Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Introverted investor
•
ติดตาม
12 ส.ค. 2023 เวลา 15:35 • ธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)
🟢“One stock per week” [EP.12] : แนะนำหุ้นไทย🟢
✅บริษัท พีซแอนด์ลีฟวิ่ง จำกัด (มหาชน) : [PEACE]
🔥นักพัฒนาอสังหาฯ มุ่งเน้นกลยุทธ์บุกทำเลทองย่านชานเมือง🔥
“PEACE” ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2532 ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย (เน้นแนวราบ : บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม) กลุ่มลูกค้าหลักคือ คนกรุงเทพชั้นกลาง ชั้นนอก และปริมณฑล ที่ต้องการบ้านแนวราบ สามารถเดินทางเข้าออกเมืองได้ง่าย โดยโครงการออกแบบบ้านให้มีีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านสูงและให้บรรยากาศร่มรื่น ตำแหน่งที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ถนนสายหลัก ใกล้ขนส่งสาธารณะ ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเข้าออกเมือง
🟢แบรนด์โครงการปัจจุบัน
🔹 The Glamor Pool Villa Residences : บ้านเดี่ยว ราคาขาย 26 – 30 ล้านบาท (รายได้เฉลี่ยกลุ่มลูกค้า 300,000 บาท+) กลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้บริหารระดับสูง ต้องการบ้านเดี่ยวเพื่อขยายครอบครัว ที่ใส่ใจด้านการออกแบบและความสวยงาม
🔹 Cherene : บ้านเดี่ยว ราคาขาย 7 – 25 ล้านบาท (รายได้เฉลี่ยกลุ่มลูกค้า 90,000 - 300,000 บาท) กลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานที่เป็นพนักงานบริษัท เจ้าของธุรกิจขนาดกลาง เล็ก ต้องการที่อยู่อาศัยเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวสูง
🔹 Cordiz : ทาวน์โฮม ราคาขาย 6 – 8 ล้านบาท (รายได้เฉลี่ยกลุ่มลูกค้า 80,000 บาท+) กลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานที่เป็นพนักงานบริษัท เจ้าของธุรกิจขนาดกลาง เล็ก ที่ต้องการสร้างครอบครัวใหม่ขนาดเล็ก
🔹 Cher : ทาวน์โฮม ราคาขาย 2 – 4 ล้านบาท (รายได้เฉลี่ยกลุ่มลูกค้า 35,000 บาท+) กลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานที่ต้องการแยกออกมาจากครอบครัวใหญ่ หรือสร้างครอบครัวใหม่
แบรนด์โครงการในอนาคต
🔹 Cherea Vicinity : Mixed Product ราคาขาย 3.5 – 15 ล้านบาท (รายได้เฉลี่ยกลุ่มลูกค้า 30,000 – 250,000 บาท) กลุ่มเป้าหมายคือ วัยทำงานที่ต้องการอยู่อาศัยภายในโครงการที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางรองรับอย่างเพียงพอ
🟢โครงสร้างรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ (เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง)
🔹 Cher : 68%
🔹 Cordiz : 19%
🔹 The Glamor : 12%
✴รายได้รวมเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง = 1,300 ล้านบาท (เติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปี)
🟢โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (ก่อสร้าง ขาย และโอนกรรมสิทธิ์)
🔹 CORDIZ at Udomsuk (พระโขนง) : ทาวน์โฮม 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 6.9 ล้านบาทต่อยูนิต)
🔹 CHER วัชรพล (สายไหม) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 397 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 2.9 ล้านบาทต่อยูนิต)
🔹 CHER งามวงศ์วาน-ประชาชื่น (นนทบุรี) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,051 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อยูนิต)
🔹 THE GLAMOR เอกมัย-ประดิษฐ์มนูธรรม (วังทองหลาง) : บ้านเดี่ยว pool villa 3 ชั้น มูลค่าโครงการ 514 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 28.5 ล้านบาทต่อยูนิต)
🔹 CHER สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา (ทุ่งครุ) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 869 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 3.6 ล้านบาทต่อยูนิต)
🔹 CHER บางขุนนนท์ (บางกอกน้อย) : ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น มูลค่าโครงการ 929 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 4.58 ล้านบาทต่อยูนิต)
🔹 CHERENE กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า (ลาดกระบัง) : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 753 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 7 – 12 ล้านบาทต่อยูนิต)
🟢โครงการในอนาคต (อยู่ระหว่างโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน พัฒนาสาธารณูปโภค และก่อสร้าง)
🔹 CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์-เจษฎาบดินทร์ (นนทบุรี) : บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,845 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 3.5 - 15 ล้านบาทต่อยูนิต) [เปิดขาย Q2/2023]
🔹 CHER ราชพฤกษ์-พระราม 5 (นนทบุรี) : ทาวน์โฮม 2 ชั้น มูลค่าโครงการ 552 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 3.5 – 4.5 ล้านบาทต่อยูนิต) [เปิดขาย Q3/2023]
🔹 CHERENE พหล-วัชรพล (พหลโยธิน) : บ้านเดี่ยว มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 10 - 25 ล้านบาทต่อยูนิต) [เปิดขาย Q1/2024]
🔹 CHER เวสต์วิลล์ ราชพฤกษ์ (นนทบุรี) : ทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท (ราคาขายเฉลี่ย 3.6 – 4.5 ล้านบาทต่อยูนิต) [เปิดขาย Q2/2024]
🟢รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่
👤 ครอบครัวศิริโสภณา : 31% (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ)
👤 ภัทร ศรีวิไล : 6%
👤 ชุมพล พรประภา : 5% (กรรมการ)
👤 ดวงพร ปัญวณิช : 3%
👤 สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล : 3%
👤 ทองคำ รัตนชัยพานิช : 3%
🟢การซื้อขายหุ้นของบริษัทตนเอง (PEACE) ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
🔹 ครอบครัวศิริโสภณา (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ) : ซื้อหุ้นเพิ่ม 1,925,600 หุ้น
🔹 สุเมธ เตชะไกรศรี (ประธานกรรมการ) : ซื้อหุ้นเพิ่ม 1,524,000 หุ้น
🔹 วิฑูร งามบุญอนันต์ (กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ) : ซื้อหุ้นเพิ่ม 1,400,000 หุ้น
🔹 พิสิฐ ปัญจคุณาภรณ์ (กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ) : โอนหุ้น 2,000,000 หุ้น / ซื้อหุ้นเพิ่ม 822,600 หุ้น
🔹 ชุมพล พรประภา (กรรมการ) : ซื้อหุ้นเพิ่ม 204,100 หุ้น
🔹 นามสกุลรุ่งรัศมีโชติ (รองกรรมการผู้จัดการสายงานจัดหาที่ดินและงานนิติกรรม) ซื้อหุ้นเพิ่ม 20,000 หุ้น
🟢คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ (MD&A) ไตรมาสที่ 2 : งวด 6 เดือน
💸 รายได้รวม : 643 ล้านบาท ลดลง 32% (จากการโอนกรรมสิทธิ์ช่วงท้ายโครงการที่ลดลง)
💸 ต้นทุนและค่าใช้จ่าย : 482 ล้านบาท ลดลง 30% (ลดลงน้อยกว่ารายได้ จากการเพิ่มขึ้นของค่าโฆษณาโครงการใหม่ และค่าจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีบุคลากรเยอะขึ้น)
💸 กำไรขั้นต้น : 274 ล้านบาท ลดลง28%
💸 กำไรสุทธิ : 129 ล้านบาท ลดลง 38% (จากการลดลงของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์)
🟢เป้าหมายการเติบโต และความคิดเห็นจากผู้บริหาร
📣 รายได้รวมเติบโตเป็น 2 เท่าจากปี 2021 ภายใน 3 ปี (2024) และเติบโตเป็น 3 เท่าภายใน 5 ปี (2026) ซึ่งรายได้รวมปี 2021 = 1,167 ล้านบาท : (2024 = 3,000 ล้านบาท / 2026 = 5,000 ล้านบาท)
📣 ยอด Backlog เมื่อ Q3/2022 = 730 ล้านบาท
📣 มีเป้าหมายบริหารจัดการหนี้สินต่อทุน (D/E) ให้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรวมของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาด
🟢ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม
🔹 ต้นปี 2022 : “PEACE” เริ่มต้นจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นไทย
🔹 ต้นปี 2022 : จ่ายปันผลเป็นหุ้น ในอัตรา 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นการจ่ายปันผล 0.40 บาทต่อหุ้น
🔹 กลางปี 2022 : เงินที่ได้รับจากการ IPO หุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 314 ล้านบาท ถูกใช้หมดทั้งก้อนแล้ว จากการลงทุนซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์
🔹 ปลายปี 2022 : มีการเปลี่ยนแปลงเลขานุการบริษัท
🔹 กลางปี 2023 : มีการเปลี่ยนแปลงผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี (ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการเงิน)
🔹 กลางปี 2023 : จ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท
🔹 ผู้บริหาร PEACE เป็นอดีตกลุ่มผู้บริหารปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
🟢ความเสี่ยงจากการประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
🔺 อุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูง : มีผู้ประกอบการในตลาดหลายราย และลักษณะผลิตภัณฑ์สามารถทดแทนกันได้
🔺 การจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในอนาคต : การแย่งซื้อที่ดินของผู้ประกอบการแต่ละราย มีความเสี่ยงทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้น หรือไม่สามารถซื้อที่ดินในทำเลที่ต้องการได้
🔺 ความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้างและแรงงาน : วัสดุก่อสร้างหลักคือ เหล็ก ปูนซีเมนต์ อิฐ จะมีราคาอ้างอิงกับตลาดโลก ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานผู้รับเหมาก่อสร้าง ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น
🔺 การขาดแคลนผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้รับเหมาทำงานไม่ได้คุณภาพ หรือไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด
🟢แนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ (ปี 2023 - 2025)
▶ เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5% ต่อปี ในช่วงปี 2023 – 2025 ความผันผวนของตลาดการเงิน ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีนที่อาจเติบโตต่ำกว่าคาด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ-จีน และความพยายามจัดตั้งรัฐบาลไทยหลังเลือกตั้ง ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าติดตาม
▶ การลงทุนก่อสร้างภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 4% ต่อปี โดยเฉพาะการขยายตัวของที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าและเส้นทางคมนาคมสายใหม่ๆ
▶ ราคาวัสดุก่อสร้างในภาพรวมยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ความต้องการใช้เหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณมีแนวโน้มเติบโต 5 – 6% ต่อปี และราคายังคงทรงตัวในระดับสูง
▶ ยอดขายตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 3 – 5% ต่อปี โดยมีปัจจัยหนุนจากโครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกมากขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว การแก้ไขกฎหมายให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยกดดันจากราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาพลังงานทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และหนี้ครัวเรือน
▶ การเปิดตัวโครงการใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 – 8% ต่อปี โดยเฉพาะโครงการบ้านแนวราบ เพื่อรองรับกลุ่ม Real demand ที่มีกำลังซื้อ ส่วนคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัวโดยเฉพาะทำเลท่องเที่ยว บริเวณรอบสถาบันการศึกษา และนิคมอุตสาหกรรม
🟢ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์
🔘 P/E เฉลี่ยปี 2019 – 2020 ของ PEACE = 6 เท่า
🔘 P/E เฉลี่ยอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย = 8 เท่า
🔘 P/E ของ PEACE ณ ปัจจุบัน = 6 เท่า
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
หุ้น
การลงทุน
ธุรกิจ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
🟢“One stock per week” : แนะนำหุ้นไทย🟢
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย