Cyberpunk: Edgerunners (2022) – สังคมเสื่อมโทรม กับผู้คนเสื่อมทราม
หากช่วงศตวรรษก่อนมีแอนิเมชันสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Akira ที่เป็นส่วนสำคัญของสื่อเนื้อหาแนวไซเบอร์พังก์ และสร้างแรงบันดาลใจต่อแอนิเมชันอื่น ๆ ในภายหลัง ทั้งปรับเปลี่ยนเซ็ตติ้งเรื่องราวไปในรูปแบบต่าง ๆ แต่ส่วนมากจะพูดถึงสังคมที่รุดหน้าหาก แต่ศีลธรรมกับคุณภาพชีวิตของผู้คนที่สวนทางกัน จนมาถึงเกมชื่อดังที่นำเอาแนวเนื้อหานี้มาสร้างเป็นชื่อเกม และถูกดัดแปลงมาเป็นซีรีส์อนิเมะอย่าง Cyberpunk: Edgerunners
Cyberpunk: Edgerunners เล่าเรื่องราวในเมืองอนาคตอย่าง ไนท์ซิตี้ ที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉล, อาชญากรรมและผู้คนที่ต่างหลงใหลในเนื้อโลหะและการปรับแต่งมากกว่าเนื้อหนังมังสา “เดวิด” เด็กข้างถนนที่สูญซึ่งทุกอย่างและพยายามเอาชีวิตรอดจากไนท์ซิตี้ เขาจึงตัดสินใจเลือกเส้นทางในการเป็นเอดจ์รันเนอร์ นักล่ารับจ้างนอกกฎหมายที่เป็นที่รู้จักในอีกชื่อนึงอย่าง “ไซเบอร์พังก์”
ตัวซีรีส์แอนิเมชันมาพร้อมความยาว 10 ตอนถ้วน ด้วยความยาวเฉลี่ยราว ๆ 25 นาที (รวมฉากอินโทรเปิดและฉากเพลงปิด) ทำให้เนื้อหาเล่าออกมาได้ค่อนข้างกระชับและฉับไว จนสามารถดูจบได้ในคืนเดียว อัดแน่นมาด้วยตัวละครหลักชุดใหม่ที่ไม่ได้อิงจากเกม สไตล์งานภาพเปี่ยมสีสันและเทคนิคที่ดูหวือหวาในรูปแบบอนิเมะสองมิติ กับเนื้อหาที่เข้มข้นแต่ไม่ซับซ้อน และความรุนแรงกับเรื่องเพศแบบเต็มเหนี่ยว รวมถึงศัพท์เฉพาะทางในเรื่องที่เกมได้บัญญัติไว้ จนขาจรอาจจะงงเมื่อดูในรอบแรก
ส่วนที่ดีของซีรีส์เรื่องนี้ ก็คือการยกกลิ่นอายจากเรื่องราวของตัวเกม มาปรับใช้เป็นเรื่องราวแอนิเมชั่นได้อย่างไม่ประนีประนอม อีกทั้งยังถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าติดตามและสนุก ทั้งการรังสรรค์สไตล์แอนิเมชัน ที่แม้จะใช้เทคนิคภาพสองมิติ แต่ก็หวือหวาไปด้วยการใช้คู่สีที่ฉูดฉาดกับเทคนิคอื่น ๆ ที่น่าตื่นตา นอกเหนือจากนี้ ซีรีส์ยังมาพร้อมการดุลจังหวะเล่าที่ดี ทั้งการอัดความรุนแรง ความดราม่าระหว่างตัวละคร หรือแม้แต่การเบรกผ่อนจังหวะ หรือกระทั่งการเล่าแบบไม่ลำดับเวลา ตัวซีรีส์ก็ทำออกมาได้อยู่มือมาก ๆ
นอกเหนือจากนี้ ตัวซีรีส์ยังออกแบบและวางเส้นเรื่องของตัวละครได้ดี ทั้งการปูด้วยตัวเอกอย่าง เดวิด ที่เป็นเด็กข้างถนนทั่วไป แต่โชคชะตาจะค่อยผลักเขาเข้าสู่วังวนของเอดจ์รันเนอร์ พร้อมกันนั้น ก็ค่อย ๆ เผยถึงภูมิหลังของตัวละครรอบข้างแต่ละตัวได้อย่างเหมาะเจาะ รวมถึงเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความพลิกผันที่เต็มไปด้วยการห้ำหั่น แย่งชิง กับความวิกลจริตของมนุษย์ที่ดำดิ่ง สวนทางกับยุคสมัยที่เทคโนโลยีกำลังรุดหน้า สมชื่อชั้นเนื้อหาไซเบอร์พังก์ได้ดีอย่างยิ่งยวด
ท่ามกลางสีสันและวิทยาการที่รุดหน้าของเมืองไนท์ซิตี้ คือความทะเยอทะยานของมนุษย์ ที่ล้วนพัฒนาศักยภาพและแย่งชิงความเป็นที่หนึ่ง ทั้งในเชิงธุรกิจและทักษะทางกายภาพ สิ่งที่ซีรีส์นี้ทำให้เห็น คือการที่มนุษย์ล้วนมีเป้าหมายและความบกพร่อง ที่ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย หรือไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวล้ำเพียงใด มนุษย์เหล่านั้นก็กระเสือกกระสนต่างที่จะไขว่คว้าหาความฝันเหล่านั้น และต่างพยายามจะก้าวข้ามความบกพร่องให้ได้
และบางครั้งมนุษย์ก็ล้วนเสพย์ติดในพลังอำนาจ ไม่ว่ามันจะส่งผลร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม หากแต่มันช่วยให้รู้สึกดี หรือแม้แต่ช่วยให้ไปถึงเป้าหมายและกลบข้อบกพร่องนั้นได้ มนุษย์บางคนก็พร้อมจะทำ ถึงแม้บางครั้ง ปลายทางจะไม่สวยหรูเลยก็ตาม
สรุปแล้ว Cyberpunk: Edgerunners คือซีรีส์อนิเมะที่ต่อยอดจากเกมชื่อดังได้ดี ยกกลิ่นอายจากเรื่องราวของตัวเกมมาปรับเป็นแอนิเมชันที่เป็นเอกเทศได้ดีและไม่ประนีประนอม มาพร้อมสไตล์แอนิเมชันสองมิติที่หวือหวากับสีสันที่แสนฉูดฉาด ดุลจังหวะเล่าเรื่องที่ดีน่าติดตาม เรื่องราวที่เข้มข้นแต่ไม่ซับซ้อน อัดมาด้วยความรุนแรงและเครื่องเพศ กับภูมิหลังตัวละครที่น่าเอาใจช่วย จึงทำให้นี่ เป็นหนึ่งในแอนิเมชั่นผู้ใหญ่ที่แนะนำให้ชมมาก ๆ ครับ
4.5 / 5
Cyberpunk: Edgerunners (2022)
Created by Rafał Jaki
Directed by Hiroyuki Imaishi
Written by Masahiko Otsuka & Yoshiki Usa
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
