19 ม.ค. 2020 เวลา 02:59
ความลับเรื่องสุขภาพ4
สุขภาพดีทำได้ทุกวัย
การแก้ปัญหาสุขภาพคล้ายคลึงกับการแก้ปัญหาโลกร้อน ทุกคนรับรู้ปัญหาหมดแล้วว่าเกี่ยวกับพลังงาน แต่กลับไม่ค่อยทำอะไรอย่างเต็มกำลัง เพื่อรองรับวิกฤตการณ์ เพราะปัญหาที่ต้องจัดการ มีข้อจำกัดเยอะ กระทบทั้งผลประโยชน์ มีทั้งความจำเป็นที่ยังต้องใช้ และความสะดวกที่เคยชิน
การแก้ที่ได้ผลต้องทุ่มเทเวลา ต้องแก้อย่างจริงจังและมีทางเลือกใหม่สำหรับสิ่งที่ยังจำเป็น ทั้ง2ปัญหานี้จะแตกต่างก็เพียง โลกร้อนเกิดจากการกระทำคนทั่วโลกต้องร่วมใจกันแก้ทั้งโลก แต่การแก้สุขภาพขึ้นอยู่ที่ตัวเราคนเดียว
ปัญหาสังคมสูงวัยที่ใกล้เข้ามาร้ายแรงพอๆกับปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เราก็ยังเอาการรักษาเป็นตัวตั้ง จนตามแก้ปัญหาที่เพิ่มขึ้นไม่ทัน ตรงกันข้าม ถ้าเข้าใจวิธีทำงานของร่างกายอย่างครบถ้วนแล้ว ก็จะมองเห็นภาพรวมของการมีสุขภาพดี(ร่างกายที่ปกติ)ได้ชัดมากขึ้น เพราะแท้จริงร่างกายก็คือ ระบบไหลเวียนของพลังงานที่พยายามทำให้มีใช้ได้ไปตลอดชีวิต
พลังงานในร่างกายเป็นระบบที่สมบรูณ์แบบ มีตั้งแต่การเติมพลังงาน(ได้จากอาหาร)ไม่ให้พร่อง แล้วควบคุมการไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะได้ทุกส่วน นอกจากนี้ยังควบคุมการใช้ให้เหมาะกับอวัยวะนั้นโดยอินสุลินและออกซิเจน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดมาจากสมองสั่งการ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการทำงานของอวัยวะทุกระบบ ที่สำคัญยังมีระบบซ่อมตัวเองได้ด้วยหลังการใช้งาน
ถ้าเรายังมองร่างกายแบบแยกส่วนตามอวัยวะ เราจะมองไม่เห็นเป้าหมายสำคัญของการทำงาน เรารักษาหัวใจเพียงเพื่อให้ปั๊มเลือดไปได้ เราก็ต้องตามไปรักษาปอดเพื่อให้เติมออกซิเจนอีก แล้วยังต้องรักษาระดับอินสุลินให้สม่ำเสมอ เพื่อให้การใช้น้ำตาลได้คงที่ ทั้งๆที่ตอนสูงวัยขึ้น ทุกๆอวัยวะที่กล่าวมาแล้วอาจเสื่อมและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงเป็นงานที่เหนื่อยมาก ต้องทำไปไม่รู้จบ
แต่ถ้าเรามองร่างกายเป็นระบบพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ การทำให้ระบบนี้ไหลเวียนได้โดยไม่ติดขัด ก็จะได้สุขภาพที่ดีกลับคืนมาแล้ว หลายคนคงแย้งทันทีว่า ก็ที่เราไปรักษาหัวใจหรือปอด ก็เพื่อให้พลังงานไหลเวียนได้ไม่ใช่หรือ? ซึ่งก็ถูก แต่ระดับการแก้ของคุณเป็นระดับทำงานซึ่งเป็นวงจรพลังงานขั้นที่2 จึงต้องตามแก้ไปทีละอวัยวะต่อไปเรื่อย และกลับมาเสียอีกได้เสมอ
ความลับเรื่องสุขภาพในตอนที่แล้ว บอกให้รู้ว่าถ้าแบ่งร่างกายตามการสั่งงาน (ฟิสิกส์) มีเพียง2แบบ คือระบบกระดูกที่ควบคุมได้ กับระบบอวัยวะที่เหลือซึ่งคุมไม่ได้ แล้วก็ไปยุ่งไม่ได้ด้วยเพราะทำให้ระบบรวนได้ เราจึงต้องหันมาสนใจระบบกระดูกให้มากขึ้นกว่าเดิม ทำทุกอย่างเพื่อให้กระดูกไม่เสื่อม จึงต้องเข้าใจทุกแรงที่เกิดในร่างกายเราก่อน (พูดไปแล้วในบทแรก) ต้องเรียนรู้วิธีควบคุมทุกแรงนี้ ไม่ให้ทำร้ายกระดูกของเรา
ด้วยการรู้ว่าระบบสั่งการทั้ง2แบบนั้น ทำงานผ่านประสาทไขสันหลังเหมือนกัน โดยการสั่งการที่ควบคุมได้ทำงานอยู่ที่ผิว แต่ส่วนที่ควบคุมไม่ได้ เป็นท่อนาโนอยู่ที่แกนกลางในเส้นประสาท ถ้าหากเราดูแลป้องกันที่ผิวให้แข็งแรงปกติได้ แกนกลางที่วิ่งมาพร้อมกันก็จะพลอยดีแข็งแรงไปด้วย สิ่งนี้คือคำอธิบายว่า ทำไมการออกกำลังจึงทำให้สุขภาพของทุกอวัยวะดีขึ้นได้
แล้วด้วยความรู้ว่าร่างกายใช้วิธีซ่อมตัวเองตลอดเวลาควบคู่ไปกับการใช้งาน เราจึงต้องให้เวลาในการป้องกันนานครึ่งหนึ่งของเวลาทั้งวันด้วย เพื่อให้การซ่อมตัวเองมีประสิทธิภาพสูงสุด หรือพูดแบบชาวบ้านก็คือ ใช้ครึ่งพักครึ่งเพื่อให้มีเวลาซ่อมอย่างเต็มที่
ความคิดเรื่องของการทำงานกับการพักของมนุษย์นั้น ไม่ตรงตามความเป็นจริงในธรรมชาติ เพราะมนุษย์เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง อะไรก็ตามที่ทำแล้วเห็นผลงานถือว่าเป็นการทำงาน แต่นั่งๆนอนๆกลับเป็นการพักผ่อน ทั้งๆที่ร่างกายยังทำงานอยู่ แต่เป็นงานภายในร่างกายที่เรามองไม่เห็น
ดังนั้น กับดักความรู้เรื่องสุขภาพลำดับที่3 ก็คือในร่างกายมีการทำงานตลอดเวลา โดยการทำงานด้วยกลไกทางเคมีสำหรับร่างกายนั้นเกิดขึ้นตลอดเวลาพักไม่ได้ และต้องการความสม่ำเสมอมาก มีเพียงงานด้านฟิสิกส์เท่านั้น (ซึ่งอยู่ในระบบสั่งการที่ควบคุมได้) ที่สามารถพักได้ โดยช่วยทำให้แรงกระทำที่เกิดขึ้นลดน้อยลงมากที่สุด กระดูกก็จะเสื่อมช้ามาก
การออกกำลังกาย เป็นการออกแรงมากขึ้นกว่าปกติไม่ใช่หรือ? แล้วทำให้กระดูกแข็งแรงได้อย่างไร? ด้วยความเข้าใจที่แตกต่างกัน ทำให้เราเข้าใจการออกกำลังกายไม่เหมือนกัน คนที่เข้าใจว่า การออกกำลังต้องออกแรงให้มากกว่าปกติเยอะๆ ต้องวิ่งไกลๆ วิ่งเร็วๆ ต้องก้มๆเงยๆยืดเส้นให้มาก สิ่งที่เขาได้ ก็คือความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของข้อต่อ มากกว่าจะได้สุขภาพที่ดีร้อยเปอร์เซนต์ และมีความเสี่ยงว่าถ้าใช้แรงมากเกินไปนานๆ อาจถึงจุดที่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บจากการออกกำลังกายได้
คนที่เข้าใจการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจริงๆ ไม่ต้องใช้แรงมาก แต่เน้นจุดเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อช่วยยืดกระดูกสันหลังให้ตั้งตรงตามธรรมชาติมากที่สุด เป็นการปกป้องระบบคำสั่งทั้ง2แบบที่อยู่ภายในให้ทำงานได้ตามปกติ นี่คือ สุขภาพที่ดี และสำหรับคนป่วยแล้วเช่นเข่าเสื่อม มีโรคหัวใจก็ยังทำได้
กับดักความรู้เรื่องสุขภาพเรื่องที่ 4 คือวิธีการที่ทำให้กระดูกสันหลังยืดตรง นั้นทำได้อย่างไร? ซึ่งความจริงแล้ว คนที่อ่านเพจนี้มาตั้งแต่ต้น คงจะพอทราบแนวทางบ้างแล้ว แต่จะสรุปให้เข้าใจจริงๆอีกครั้งในคราวหน้า จะได้นำไปใช้ได้จริงๆ สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านมาก่อน ลองไปหาวิธีทำดู แล้วจะรู้ว่ากับดักความรู้(ที่เป็นเรื่องเราไม่รู้ว่ายังไม่รู้)นั้นยากแค่ไหน เพราะคนที่รู้กับคนที่ทำได้จริงนั้น ย่อมได้ผลลัพธ์จากสุขภาพดีไม่เหมือนกัน จนท้ายสุดคนที่รู้แต่ทำไม่ได้มักจะสรุปว่า รู้ไปก็เท่านั้นไม่เห็นมีประโยชน์เลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา