกใช้งาน จึงเป็นอุยเอี๋ยน สหายที่ร่วมรบกันมานานนับสิบปี โดยแจ้งเบาะแสให้รู้ว่า ยามนี้ เผ่าตี ชนเผ่านายพรานตามเทือกเขาสูงแถบนี้ ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฝ่ายขงเบ้งนั้น ตกอยู่ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุด เพราะกำลังพลสำคัญถูกเฉียนต้วน ผู้นำเผ่า นำไปช่วยเหลือคนสกุลม้าจนแทบหมดสิ้น
เมื่อหลายปีก่อนจากเหตุการณ์งานเลี้ยงพระราชทานนองเลือดครั้งนั้น เผ่าเกี๋ยงและเผ่าตีนับเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่สังหารตัวแทนชนเผ่าต่างๆ ตั้งแต่เผ่าซงหนู เซียนเปย โกกุเรียว เย่ ม่าน ตามคำสั่งของคนสกุลจูกัด คล้ายต้องการลดทอนอำนาจบารมีของศัตรูรอบด้านเป็นการทุ่มทุนล้มกระดานครั้งใหญ่ แต่สุดท้าย ภารกิจล้มเหลว ทำให้ต่อมา เผ่าทั้งสองตกเป็นเป้าหมายสำคัญในการล้างแค้น และเผ่าเกี๋ยงที่อยู่นอกด่านก็ได้รับผลกรรมการตอบโต้จากเผ่าซงหนู และเซียนเปยเรื่อยมา ส่วนเผ่าตีเป็นกองกำลังพลัดถิ่น ซ่อนตัวอยู่ในเขตแดนของจ๊กก๊ก จึงยังไม่ได้ผลกระทบอันใดมากนัก
ดังนั้น การสังหารกวาดล้างเผ่าตี จึงสมควรเป็นผลดีต่อคนฝ่ายจ๊กก๊ก ทั้งในด้านชื่อเสียง และการเมืองเป็นอย่างมาก ซึ่งที่จริง ขงเบ้งก็ตระหนักดีในเรื่องนี้ แต่ติดที่ว่า ขุนพลสกุลม้าสนิทสนมกับสองชนเผ่า จึงรีรออยู่มานาน แต่สำหรับสายเล่าปี่จะกลับกัน การทำลายเผ่าตีจะปิดทางกลับของคนสกุลม้า และลดทอนกำลังของขงเบ้งไปอย่างมหาศาลทีเดียว
เท่าที่ผ่านมา คนสายเล่าปี่ไม่อาจทำร้ายคนสายขงเบ้งอย่างเปิดเผย เพราะเปลือกนอกต่างก็เป็นอาณาจักรจ๊กก๊กเดียวกัน แต่เผ่าตีไม่ใช่ การแสดงออกที่ตรงไปตรงมาจึงทำได้อย่างเต็มที่ และคนจ๊กก๊กเองก็เริ่มหวาดระแวงต่อท่าทีของชนเผ่านายพรานนี้ไม่น้อย
อุยเอี๋ยนเป็นคนมีปัญญา เคยร่ำเรียนตำราพิชัยยุทธ์มานาน ย่อมเข้าใจความคิดของจูล่งในทันที จึงจัดแจงให้ อองเป๋ง เตียวเอ๊ก กำกับเมืองหลักฮันต๋ง ให้ ลิเงียม งออี้ ดูแลด่านแฮบังก๋วน และให้กวนหิน เตียวเปา นำกำลังพลร่วมกับตนเอง และจูล่ง ไปกวาดล้างเผ่าตี ชูธงล้มล้างอิทธิพลชนเผ่า และนโยบายการเมืองที่ผิดพลาดของขงเบ้ง
ความคิดอำมหิตที่อุยเอี๋ยนคำนวนไว้ นั่นคือ ชนเผ่าตีเชื่อมั่นในกลวิธีหลบหลีกในพงไพร ศัตรูยากจะจับตัวผู้คนได้ ดังนั้น กองกำลังสี่สายจึงปิดล้อมเส้นทางนายพราน ใช้วิธีเผาทำลายเทือกเขาป่าไม้อันเป็นสถานที่ซุกซ่อนตัวจนพินาศอย่างสิ้นเชิง คล้ายเป็นการไล่ต้อนสัตว์ป่าให้ออกมารับการสังหาร หรือ เลือกที่จะยินยอมถูกเผาย่างสดในกองเพลิง
ชนเผ่าตีย่อมคาดคิดไม่ถึงว่า ชาวฮั่นจะป่าเถื่อนดุดันถึงปานนี้ เทือกเขาที่ถูกเพลิงโหมกระหน่ำ จึงกลายเป็นสุสานของชนเผ่านายพรานไปในทันที ใครรอดจากเปลวไฟกลุ่มควัน ก็โดนฆ่าฟันแบบขุดรากถอนโคนอย่างอย่างเลือดเย็น
พอได้รับชัยชนะรอบแรกแล้ว จูล่งจึงไม่หยุดยั้ง นำกองทัพสี่สายเดินทางไปยังเมืองเซงโต๋ในทันที หวังกดดันให้ขงเบ้งต้องหลุดจากตำแหน่งมหาอุปราชโดยเร็ว
...
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภาค 7 - จอมทมิฬถิ่นสามานย์
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย