28 ธ.ค. 2021 เวลา 14:46 • ไลฟ์สไตล์
“รู้จักจิต ก็รู้จักโลก”
2
" ... เราไม่ต้องไปเรียนอะไรมากมายข้างนอก
เรียนลงมาที่กายที่ใจของตัวเองนี้ อย่าละทิ้งมัน
ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมะที่อื่น
ธรรมะแสดงอยู่ที่กายที่ใจของเราแล้วล่ะ
ถ้าเราเห็นว่ากายนี้ใจนี้ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ตัวเราของเราไม่มี ในกายในใจนี้ทุกอย่างมันก็ไม่มีไปด้วย บ้านเรามันจะมีได้อย่างไร ตัวเรามันยังไม่มีจริงเลย
คนสัตว์อะไรพวกนี้มีโดยสมมติ ที่จริงร่างกายมันก็เป็นแค่วัตถุ จิตใจก็เป็นแค่นามธรรมที่เกิดดับหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไป มีเหตุ ไม่ใช่ไม่มี
อย่างจิตบางคนทำไมกุศลเกิดบ่อย จิตบางคนอกุศลเกิดบ่อย ไม่ใช่ฟลุก ไม่ใช่บังเอิญ ไม่ใช่เทวดาลิขิต เป็นเรื่องของกรรมทั้งสิ้นเลย
อย่างเราสะสมความขี้บ่น สะสมความขี้บ่นไว้ บ่นทุกวันๆ พอแก่บ่นเก่งติดอันดับโลกเลย เราทำของตัวเราเอง ทำไมใจมันหงุดหงิดเก่ง ทำไมใจมันขี้บ่นอะไรอย่างนี้ ก็เพราะเราสะสมของเราเอง
ทำไมใจบางคนมันเย็น วันๆ คิดแต่เรื่องสร้างคุณงามความดี เสียสละอะไรอย่างนี้ ก็เพราะเขาฝึกของเขามาอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นใจเราที่มันเปลี่ยนแปลงไปอะไรนี่ อย่าไปโทษคนอื่นเลย โทษตัวเอง
เรียนรู้อยู่ที่ตัวเองนี้ล่ะให้แจ่มแจ้ง เข้าใจจิตใจตัวเองก็จะเข้าใจชีวิตของตัวเอง เข้าใจสิ่งที่แวดล้อมชีวิตของเราอยู่ ครอบครัวเราอย่างนี้แวดล้อมเราอยู่ ที่ทำงานเรา เพื่อนร่วมงานเราแวดล้อมเราอยู่อีกชั้นหนึ่ง สังคมข้างนอกก็แวดล้อมเราอยู่อีกชั้นหนึ่ง สังคมระหว่างประเทศก็แวดล้อมเราอยู่อีกชั้นหนึ่ง
ถ้าชั้นในสุดก็คือที่จิตของเราเอง เขยิบกว้างออกมาก็มีที่กายด้วย ที่จิตด้วย กว้างกว่านั้นก็เป็นครอบครัว เป็นสังคม เป็นชั้นๆ ไป
เรียนจากแกนกลางของมัน เรียนรู้อยู่ที่จิตได้ง่ายที่สุดเลย ถ้าเมื่อไรเห็นว่าจิตไม่ใช่ตัวเรา โลกทั้งโลกมันก็ไม่เป็นตัวเราหรอก
ง่ายๆ เฝ้ารู้เฝ้าดูไป แล้วการที่จะเห็นว่าจิตไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่นึกเอา แต่ดูของจริงเอา จิตใจมันเป็นตัวเรา เป็นของเราจริงไหม เฝ้ารู้เฝ้าดูลงไป
จิตมีแต่ของเกิดดับ
จิตสุขเกิดแล้วดับ จิตทุกข์เกิดแล้วดับ
จิตที่เป็นกุศลเกิดแล้วดับ
จิตโลภ โกรธ หลงเกิดแล้วก็ดับ
เฝ้ารู้ลงไปเรื่อยๆ แล้วจะเห็นอีก
จิตจะสุขหรือจิตจะทุกข์ จิตจะดีหรือจิตจะชั่ว
สั่งไม่ได้ ห้ามไม่ได้ บังคับไม่ได้ นี้เรียกเห็นอนัตตา
เรียนรู้อยู่เท่านี้ล่ะ รู้ อ่านจิตอ่านใจของตัวเอง
ขั้นแรกก็รู้ว่ามีสภาวะอะไรเกิดขึ้น
ขั้นต่อมาก็เห็นเลยว่าสภาวะทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
1
ถ้าดูจิตดูใจ ในไตรลักษณ์มันจะมี 2 ตัวที่เด่นสำหรับคนทั่วๆ ไป คืออนิจจังกับอนัตตา
1
อย่างเราเห็นจิตสุขเกิดแล้วก็ดับ จิตทุกข์เกิดแล้วก็ดับ
จิตดี จิตชั่วเกิดแล้วดับ อันนี้เห็นอนิจจัง
เราเห็นว่าจิตสุข จิตทุกข์ จิตดี จิตชั่ว
เราสั่งให้เกิดไม่ได้ เราห้ามมันไม่ให้เกิดก็ไม่ได้
เฝ้ารู้เฝ้าดู จะเห็นว่าเราบังคับมันไม่ได้ ควบคุมไม่ได้
นี้เราเห็นอนัตตา
เรียนรู้ลงไปให้มากๆ เรียนรู้ลงที่จิตตัวเองให้มากๆ
แล้วต่อไปมันก็จะเข้าใจ ความเข้าใจมันแจ่มแจ้งขึ้น
กระทั่งจิตยังไม่เป็นตัวเรา
กายมันจะเป็นตัวเราได้อย่างไร
เราค่อยภาวนา เราจะเห็นอย่างนั้นเลยกายเป็นของข้างนอกๆ เป็นเปลือก เป็นถ้ำ เป็นอุโมงค์ เป็นโพรงที่จิตอยู่ข้างใน
กระทั่งจิตซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน กายเป็นบ้าน
เจ้าของบ้านยังไม่ใช่ตัวเราเลย
บ้านจะมาเป็นตัวเราได้อย่างไร เรียนอยู่ที่จิตอย่างนี้ ..."
.
หลวงพ่อปราโมทย์​ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
19 ธันวาคม 2564
ติดตามการถอดไฟล์บรรยายฉบับเต็มจาก :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา