4 เม.ย. 2022 เวลา 12:34 • ประวัติศาสตร์
เก้าอี้และประวัติศาสตร์การนั่งของคนไทย
จิตรกรรมภาพกษัตริย์นั่งบนแท่น
คำว่าเก้าอี้(高椅)เป็นคำยืมภาษาจีน 高 (gāo) แปลว่าสูง 椅 (yǐ) แปลว่าที่นั่ง ซึ่งแปลรวมกันก็หมายถึงที่นั่งสูง
ในสมัยอยุธยานั้นคนไทยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยนิยมนั่งเก้าอี้ ดูได้จากบันทึกของลาลูแบร์ราชทูตจากราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสซึ่งได้เดินทางมาถึงอยุธยา สาธยายถึงเครื่องเรือนของชาวสยามว่า
"เขาไม่ใช้เก้าอี้ หากแต่นั่งกันบนเสื่อกกซึ่งสานละเอียดหรือหยาบๆ ต่างๆ กัน"
และในบันทึกก็มีการเล่าถึงท่านั่งที่นิยมของชาวสยามว่าคือท่านั่งขัดสมาธิ
"กิริยาอย่างเรียบร้อยที่ชาวสยามใช้ในการนั่งนั้น ก็เหมือนกับการนั่งแบบชาวสเปญ กล่าวคือขัดสมาธิและเขามีความชินกับการนั่งแบบนี้ แม้จะมีผู้นำเก้าอี้มาให้นั่ง เขาก็จะนั่งในท่านั้นโดยมีพักที่จะเปลี่ยนเป็นท่าอื่น (คือคงนั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้หาได้ห้อยเท้าลงไม่)"
ทั้งนี้ สาเหตุที่เก้าอี้ไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยคุ้นเคยกับการนั่งบนพื้นเป็นหลัก เก้าอี้หรือที่นั่งจึงมิได้เป็นของที่มีอยู่ในบ้านเรือนทั่วไป ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้มีอำนาจในสังคมที่ดูจะมีสิทธิพิเศษในการวางก้นให้อยู่บนระนาบที่สูงขึ้นมาจากพื้น เพื่อเป็นการประกาศยศถาบรรดาศักดิ์เหนือผู้อื่น ดังเช่นพระมหากษัตริย์ เจ้านาย หรือพระสงฆ์ในอดีต ที่จะนั่งบนแท่น ตั่ง หรืออาสน์ในที่ประชุมชน
ขุนนางสมัยโบราณ
แต่เมื่อล่วงเข้าสู่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงรับวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้ พระราชกรณียกิจแรกสุดของพระองค์ที่เกิดขึ้นทันทีในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2416 คือมีพระราชดำรัสยกเลิกธรรมเนียมการหมอบคลานกับพื้น โดยเปลี่ยนให้ผู้เข้าเฝ้าฯ ยืนเฝ้าฯ แทน ด้วยมีพระราชดำริว่า
“การสิ่งไรที่เปนการกดขี่แก่กันให้ได้ความยากลำบากนั้น ทรงพระราชดำริจะไม่ให้มีแก่ชนทั้งหลายในพระราชอาณาจักรต่อไป”
สิ่งที่รัชกาลที่ 5 ทรงกระทำในครั้งนั้น เสมือนการประกาศการเข้าสู่โลกยุคใหม่ของสยามอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ย่อมมิได้เปลี่ยนได้ง่ายดายรวดเร็วเพราะมีเรื่องราวบันทึกไว้ว่า
"เมื่อราชสำนักเลิกหมอบเฝ้าแลใช้เก้าอี้ในระยะแรกๆ คนไทยยังคงนั่งเก้าอี้ไม่เป็น ผู้หญิงขึ้นไปนั่งพับเพียบ ส่วนชายนั่งสมาธิบนเก้าอี้ จนรัชกาลที่ 5 ต้องมีพระบรมราชโองการแนะนำวิธีการนั่งเก้าอี้ โดยใช้วิธีหย่อนก้นเท่านั้นลงบนเก้าอี้ส่วนขาให้ห้อยลงไป"
อ้างอิงจากบทความ "ประวัติศาสตร์การนั่งจากกรุงศรีฯ-กรุงเทพฯ คนไทยนั่งกันท่าไหน"ของ www.silpa-mag.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา