23 ก.ค. เวลา 17:25 • ธุรกิจ
Exotic Food PCL HQ

🟢“One stock per week” [EP.17] : แนะนำหุ้นไทย🟢

✅ “บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน)” : [XO]
🥇เบอร์ 1 ผู้ส่งออก “ซอสพริกศรีราชา” ของประเทศไทย และเป็นเบอร์ 2 ในตลาดซอสพริกศรีราชาโลก
🔥เราจะทวงคืนคำว่า “ซอสพริกศรีราชา” กลับมาเป็นของคนไทย🔥
ปัจจุบัน “หุ้น XO” หรือ “เอ็กโซติค ฟู้ด” คือผู้ผลิตและจำหน่ายซอสปรุงรส น้ำจิ้ม อาหารพร้อมปรุง เพื่อส่งออกไปขายต่างประเทศเป็นหลัก นับเป็นสัดส่วนรายได้มากกว่า 99% (ในไทยยังพอหาซื้อได้บางผลิตภัณฑ์ตามช่องทางออนไลน์ของบริษัท) พวกเขามีผลิตภัณฑ์มากกว่า 700 SKU และส่งออกไปยัง 60-70 ประเทศทั่วโลก
“XO” มุ่งเน้นกลยุทธ์เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า เช่นมีผลิตภัณฑ์ทุกประเภทพร้อมให้เลือกสรรในที่เดียว ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากประเทศไทย บรรจุภัณฑ์อันโดดเด่น “พวกเขาต้องการเป็นแบรนด์แรกในใจลูกค้า เมื่อนึกถึงอาหารไทย” (กล่าวคือขายซอสไทย รสชาติฝรั่งนั่นเอง)
🌈แบรนด์สินค้าหลักๆคือ Exotic food, Thai pride และ Flying goose
⭐โครงสร้างรายได้/ยอดขาย (เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง)
🔹“ซอสปรุงรส น้ำจิ้ม” : 86% (น้ำจิ้มไก่ ซอสพริก น้ำจิ้มสุกี้ น้ำสลัด น้ำจิ้มบ๊วย ซอสถั่วเหลือง ฯลฯ)
🔹“เครื่องปรุงแกง” : 8% (กะทิ พริกแกง เครื่องปรุงต้มยำ มะขามเปียก ฯลฯ)
🔹“อาหารกึ่งสำเร็จรูป” : 5% (สินค้าในน้ำมันและน้ำเกลือ ผลไม้กระป๋อง ฯลฯ)
🔹“อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน” : 1%
⭐หากแบ่งโครงสร้างรายได้ของ XO ตามพื้นที่ส่งออก ณ สิ้นปี 2023 จะเห็นภาพดังนี้
🔹ยุโรป : 64%
🔹อเมริกา : 23%
🔹ออสเตรเลีย : 7%
🔹อื่นๆ : 6%
⭐ปัจจุบัน XO มีโรงงานผลิต 2 แห่ง รวมถึงคลังสินค้าและโรงงานดองพริกที่ จ.พิษณุโลก อีก 1 แห่ง
🏠โรงงานผลิตแห่งที่ 1 ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ชลบุรี (เนื้อที่ 6.3 ไร่) มีกำลังการผลิตดังนี้
🔹“ซอส น้ำจิ้ม” มีกำลังการผลิตทั้งหมด 6,064 ตัน/ปี (ณ สิ้นปี 2023 ใช้กำลังการผลิตไป 65%)
🔹“เครื่องปรุงแกง” มีกำลังการผลิตทั้งหมด 3,135 ตัน/ปี (ณ สิ้นปี 2023 ใช้กำลังการผลิตไป 50%)
🔹“อาหารสำเร็จรูป” มีกำลังการผลิตทั้งหมด 711 ตัน/ปี (ณ สิ้นปี 2023 ใช้กำลังการผลิตไป 35%)
🏠โรงงานผลิตแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง (เนื้อที่ 12.76 ไร่) มีกำลังการผลิตดังนี้
🔹“ซอส น้ำจิ้ม” มีกำลังการผลิตทั้งหมด 16,928 ตัน/ปี (ณ สิ้นปี 2023 ใช้กำลังการผลิตไป 135%) น่าจะเรื่อง ‘Economy of scale’ เครื่องจักรทันสมัยกว่า สามารถเพิ่มชั่วโมงการทำงาน คุ้มค่ากว่าไปใช้กำลังการผลิตส่วนเหลือที่โรงงานชลบุรี)
🏠แถม XO ยังมีที่ดินเปล่าตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ชลบุรี อีก 40 ไร่ แว่วๆว่ากำลังเตรียมสร้างโรงงานแห่งใหม่เพิ่มอีก
⭐“กลุ่มลูกค้าหลัก” ของ XO คือผู้นำเข้า ผู้ค้าส่ง และผู้จัดจำหน่ายในต่างประเทศ (เช่นซื้อไปเข้าชั้นวางในห้างหรือร้านสะดวกซื้อ และขายให้ผู้บริโภครายย่อยอีกต่อหนึ่ง)
⭐“กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย” ของ XO คือชาวต่างชาติที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยและชอบอาหารไทย หรือไม่เคยมาเลยแต่อยากทดลองทานอาหารไทย ประเด็นสำคัญคือ “การเจาะกลุ่มลูกค้าที่เน้นคุณภาพสินค้า มากกว่าราคา” (กล่าวคือราคาแพงไม่ว่า ถ้าของดีจริงก็จะซื้อ)
⭐XO ไม่มีสำนักงานสาขาในต่างประเทศเลย แต่ใช้วิธีว่าจ้างตัวแทนหรือนายหน้า เพื่อทำหน้าที่ประสานงานด้านต่างๆ
⭐XO ผลิตสินค้าทั้งหมดตามคำสั่งซื้อของลูกค้า และมีนโยบายส่งมอบสินค้าภายใน 6 สัปดาห์ หลังจากยืนยันคำสั่งซื้อ
⭐XO จัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตจากภายในประเทศไทยเป็นหลักมากกว่า 93% ซื้อจากทั้งรายใหญ่และรายย่อยกว่า 100 ราย แต่มีรายใหญ่อยู่ 2 รายที่มีมูลค่าการจัดซื้อวัตถุดิบรวมกันมากกว่า 20% คือพริกบดดอง 11% และน้ำเชื่อมซูโครส น้ำตาลทราย อีก 11%
⭐โครงสร้างค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนคร่าวๆ
🔹บรรจุภัณฑ์ : 32%
🔹พริก : 23%
🔹น้ำตาล : 10%
🔹กระเทียม : 5%
🔹อื่นๆ : 30%
🚻ผู้ถือหุ้นใหญ่
👤ครอบครัวจันทรัช (เจ้าของ ผู้ก่อตั้ง ผู้บริหาร) ถือหุ้นรวมกันประมาณ 60%
👤กองทุน และต่างชาติ ประมาณ 12%
👤นักลงทุนส่วนบุคคลพอร์ตใหญ่ประมาณ 4-5 คน รวมกันไม่เกิน 4%
⭐กลยุทธ์ แผนการในอนาคตจากผู้บริหาร
🔹ในปี 2024 นี้ ผู้บริหารตั้งเป้าหมายด้านยอดขายเติบโตมากกว่า 20% จากปีที่แล้ว สืบเนื่องจากคำสั่งซื้อที่มีเข้ามายังแข็งแกร่ง มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ และบริษัทไปออกงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี
🔹เพิ่มไลน์การผลิตอีก 1 ไลน์ ณ โรงงานเดิมในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ใช้งบลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 4/2024 ซึ่งจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี
🔹มีเป้าหมายเป็นเบอร์ 1 ของซอสพริกศรีราชาโลก ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ (พูดง่ายๆก็คือต้องเอาชนะแบรนด์ Huy Fong ให้ได้นั่นเอง)
⭐ภาพรวมอุตสาหกรรม มูลค่าตลาด ปัจจัยการเติบโต และแนวโน้มสำคัญ
🔹ตลาดส่งออกเครื่องปรุงรสหลักๆของประเทศไทย 5 อันดับแรกคือ อเมริกา ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ตามลำดับ อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากภาครัฐซึ่งมีเป้าหมายให้ไทยเป็นประเทศ Top 5 สำหรับผู้ส่งออกสินค้าอาหารภายในปี 2036
🔹ผู้บริหารของ XO คิดว่าพวกเขาไม่มีคู่แข่งภายในประเทศโดยตรง เพราะบริษัทในประเทศไทยส่วนใหญ่ผลิตสินค้าไม่หลากหลาย และมุ่งเน้นรสชาติดั้งเดิมของเครื่องปรุงรสไทย ในขณะที่ XO มุ่งเน้นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ พัฒนารสชาติให้เหมาะสมกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ
🔹แน่นอนว่าคู่แข่งสำคัญของ XO ในต่างประเทศคือ อเมริกา เวียดนาม จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งซอสพริกและน้ำจิ้มไก่ ‘Huy Fong’ จากอเมริกา และ Cholimex, Amoy, Diamond รวมถึง Lee Kum Kee จากเวียดนามและจีน ซึ่ง XO ใช้กลยุทธ์ความเป็นผู้ผลิตจากไทยซึ่งเป็นต้นกำเนิดซอสพริกศรีราชาเพื่อสู้กับอเมริกา และใช้กลยุทธ์ด้านคุณภาพ ความสม่ำเสมอของมาตรฐานการผลิต เพื่อสู้กับจีนที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า
🔹‘Fortune Business Insights’ กล่าวว่าตลาดซอสพริกทั่วโลกจะมีมูลค่ามากถึงเกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2026 คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยเกือบ 7%/ปี ซึ่งตลาดใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ที่ยุโรปและอเมริกาเหมือนเดิม แต่การเติบโตสูงๆจะอยู่ในเอเชีย
🔹ตลาดค้าปลีกซอสพริกในอเมริกามีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งซอสพริกศรีราชากินส่วนแบ่งประมาณ 10% ส่วนเจ้าตลาดซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในอเมริกาคือ Tabasco และ Habanero นั่นเอง
🔹ซอสพริกศรีราชาซึ่งขายดีที่สุดในอเมริกาคือแบรนด์ ‘Huy Fong’ ชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน
⭐ความเสี่ยงที่ควรรู้ หากอยากลงทุนในหุ้น XO
🔺ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เหตุเพราะรายได้ของบริษัทเกือบทั้งหมดคือการส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งบริษัทกำหนดราคาสินค้าเป็นสกุลเงินดังนี้ (ข้อมูล ณ ปี 2023)
เงินบาท : 54%
เงินดอลลาร์สหรัฐ : 41%
เงินยูโร : 4%
(ส่วนการสั่งซื้อวัตถุดิบนั้นชำระด้วยเงินบาทเป็นหลัก มีบางส่วนเป็นดอลลาร์สหรัฐ)
🔺ความเสี่ยงด้านการจัดหาวัตถุดิบ เพราะวัตถุดิบส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ฤดูกาล อาจเกิดภาวะขาดแคลนในอนาคต ซึ่งวัตถุดิบหลักในการผลิตคือ พริกและน้ำตาล คิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อวัตถุดิบสำหรับการผลิต
🔺ความเสี่ยงด้านการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ XO พึ่งพิงผู้นำเข้ารายใหญ่ในทวีปยุโรปเพียง 2 ราย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของยอดขายทั้งหมด และมีรายได้จากยุโรปเป็นหลัก มากถึง 60-80% จากยอดขาย
⭐ “ข้อมูลเพิ่มเติมจากตลาดหลักทรัพย์”
♻ หุ้น XO ในตลาดหลักทรัพย์ไทย (MAI) จัดอยู่ในหมวด “เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร”
💰P/E เฉลี่ยอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในตลาดหุ้นไทย (SET) = 18-19 เท่า
💰P/E เฉลี่ยของ XO (5 ปีย้อนหลัง) = 16 เท่า
💰P/E ณ ปัจจุบัน = 11 เท่า
💰รายได้รวมเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 1,700 ล้านบาท
💰กำไรสุทธิเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง = 500 ล้านบาท
📌ล่าสุดผู้บริหาร XO กล่าวอย่างขึงขังว่า “สิ่งที่เราอยากทำคือเอาคำว่า “ซอสพริกศรีราชา” กลับมาเป็นของคนไทย เพราะจริงๆ แล้วศรีราชาคือซอสพริกของประเทศไทย ไม่ใช่ซอสพริกของคนเวียดนาม และภาษาเวียดนามไม่มีคำว่าศรีราชา ในอเมริกาเองก็ไม่มีรัฐไหนที่เรียกว่าศรีราชา” แล้วเราลองมาจับตาดูกันนะครับว่าในอนาคตพวกเขาจะทำได้หรือเปล่า?
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา