Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Introverted investor
•
ติดตาม
17 ก.ย. 2023 เวลา 05:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)
🟢“One stock per week” [EP.13] : แนะนำหุ้นไทย🟢
✅ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) : [LH]
🏘หากกล่าวถึงรุ่นใหญ่ หรือผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” คงเป็นอีกชื่อในลำดับต้นๆ ที่โผล่ขึ้นมาในใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยนี้ หรือย้อนกลับไปจนถึงผู้คนในรุ่น ‘Baby boomer’ ก็ตาม
รู้หรือไม่ว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่าง “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” หรือ “LH” ในปัจจุบันนี้ พวกเขาไม่ได้มีรายได้มาจากการสร้างหมู่บ้านจัดสรรเพื่อขายแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ‘LH’ มีรายได้ซึ่งมีนัยสำคัญมาจากทั้งธุรกิจโรงแรม วัสดุก่อสร้าง ค้าปลีกอุปกรณ์เครื่องใช้เกี่ยวกับบ้าน และธุรกิจธนาคาร ไปจนถึงการเป็นที่ปรึกษาทางการลงทุนเลยทีเดียว
🏢แน่นอนว่า ‘LH’ ไม่ได้ทำธุรกิจทุกอย่างที่กล่าวมาด้วยตัวเองเพียงคนเดียว และนี่คือข้อดีของระบบตลาดทุน พวกเขาหารายได้มหาศาลจากช่องทางอื่นด้วยวิธีการกระจายเม็ดเงินเพื่อเข้าถือครองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ระดับหลายพันล้าน ไปจนถึงระดับแสนล้านบาทเลยทีเดียว จากข้อมูล ณ ปัจจุบัน ‘LH’ มีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยถึง 4 บริษัทด้วยกัน (ส่วนใหญ่ก็เป็นบริษัทในเครือข่ายของเขานั่นแหล่ะ)
✴‘บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) : Q-CON’
‘LH’ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 21% ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายคอนกรีตมวลเบา อิฐบล็อก คานทับหลังสำเร็จรูป แผ่นผนัง แผ่นพื้น และแผ่นบันได ซึ่งเป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจาก ‘LH’ นั่นเอง ปัจจุบัน ‘Q-CON’ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 5,700 ล้านบาท
✴‘บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) : LHFG’
‘LH’ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 22% เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน โดยถือหุ้นอยู่ในธุรกิจธนาคาร ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ปัจจุบัน ‘LHFG’ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท
✴‘บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) : QH’
‘LH’ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 25% ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายและให้เช่า (เป็นอีกหนึ่งบริษัทอสังหาฯไทยที่เราน่าจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง) ปัจจุบัน ‘QH’ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 25,000 ล้านบาท
✴‘บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) : HMPRO’
‘LH’ มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 30% ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคาร บ้าน และที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร (ทุกคนน่าจะรู้จัก และเคยใช้บริการกันมาบ้าง) ปัจจุบัน ‘HMPRO’ มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 180,000 ล้านบาท
📣ลองดูกันสิครับว่าอาณาจักรนี้ยิ่งใหญ่เพียงใด กลับมาที่ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ธุรกิจหลักของพวกเขานั้นมุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่พักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา และภูเก็ต
ด้วยกลยุทธ์โครงการ “สร้างบ้านเสร็จก่อนขาย” น่าจะเป็นรายแรกในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเพราะไม่เคยมีมาก่อน และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดีตลอดมา จนบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมต้องปรับตัวและกลายเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน
(สัดส่วนการเปิดโครงการใหม่และโครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จในปัจจุบัน = กรุงเทพฯ ปริมณฑล : 63%, ต่างจังหวัด : 37%)
🟢ส่วนแบ่งทางการตลาดของ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ในประเทศไทย
🏡บ้านเดี่ยว : 12%
🏡บ้านแฝด : 18%
🏡ทาวน์โฮม : 7%
🏡คอนโดมิเนียม : 2%
นอกจากนั้น “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ยังดำเนินธุรกิจอสังหาฯให้เช่าทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งในไทยเน้นไปที่ธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ ‘Grande Centre Point’ และศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์ ‘Terminal 21’
ส่วนธุรกิจอสังหาฯในต่างประเทศจะเป็นประเภทอะพาร์ตเมนต์และโรงแรมในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีกลยุทธ์การจำหน่ายสินทรัพย์เหล่านั้นออกไปหากสามารถสร้างกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น
🟢โครงสร้างรายได้รวมเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังของ “แลนด์แอนด์เฮ้าส์”
💵บ้านเดี่ยว : 68%
💵ทาวน์เฮ้าส์ : 10%
💵คอนโดมิเนียม : 9%
💵ค่าเช่าและค่าบริการ : 9%
💵รายได้อื่น : 3%
💵ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม : 8%
🟢ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในประเทศไทย
แบรนด์โครงการที่เปิดใหม่ในปี 2023 (17 โครงการ) รวมมูลค่าโครงการ 35,000 ล้านบาท (3,100 หน่วย ราคาเฉลี่ย 11 ล้านบาทต่อหลัง) และมีโครงการคงค้าง ณ สิ้นปี 2022 ที่ยกมาดำเนินการต่ออีก 70 โครงการ มูลค่ากว่า 56,000 ล้านบาท
🔸‘บ้านเดี่ยว’ : ชัยพฤกษ์, มัณฑนา, VIVE, Villaggio, พฤกษ์ลดา
🔸‘บ้านแฝด’ : inizio
🔸‘ทาวน์เฮ้าส์’ : Villaggio
🔸‘คอนโดมิเนียม’ : The Key, The Room
🟢ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า รวมมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท
🔸‘โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์พอยต์’ : เพลินจิต, ราชดำริ, ราชดำริ 2, เทอร์มินอล 21, สุขุมวิท 55, พัทยา, สุรวงศ์, ลุมพินี
🔸‘โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์พอยต์ สเปซ’ : พัทยา
🔸‘ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21’ : พระราม 3, พัทยา
🟢โครงการในสหรัฐอเมริกา รวมมูลค่ากว่า 412 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
🔸‘อะพาร์ตเมนต์’ : Parc, California / Yard, Oregon / Revere, California
🔸‘โรงแรม’ : SpringHill, California
🟢กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่
🚻‘ครอบครัว อัศวโภคิน’ : 24% (กรรมการ)
🚻‘NVDR’ : 16%
🚻‘บริษัท เมย์แลนด์ จำกัด’ : 6%
🚻‘THE BANK OF NEW YORK MELLON’ : 3%
🚻‘สำนักงานประกันสังคม’ : 3%
🚻‘STATE STREET EUROPE LIMITED’ : 2%
🚻‘SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED’ : 2%
🚻‘เพียงใจ หาญพาณิชย์’ : 1%
🚻‘กิตติพล ทวนทอง’ : 1%
🚻‘กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นระยะยาว’ : 1%
🟢เป้าหมายการเติบโตในอนาคต และความคิดเห็นจากผู้บริหาร
📈ผู้บริหารวางเป้าหมายยอดขาย (Presale) ณ สิ้นปี 2023 = 35,000 ล้านบาท
📈‘กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ แอล เอช โฮเทล’ จะเข้าลงทุนในโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ (พัทยา) และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ (พัทยา) อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไข มูลค่าสูงสุดประมาณ 9,800 ล้านบาท ‘LH’ น่าจะมีกำไรขั้นต้นจากดีลนี้ประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาท
📈Backlog ณ ปัจจุบัน = 2,400 ล้านบาท คาดว่าส่วนนี้จะรับรู้รายได้ภายในครึ่งปีหลังของปี 2023 (ครอบคลุมเป้าหมายยอดโอนของบริษัทในปีนี้ประมาณ 37%)
📈ถอดโครงการคอนโดมิเนียม ‘The Key : ศรีนครินทร์’ มูลค่า 6,500 ล้านบาท ออกจากแผนการเปิดตัวโครงการในปีนี้ จากนั้นเพิ่มโครงการใหม่เข้ามาแทนคือ ‘วันเวลา ณ เจ้าพระยา : สามเสน’ มูลค่า 8,500 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าการเปิดโครงการใหม่ในปี 2023 ขยับมาอยู่ที่ประมาณ 43,500 ล้านบาท คาดว่าการเปิดโครงการใหม่กว่า 80% จะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง
🟢ข้อมูลเพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์
💰P/E เฉลี่ยอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย = 7 – 8 เท่า
💰P/E เฉลี่ยของ LH (5 ปีย้อนหลัง) = 13 – 14 เท่า
💰P/E ณ ปัจจุบัน = 14 เท่า
💰รายได้รวมเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 32,000 ล้านบาท
💰กำไรสุทธิเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 7,600 ล้านบาท
🟢ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไทย
▶ เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 3.5% ต่อปี ในช่วงปี 2023 – 2025 ความผันผวนของตลาดการเงิน ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจจีนที่อาจเติบโตต่ำกว่าคาด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ-จีน
▶ การลงทุนก่อสร้างภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 4% ต่อปี โดยเฉพาะการขยายตัวของที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าและเส้นทางคมนาคมสายใหม่ๆ
▶ ราคาวัสดุก่อสร้างในภาพรวมยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ความต้องการใช้เหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณมีแนวโน้มเติบโต 5 – 6% ต่อปี และราคายังคงทรงตัวในระดับสูง
▶ ยอดขายตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 3 – 5% ต่อปี โดยมีปัจจัยหนุนจากโครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกมากขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัว การแก้ไขกฎหมายให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านพร้อมที่ดินได้ แต่ก็ยังมีปัจจัยกดดันจากราคาวัสดุก่อสร้าง และราคาพลังงานทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และหนี้ครัวเรือน
▶ การเปิดตัวโครงการใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 – 8% ต่อปี โดยเฉพาะโครงการบ้านแนวราบ เพื่อรองรับกลุ่ม Real demand ที่มีกำลังซื้อ ส่วนคอนโดมิเนียมเริ่มฟื้นตัวโดยเฉพาะทำเลท่องเที่ยว บริเวณรอบสถาบันการศึกษา และนิคมอุตสาหกรรม
🔗ด้วยความที่หุ้นกลุ่มอสังหาฯ ผลิตสินค้าซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต โครงสร้างธุรกิจไม่ซับซ้อนมากนัก เข้าถึงได้ง่าย เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่จึงมักได้รับการกระตุ้นหรือได้รับการช่วยเหลือจากนโยบายภาครัฐ หากเทียบอัตราส่วนทางการเงินอาจเรียกได้ว่าหุ้นกลุ่มอสังหาฯนั้นมีราคาถูกกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นและจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงกว่า (ซึ่งเป็นธรรมชาติของธุรกิจกลุ่มนี้ในตลาดหุ้นไทย โปรดศึกษาเพิ่มเติม)
ด้วยเหตุนี้จึงน่าสนใจที่จะลองพิจารณาหุ้นกลุ่มนี้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดสรรพอร์ตการลงทุนภาพรวมเพื่อลดความผันผวนและสร้างกระแสเงินสดเพิ่มเติมครับ
⭕ บทความนี้เป็นเพียงการรวบรวมและนำเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพจากรายงานประจำปีของบริษัทและข้อมูลข่าวสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไป ไม่มีเจตนาในการชี้นำ เชิญชวน โน้มน้าว ให้เกิดการลงทุน ซื้อหรือขายหลักทรัพย์แต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้ความรู้และความเข้าใจ เพื่อกำหนดเส้นทางการลงทุนของตนเอง
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
ธุรกิจ
หุ้น
การลงทุน
2 บันทึก
3
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
🟢“One stock per week” : แนะนำหุ้นไทย🟢
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย