12 พ.ค. 2023 เวลา 13:00 • การ์ตูน

ตัวร้ายดี ๆ เป็นยังไง - ไคคิ เดชู แห่ง Monogatari (ต่อที่ 1)

Monogatari Series ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลในตำราของผม ซึ่งเรื่องราวของเรื่องนี้หนักไปที่ตัวละคร พูดง่าย ๆ ก็คือ ตัวละครเป็นองค์ประกอบในการดำเนินเรื่อง และหนึ่งในตัวละครที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือ ไคคิ เดชู และผมจะลองถ่ายทอดให้เห็นกันว่า ไคคิเป็นตัวละครที่ดีขนาดไหน หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นตัวละครที่ดีที่สุดในวงการอนิเมะเลยก็ว่าได้
1
ไคคิ เดชู (貝木 泥舟) ปรากฏตัวครั้งแรกในเรื่อง Nisemonogatari หรือ ปกรณัมเท็จ ซึ่งหากจะดู Monotagari ตามลำดับที่เขาแนะนำกัน จะเป็นเรื่องราวลำดับที่สาม ต่อจาก Bakemonogatari และ Kizumonogatari ซึ่งผู้ชมทั่วไปกล่าวหาว่าภาคนี้ด้อยกว่าภาคอื่น ๆ เพียงเพราะว่ามีฉากแปรงฟันในตำนาน แต่ธีมของเรื่องนี้ชัดเจนที่สุด และเป็นการวางหัวใจหลักของเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างดีเยี่ยม
ไคคิ เดชู ใน Nisemonogatari
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นเพราะไคคิ เดชู ชายปริศนาที่ปรากฏตัวอยู่หน้าบ้านรุ่นน้องของอารารากิ โคโยมิ (พระเอกของเรื่อง) ทั้งรูปร่าง หน้าผม และสายตาของชายผู้นี้ตะโกนบอกผู้ชมว่า นี่คือตัวร้าย และเป็นชายที่มีทุกองค์ประกอบตรงกันข้ามกับอารารากิ
NishOisin ผู้เขียนเรื่อง Monogatari เป็นอัฉริยะด้านภาษาญี่ปุ่น อย่างที่รู้กันในวงการ เขาไม่ปล่อยโอกาสที่จะเชื่อมความแตกต่างระหว่างอารารากิและไคคิ ชื่อไคคิเป็นชื่อที่แปลก อย่างที่เซนโจวกาฮาระกล่าว ซึ่งไคคิก็กล่าวถึงเช่นเดียวกัน “คิ” ในชื่อของไคคิหมายความว่า ต้นไม้เฉา และ “กิ” ในชื่ออารารากิ หมายถึงต้นไม้ ซึ่งใช้คันจิตัวเดียวกัน 木 หากอารารากิเป็นตัวแทนของความดี ไคคิเป็นตัวแทนของความชั่วร้าย
ในปมแรกของ Bakemonogatari อารารากิพบกับเซนโจวกาฮาระ และเข้าใจพื้นหลังของปัญหาของเธอ ที่ว่า ครอบครัวของเธอมีปัญหา โดยเฉพาะแม่ของเธอที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิบางอย่างแบบงมงาย จนเซนโจวกาฮาระเองเกือบต้องตกเป็นเหยื่อของการข่มขืน ซึ่งแม่ของเธอเป็นคนทำให้เกิดขึ้น ปมนี้เกิดขึ้นเพราะไคคิเป็นคนหลอกแม่ของตน (อย่างน้อยที่สุดก็เป็นมุมมองของเซนโจวกาฮาระ)
ภาพประกอบอดีตของเซนโจวกาฮาระ ใน Bakemonogatari
แน่นอนว่าการปรากฏตัวของไคคิทำให้เซนโจวกาฮาระอยู่นิ้งไม่ได้ และด้วยความเป็นห่วงแฟนหนุ่มของเธอ จึงจับมัดอารารากิเอาไว้ เพื่อไม่ให้เขาไปยุ่งเกี่ยวกับไคคิ แต่เมื่ออารารากิทราบข่าวว่าน้องสาวคนโตของเขา คาเรน ตกเป็นเหยื่อของไคคิ อารารากิจึงหลุดจากพันธนาการของเซนโจวกาฮาระ ซึ่งเธอก็เข้าใจความรู้สึกของอารารากิ ที่ต้องการช่วยเหลือน้องสาวของตัวเอง
เราจึงพบว่า ไคคิคือคนที่อยู่เบื้องหลังการใช้คำสาปซึ่งเป็นปมของเรื่อง Nadeko Snake องค์ที่ใช้เพลง Meme อย่าง Renai Circulation (เซย์โนะ!) ไคคิกลายเป็นที่อยู่เบื้องหลังปมของบุคคลสำคัญของอารารากิมากถึงสามคน แต่การที่จะเข้าใจธีมของเรื่อง Monogatari ทั้งหมดได้ เราจะต้องหันเข้าสู่นิสัยของพี่น้องตระกูลอารารากิก่อน
Renai Circulation!
ครอบครัวอารารากิประกอบด้วยพี่น้องสามคน อารารากิ โคโยมิ เป็นพระเอกของเรื่อง น้องสาวคนโตชื่อ อารารากิ คาเรน และคนเล็ก อารารากิ ซุกิฮิ พ่อแม่ของทั้งสามทำงานอยู่ในวงการยุติธรรม ทำให้อารารากิ โคโยมิโตมาด้วยความรู้สึกแห่งความยุติธรรมอย่างแข็งกล้า และนิสัยตอนเด็กของโคโยมิทำให้คาเรนมีจิตใจแห่งความยุติธรรมที่หนักแน่นมากกว่าคนพี่เสียอีก
เมื่อข่าวแพร่กระจายเรื่องการหลอกลวงเอาเงินเด็กนักเรียนถึงหูคาเรน เธอไม่นิ่งดูดาย และกระโจนเข้าหาไคคิทันทีด้วยตัวคนเดียว ในเรื่องเล่าย้อนหลังนี้ เรากลับฟังเรื่องราวผ่านมุมมองของคาเรน ที่บรรยายภาพไคคิเป็นคนที่มืดมนอารมณ์ตัวร้าย อยู่ตรงกันข้ามกับความยุติธรรม ซึ่งการดำเนินเนื้อเรื่องผ่านมุมมองผู้เล่าเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในเรื่อง Monogatari
เช่น ฉากแรกที่อารารากิพบไคคิที่หน้าบ้านซุรุกะ เราเห็นไคคิผ่านมุมมองของอารารากิ ซึ่งทำให้เรารับรู้ถึงความรู้สึกของอารารากิที่มองว่าไคคิเป็นตัวร้าย แบบ Final Boss สายตาของไคคิที่อารารากิเห็นบ่งบอกถึงภัยอันตราย ขนาดที่ว่าอารารากิกลับใจไม่ขี่จักรยานตามไคคิไปด้วยซ้ำ
ไคคิ เดชู ผ่านมุมมองของอารารากิ โคโยมิ หน้าบ้านของกัมบารุ ใน Nisemonogatari
เรื่องราวเล่าผ่านมุมมองของอารารากิตลอดทั้ง Bakemonogatari แต่เมื่อพ้น Nisemonogatari เข้าสู่ภาค Monogatgari Second Season เรื่องราวกลับเล่าผ่านมุมมองของตัวละครอื่น ๆ นอกจากอารารากิ และลายละเอียดนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในองค์หนึ่ง นั่นคือ Koimonogatari เรื่องราวเล่าจากปากของไคคิเอง ซึ่งเขาก็เตือนเราไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า อย่างเชื่อทุกสิ่งที่เห็นและได้ยิน เพราะบางทีผมกำลังโกหกคุณอยู่
การโกหกเป็นความสามารถของไคคิในฐานะทักต้มตุ๋นมืออาชีพ เซนโจวกาฮาระยืนยันในข้อเท็จจริงนี้ เราไม่อาจเชื่อได้ว่าสิ่งที่ไคคิพูดเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งตรงกับชื่อเรื่องของภาคนี้ “ปกรณัมเท็จ / Fake Story” ซึ่งเรื่องโกหกย่อมเป็นคุณค่าตรงข้ามกับความยุติธรรม ซึ่งผมในฐานะผู้ศึกษานิติปรัชญาอย่างลึกซึ้ง ขอบอกว่าหนึ่งในความคิดเกี่ยวกับความยุติธรม กล่าวว่า ความยุติธรรมหมายถึงความจริง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคาเรนปะทะกับไคคิ ซึ่งเราคิดว่า ด้วยความเป็นนักสู้ของคาเรน ทั้งสองจะปะทะหมัดกัน แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น เพราะมันไม่ได้มีการปะทะอะไรกันแต่อย่างใด คาเรนกล่าวหาว่าไคคิเป็นปรปักษ์ของความยุติธรรม แต่ไคคิไม่ได้สนใจในเรื่องความยุติธรรมแม้แต่น้อย เขาสนใจอย่างเดียวคือเงิน หากทำอะไรที่ตรงกับความยุติธรรมแล้วได้เงิน เขาก็ทำ ความยุติธรรมหรือไม่ยุติธรรมไม่ใช่เรื่องของเขา เขาสนใจแต่เงินเท่านั้น
ไคคิ เดชู ผ่านมุมมองของอารารากิ คาเรน ใน Nisemonogatari
การปะทะกันยุติอย่างรวดเร็วเมื่อไคคิสาปคาเรนด้วย “ผึ้ง” คาเรนจึงต้องกลับมาอยู่ในความดูแลของอารารากิ และเพื่อนสนิทของเขาอย่างฮาเนะคาว่า เมื่อนั้น ชิโนบุ แวมไพร์คู่บุญของอารารากิปรากฎตัวเป็นและพูดอย่างยืดยาวเป็นครั้งแรกหลังจากเหตุการณ์ใน Kizumonogatari และอธิบายว่า “ผึ้ง” ที่ว่าคืออะไร และอันตรายขนาดไหน แต่มีบางอย่างที่แปลกออกไป ทำให้ผู้ชมเข้าใจพิษภัยของไคคิ
คาเรนเรียกตัวเองว่าเป็นสหายแห่งความยุติธรรม และเป็นปมขององค์ Karen Bee คาเรนเล่นเป็นผู้พิทักษ์ความยุติธรรมแบบเด็กผู้ชาย มีร่างกายที่สูงกว่าพี่ชายตัวเอง ออกกำลังกายและฝึกวิทยายุทธ์อยู่เสมอ เป็นคนที่ร่าเริง สุขภาพแข็งแรง แต่ความคิดเรื่องความยุติธรรมของคาเรนกำลังได้รับบททดสอบอยู่ กับคำถามคลาสสิกในวงการปรัชญา อะไรคือความยุติธรรม
อารารากิ เคเรน
แน่นอนว่าเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบตรงตัว และคาเรนก็ไม่ได้ตอบแบบเจาะจง เพียงแต่ว่า ความยุติธรรมดี ความไม่ยุติธรรมคือไม่ดี ใครที่ทำไม่ได้คือเป็นปรปักษ์ต่อความยุติธรรม และไคคิทำไม่ดี จึงต้องถูกลงโทษโดยผู้พิทักษ์ความยุติธรรม แล้ว อะไรคือดี และอะไรคือไม่ดี อะไรคือมาตรฐานนั้น แน่นอนว่าคาเรนเด็กเกินกว่าจะรู้คำตอบนั้น และอารารากิเข้าใจดีเช่นเดียวกัน
คาเรนยืนยันว่าความยุติธรรมของเธอเป็นความจริง แต่อันที่จริงแล้วมันจริงอย่างนั้นเหรอ สุดท้ายแล้ว ความยุติธรรมที่คาเรนกำลังเล่นด้วยอยู่กันก็เป็นความยุติธรรมปลอม ๆ เท่านั้นเอง เป็นเรื่องโกหก ไม่ต่างอะไรกับไคคิ ซึ่งไคคิก็เตือนไว้ว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรขาวดำเสมอไป ความจริงก็ไม่จริงทั้งหมด โกหกก็ไม่โกหกทั้งหมด
มันไม่ขาวดำชัดเจนอย่างที่คาเรนจินตนาการไว้นั่นเอง อะไรที่ดีก็ดีไม่แท้ อะไรที่เลวก็ไม่เลวไปทั้งหมด มันเป็นสีเทา ๆ
เซนโจวกาฮาระพร้อมกับอารารากิเผชิญหน้ากับไคคิ อารารากิมาเพื่อช่วยคาเรน เซนโจวกาฮาระมาเพื่อจบปมปัญหาที่ค้างคาในใจของตัวเอง
เซนโจวกาฮาระ และ ไคคิ ใน Nisemonogatari
เซนโจวกาฮาระสั่งให้ไคคิหยุดหลอกลวงนักเรียน และออกไปจากเมืองที่พวกเขาอยู่ และห้ามกลับมาอีก ซึ่งไคคิก็ตกลงทันที และขอโทษเธอแบบไม่จริงใจเท่าไหร่ เมื่อเซนโจวกาฮาระไม่ได้แสดงเจตนาให้ไคคิคืนเงินที่หลอกแม่ของเธอไป ไคคิก็ยินดี กล่าวว่า เงินที่ได้มาก็ไม่ได้เยอะ แล้วก็ใช้ไปหมดแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีเงินมากพอจะคืนเธอ ผู้ชมคงจะงงไม่น้อย ไคคิยอมรับข้อตกลงโดยดีและโดยเร็ว แบบไม่คิดสู้แม้แต่น้อย
เมื่อถามเรื่องเกี่ยวกับผึ้งของคาเรน ไคคิกล่าวว่านั่นก็เป็นของปลอม เขาเป็นนักต้มตุ๋น การสร้างของปลอมเป็นเรื่องธรรมดาของเขา ผึ้งนั้นไม่ได้มีอยู่จริง คาเรนได้รับพิษนั้นก็เพียงเพราะว่าเธอคิดว่ามันมีพิษก็เท่านั้นเอง คาเรนจะหายดีในไม่นาน เมื่อไม่มีอะไรจะพูดกันอีก ไคคิก็จากไป ออกจากเมืองนั้นไป และไม่คิดจะกลับมาอีก ทั้งหมดก็เพียงเพราะกลัวกำลังของเซนโจวกาฮาระ
ไคคินั่งกินโดนัท ใน Nisemonogatari
แต่ภาพที่เราเห็นในหน้าจอบอกเราว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น คำพูดของไคคิไม่ได้น่ากลัวอะไรเหมือนที่เราจินตนาการไว้ ก่อนหน้านี้เราเห็นไคคิในเงามืดโดยตลอด แต่มาตอนนี้ไม่ได้มีเงานั้นอยู่ เขาเป็นเพียงชายวัยกลางคนธรรมดาที่ต้มนักเรียนไปวัน ๆ เพื่อหาเงิน ไม่ได้พิเศษอะไร เมื่อถามว่าเขารู้เรื่องเกี่ยวกับ “คาอิ” หรือสิ่งแปลกประหลาดแบบภูตผีหรือไม่ เขาปฏิเสธ
ไคคิบอกว่าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแปลกประหลาดอะไรทั้งนั้น ไม่ได้เชื่อเพราะไม่เคยเห็นสิ่งแปลกประหลาดอย่างผีปีศาจ แต่เขารู้จักคนที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเขาไม่ได้เป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” เหมือนกับคนเหล่านั้น ประโยคเหล่านั้นมันแปลกมาก และแน่นอนว่าเราเชื่อไม่ได้อย่างเต็มปากว่าเขาพูดความจริง เพราะเหนือสิ่งอื่นใด ไคคิเป็นตัวแทนของคำโกหก
มันย้อนแย้ง เพราะไคคิสร้างผึ้งปลอมขึ้นมาเพื่อสาปคาเรน แม้ว่ามันจะเป็นของปลอม แต่มันก็ต้องเลียนแบบของจริง ดังนั้น เขาต้องรู้ว่าของจริงเป็นยังไง หมายความว่า เขาต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับสิ่งแปลกประหลาด ดังนั้น การที่บอกว่าไม่รู้ ก็คือคำโกหกดี ๆ นี่เอง อีกทั้งเรารู้ทีหลังว่าไคคิเป็นเพื่อนร่วมชมรมของโอชิโนะ เมเมะ ที่เป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” และมีส่วนในการสร้างโอโนโนกิ ศพคืนชีพด้วยวิญญาณจำลอง
โอชิโนะ ไคคิ และคาเกะนูอิ แห่งชมรมเรื่องลึกลับ ภาพจริงจาก Nisemonogatari
วิเคราะห์ตัวละครอย่างไคคิ เดชู ในบทเดียวคงจะไม่พอ ขอหั่นเป็นสองบทเลยละกัน
(มีต่อ)
โฆษณา