24 มิ.ย. 2020 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
ยอดทหารตัวจริง! 'เลโอ เมเจอร์' ผู้ปลดปล่อยเมืองจากนาซีและจับเชลยศึกนับร้อยด้วยตัวคนเดียว
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
เลโอ เมเจอร์(Léo Major) เกิดเมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ. 1921 เป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส-แคนาดา อาศัยอยู่ที่มอนทรีออล ประเทศแคนาคา เลโอมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักกับพ่อของตัวเองทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่กับญาติ และเมื่อปี ค.ศ. 1940 เลโอจึงได้เข้าร่วมในกองทัพแคนาดาโดยหวังว่านี่จะเป็นวิธีที่ทำให้พ่อเขาภาคภูมิใจในตัวเขาและได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของการเป็นยอดทหารเกิดขึ้นในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944 ณ ยุทธการที่แม่น้ำสเกลต์ ปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยกองทัพแคนาดาเพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือไปส่งเสบียงสู่ยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือหรือที่เรารู้จักกันในนาม วัน D-Day
WIKIPEDIA PD
เลโอ เมเจอร์ได้รับหน้าที่เป็นแนวหน้าในการสังเกตุการณ์และระหว่างปฏิบัติหน้าที่นั้นเขาได้เข้าไปสำรวจยังพื้นที่ของนาซีและถูกพบโดยทหารเยอรมันจนเกิดการยิงต่อสู้กัน เขาสังหารทหารเยอรมันไปได้สี่ราย แต่โชคร้ายที่เขาถูกระเบิดทำให้ดวงตาข้างซ้ายนั้นบอดสนิท แต่อุปสรรคนี้ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ เขายืนยันที่จะรับใช้ชาติต่อไปแม้จะต้องสวมผ้าปิดตาตลอดเวลาก็ตาม
สุดยอดภารกิจแรกของเลโอ เมเจอร์เกิดขึ้นในปฏิบัติการที่ออกตามหาทหารที่หายไประหว่างลาดตระเวน แทนที่จะได้พบกับเพื่อนทหารด้วยกันเขากลับพบทหารนาซีนอนหลับอยู่ในหลุมเพลาะ เขาจึงได้จับนายทหารระดับสูงของนาซีเป็นเชลยและสั่งให้ทหารนาซีที่เหลือตามเขากลับค่ายไป ทหารส่วนใหญ่ยินยอมทำตามแต่ก็มีบางส่วนที่ขัดขืน เลโอจึงต้องสังหารนายทหารที่ขัดขืนเหล่านั้นจึงทำให้ไม่มีใครกล้าขัดขืนยอมทำตามคำสั่งอย่างโดยดี เบ็ดเสร็จทั้งหมดเลโอสามารถจับทหารนาซีได้ถึง 93 คนด้วยตัวคนเดียว วีรกรรมนี้ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้ารับเหรียญ “Distinguished Conduct Medal” แต่เขาได้ปฏิเสธไป
หนึ่งปีต่อมาเลโอ เมเจอร์ได้ไปประจำการใกล้กับ เมืองซโวลเลอ (Zwolle) ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับภารกิจเข้าไปสำรวจเมืองพร้อมกับ วิลลี อาร์เซนอลต์ (Willie Arseneault) โชคไม่เข้าข้างวิลลีถูกพบโดยทหารนาซีและถูกฆ่าตาย แม้จะเหลือเขาเพียงคนเดียวก็ไม่ทำให้เขายอมจำนน เขาต่อสู้และสังหารทหารนาซีได้สองนาย พร้อมกับโจมตีและยึดรถบรรทุกของนาซี จับคนขับเป็นตัวประกันบังคับให้พาไปยังบาร์ที่มีทหารเยอรมันอยู่พร้อมกับพูดคุยเจรจาให้ถอนกำลังจากเมืองนี้เพราะเมืองกำลังจะโดนถล่มใน 6 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น
WIKIPEDIA CC JMAJOR
เพียงแค่คำบอกเล่าของทหารเพียงคนเดียวคงไม่เพียงพอที่จะทำให้นาซียอมถอนกำลังออกไปจากเมืองได้ เขาจึงได้ออกตระเวนไปก่อจลาจลเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าเมืองนี้กำลังจะโดนถล่มจริงๆ เขาได้ทำการเผาอาคารของนาซี ตระเวนจับทหารนาซีกลับไปส่งให้กองทัพและกลับมาโจมตีเมืองใหม่อยู่ตลอดคืน
สุดท้ายแล้วนาซีก็ถอนกำลังออกจากเมืองจริงๆ ตั้งแต่ตอนตีสีครึ่ง ก่อนเวลาที่เลโอได้หลอกนายทหารเยอรมันไป นับว่าเมืองซโวลเลอถูกปลดปล่อยเพราะเขาจริงๆ
WIKIPEDIA PD
ด้วยวีรกรรมอันโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์เขาถูกเสนอชื่อให้รับเหรียญ “Distinguished Conduct Medal” อีกครั้ง เลโอ เมเจอร์ตัดสินใจรับเหรียญนี้ไว้และกลับไปใช้ชีวิตในฐานะพลเรือน
แต่เมื่อสงครามเกาหลีได้เริ่มต้นขึ้น เขาได้กลับมาเข้าร่วมกองทัพแคนาดาอีกครั้งและปฏิบัติภารกิจป้องกันจุดยุทธศาสตร์ให้อยู่ในการควบคุมของ NATO ให้ได้ แม้จะต้องทำการต่อสู้กับกองกำลังคอมมิวนิสต์เป็นเวลาหลายวันติดต่อกันเขาก็ไม่ยอมถอนกำลังออกมา กลับปักหลักสู้จนสามารถรักษาพื้นที่เอาไว้ได้
WIKIPEDIA PD
และจากความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะข้าศึกให้ได้ส่งผลให้เขาได้รับการเสนอชื่อให้รับเหรียญ “Distinguished Conduct Medal” เป็นครั้งที่สาม เมื่อเขาตกลงรับเหรียญนี้ทำให้เขาเป็นทหารแคนาดาที่ได้เหรียญนี้ 2 ชิ้นจากสงครามที่ต่างกัน
เมื่อสิ้นสงครามเลโอ เมเจอร์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบและเสียชีวิตในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ด้วยวัย 87 ปี
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
โฆษณา