11 ก.พ. เวลา 03:39

ปั้นแป้ง...แก้คุณไสย ในชุมชนชาวจีน ตอน 2

ต่อจากตอนที่แล้ว
ซิงแซจัดการห่อผ้าที่มีก้อนแป้งและเส้นผมนั้นไว้ ระหว่างที่คนในบ้านช่วยกันจัดข้าวของให้เข้าที่ น้องบุญธรรมของเตี่ยซึ่งไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ กระซิบกับอาม่าว่า “ยังกับเล่นปาหี่” (เล่นกล) ทุกคนยังคงอึ้ง ๆ กับสิ่งที่เห็น
ซิงแซบอกให้เตี่ยขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง บรรดาลูกๆ ได้ยินก็เตรียมตัวเข้าหามเตี่ยขึ้นไปอย่างเคย แม้ซิงแซจะบอกว่าไม่จำเป็น.."หายแล้ว เดินเองได้แล้ว" ลูกหลานก็ยังไม่วางใจคอยระวังอยู่ข้าง ๆ
แล้วก็เห็นว่าเตี่ยสามารถเดินขึ้นบันไดเองได้จริง ๆ ท่วงท่าเดินเหินเป็นไปอย่างปกติ อาการเจ็บปวดจนตัวสั่นตัวงอที่เพิ่งเห็นอยู่ก่อนการรักษา หายไปเป็นปลิดทิ้งเหมือนไม่เคยเป็นมาก่อน จะพอหลงเหลือก็แค่ความอ่อนเพลียเนื่องจากกินไม่ได้นอนไม่หลับในช่วงเวลาที่ป่วยเท่านั้น
ซิงแซบอกสาเหตุของอาการปวดขาของเตี่ยเพียงว่า ครั้งนี้เป็นเพราะเตี่ยโชคร้าย “ถูกของที่คนมีวิชาปล่อยมา” แต่โชคดีที่รักษาได้ทันเวลา เพราะถ้าเกิน 7 วัน ของจะกระจายไปทั่วตัว ซึ่งทำให้ยากต่อการรักษา และอาจถึงแก่ชีวิตอย่างที่อาเหล่าเจ็กบอกไว้
เล่าถึงตอนนี้ อาม่าบอกหมวยว่า น่าจะตรงกับที่คนไทยเรียกว่า “ลมเพลมพัด” ซึ่งลูกคนจีนแต่เกิดเมืองไทยอย่างอาม่าก็เคยได้ฟังมาเหมือนๆ กับหมวย คือ นานๆ ที หรือมีกำหนดเวลาก็ไม่รู้ คนมีวิชาอาคมก็ต้อง “ปล่อยของ” ที่มีคุณไสยออกมา ไม่งั้นจะเป็นผลร้ายแก่ตัวเอง
“ของ” ที่ปล่อยออกมายังมีคุณไสยร้ายแรงอยู่ แม้จะไม่มีเป้าหมายให้ไปทำร้ายใคร แต่หากมีคนเคราะห์ร้ายไปโดนเข้า ก็จะเกิดอาการหรือเจ็บป่วยแปลก ๆ ต้องไปหาพระหรือผู้มีวิชาอาคมแก้ไข เหมือนเตี่ยของอาม่านี่แหละ
เรื่องทำนองนี้หมวยเองก็ได้ยินได้อ่านมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่รู้แน่ชัดว่า ทำไมพวกผู้มีอาคมต้อง “ปล่อยของ” ออกไป มีกำหนดเวลาหรือเหตุผลใดจึงไม่เก็บเอาไว้
ตอนต่อไป ติดตามการจัดการกับ "ของ" ที่ซิงแซเก็บไว้
โฆษณา