31 ต.ค. 2023 เวลา 02:00 • สุขภาพ

เป็นเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไรบ้าง?

โรคเก๊าท์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดเฉียบพลันและรุนแรง บวม และอักเสบบริเวณข้อต่อโดยเฉพาะนิ้วหัวแม่เท้า โรคเก๊าท์เกิดจากระดับกรดยูริกในเลือดสูง ซึ่งทำให้กรดยูริกก่อตัวเป็นผลึกในข้อและกระตุ้นการอักเสบ กรดยูริกเป็นของเสียที่ขับออกทางไตตามปกติ แต่บางคนผลิตมากเกินไปหรือมีปัญหาในการกำจัดออก จนทำให้มีปัญหาโรคเก๊าท์ตามมา
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคเก๊าท์ ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรม โรคอ้วน ยาบางชนิด และการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้คือ อาหาร อาหารบางชนิดสามารถเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือดและทำให้อาการของโรคเก๊าท์แย่ลง ดังนั้น ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดอาหารดังต่อไปนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรักษาและป้องกันการกำเริบของโรค
ตามแนวทางเวชปฏิบีติทางการแพทย์ อาหารบางอย่างที่ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัด ได้แก่
1. เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดงและเครื่องในสัตว์ (เช่น ตับ ไต และหัวใจ) มีปริมาณสารพิวรีนสูง ซึ่งเป็นสารที่สลายตัวเป็นกรดยูริกในร่างกาย ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรจำกัดการบริโภคเนื้อสัตว์ไม่เกิน 4 ถึง 6 ออนซ์ (113 ถึง 170 กรัม) ต่อวัน และควรหลีกเลี่ยงเนื้อแปรรูป (เช่น เบคอน ไส้กรอก และแฮม) ซึ่งมีเกลือและสารเติมแต่งสูง ซึ่งสามารถทำให้การอักเสบแย่ลงได้
(***ข้อสังเกต เนื้อไก่ เป็นเนื้อสัตว์ที่มีสารพิวรีนระดับปานกลาง ยังสามารถรับประทานได้ แต่ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปเช่นกัน***)
2. อาหารทะเล โดยเฉพาะสัตว์ที่มีเปลือกแข็งหุ้ม เช่น กุ้ง กั้ง ปู และหอยเชลล์ มีปริมาณพิวรีนสูงและสามารถกระตุ้นอาการเก๊าท์ได้ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรจำกัดการบริโภคอาหารทะเลเหล่านี้ และควรหลีกเลี่ยงปลาไส้ตัน ซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริง ปลาแม็คเคอเรล และปลาทูน่า ซึ่งมีปริมาณพิวรีนสูงมากและสามารถเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือดได้อย่างมาก
3. แอลกอฮอล์ สามารถรบกวนการขับกรดยูริกออกทางไตและเพิ่มการผลิตกรดยูริกโดยตับ นอกจากนี้อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการก่อตัวของผลึกกรดยูริกในข้อต่อได้ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในช่วงที่อาการกำเริบ และควรหลีกเลี่ยงเบียร์ ซึ่งมีปริมาณพิวรีนสูงและสามารถทำให้อาการของโรคเก๊าท์แย่ลงได้
หากเลือกดื่มแอลกอฮอล์ ควรเลือกดื่มไวน์หรือสุราในปริมาณที่พอเหมาะ (ไม่เกินหนึ่งแก้วต่อวันสำหรับผู้หญิง และสองแก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย) และควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
4. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น โซดา น้ำผลไม้ เครื่องดื่มกีฬา หรือเครื่องดื่มใส่น้ำตาล มีปริมาณสารฟรุกโตสสูง ซึ่งเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือด ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเลือกดื่มน้ำหรือนมพร่องมันเนยแทน และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูง (ช่น ขนมหวาน ขนมอบ และไอศกรีม ซึ่งมีผลคล้ายคลึงกัน
5. อาหารที่อุดมไปด้วยยีสต์หรือมีสารสกัดจากยีสต์ เช่น ขนมปัง ขนมอบ คุ๊กกี้ แป้งพิซซ่า เบียร์ ไวน์) มีปริมาณพิวรีนสูงและสามารถเพิ่มระดับกรดยูริกได้ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดอาหารเหล่านี้และเลือกผลิตภัณฑ์จากธัญพืชเต็มเมล็ดแทน
การหลีกเลี่ยงหรือจำกัดอาหารเหล่านี้ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์สามารถลดระดับกรดยูริกและลดความถี่และความรุนแรงของการกำเริบของโรคเก๊าท์ อย่างไรก็ตาม อาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะควบคุมโรคเก๊าท์ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อลดระดับกรดยูริกและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
นอกจากนี้ยังควรควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำเยอะๆ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ โดยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อข้อต่อในระยะยาวได้
อ้างอิง
(1) Gout Treatment Guidelines | Arthritis Foundation. https://www.arthritis.org/diseases/more-about/gout-treatment-guidelines.
(2) Management of Gout: Update from the American College of Rheumatology - AAFP. https://www.aafp.org/pubs/afp/issues/2021/0800/p209.html.
(4) Overview | Gout: diagnosis and management | Guidance | NICE. https://www.nice.org.uk/guidance/ng219.
(5) Gout | CDC - Centers for Disease Control and Prevention. https://www.cdc.gov/arthritis/types/gout.html.
โฆษณา