1 ส.ค. 2020 เวลา 22:55 • ไลฟ์สไตล์
ประสบการณ์ในอดีต (ต่อจากเมื่อวาน)
นี่คือฉันผู้ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด
คำเตือน..เหมือนบทความเมื่อวานถ้าอ่านแล้วอยากข้าม ข้ามได้เลยนะครับ เพราะเป็นความติสท์ส่วนตัวอีก 1 วัน
สมัยแรกทำงานผมจะเป็นคนที่ยังไม่สามารถบริหารงาน บริหารเวลาได้ดี ทำให้ในแต่ละวันต้องอยู่ที่ทำงานจนดึกมากและส่วนใหญ่ก็จะกลับเป็นคนสุดท้าย (เป็นคนที่ต้องปิดสำนักงาน) ซึ่งต่างจากในปัจจุบันที่ผมกลับบ้านได้ตามตารางเวลาทำงาน เพื่อมีเวลาไปทำในเรื่องอื่นๆ ในบริบทชีวิตที่แตกต่าง
สมัยนั้นมีคนถามว่าทำงานในองค์กรดึกๆ กลัวสิ่งที่มองไม่เห็นไหม คำพูดที่ติดปากสมัยนั้นคือ
"ในแต่ละองค์กรมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในองค์กรนับถือและมาขอพรกัน ถ้าเกิดว่าผมทำงานจนดึกแล้วเกิดมีสิ่งอะไรที่ไม่ดีมาหลอกหลอนผม ผมจะงอล น้อยใจ Q(-__-")Q และจะขอลาออกจากที่นี้เพราะผมทำเพื่อองค์กรขนาดนี้ ถ้าไม่ช่วยกันปล่อยให้มาหลอกหลอนกันก็คงมาทำงานด้วยกันไม่ได้บลาๆ"
ซึ่งผมทำงานมาเป็น 10 ปี ก็ไม่เจอเรื่องอะไรแปลกๆ หรือมีโดนหลอกหลอนอะไรตอนดึกนะครับ และไม่เคยขอพรหรือบนอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในองค์กรนับถือ
แต่จริงๆ ชีวิตผมมีเหตุการณ์ที่อยากให้เรื่องไม่สบายใจจากความผิดพลาดที่ผ่านไปด้วยตัวเองไม่ได้แล้วขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือให้ได้ผลแบบทานอสดีดนิ้วแล้วกลับไปแก้ไขเริ่มใหม่ได้
มันเป็นเรื่องที่ไม่สบายใจมากๆ และถึงจะมีประสบการณ์ในหลายๆ เรื่องมากมาย แต่ครั้งนี้ทฤษฎีมากมาย พอมาเจอกับตัวเองกลับผ่านไปไม่ได้จริงๆ (ทฤษฏีท่วมหัวแต่ปฏิบัติไม่สำเร็จ)
กลายเป็นจากทุกวันที่ได้ไหว้สวัสดีกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขององค์กรที่ทุกคนนับถือ
ครั้งนี้ผมขอพรครับ (ครั้งแรกตั้งแต่ทำงาน)
เมื่อขอพรครั้งแรกมันทำให้ใจผมพองตัว ความคิดมุมมองด้านบวก พลังการคิดบวกมากมายกลับมาว่าสิ่งที่ผมต้องการตามผลลัพธ์นั้นจะเป็นไปได้ดั่งใจทั้งหมด
แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้าม ในวันที่ยังไม่สามารถยอมรับความจริงได้ ความจริงก็คือความจริงผลลัพธ์จากการขอพรไม่ช่วยอะไร....Q(--__--")Q...แต่ก็ทำให้ฉุดคิดอะไรมากขึ้น
ผมเลยกลับมาขอพรใหม่อีกครั้งว่า
....ขอบคุณครับผมเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านถึงไม่ช่วยให้ผมสมใจได้ดังหวังตามที่ใจต้องการทั้งหมด....เพราะชีวิตเองบางอย่างสิ่งที่ต้องการเพื่อความสุขความปรารถนาของตัวเองอาจทำให้คนรอบข้าง คนที่เกี่ยวข้องเดือดร้อน ไม่มีความสุข...
แม้ผลลัพธ์จะไม่ได้ดั่งใจบวกกับผมเองชีวิตก็มีผิดพลาดเรื่อยๆ และถึงผมจะใช้โอกาสเปลือง แต่ในบางเรื่องผมขอโอกาสใหม่เปลืองๆ อีกครั้งได้ไหมครับ ให้ได้แก้ตัวในรูปแบบใหม่บนเจตนาดีและผลลัพธ์ที่ต้องการที่เปลี่ยนมุมมองไป
สุดท้ายผมโชคดีได้โอกาสใหม่เสมอ และผ่านช่วงเวลานั้นมาได้
สิ่งที่ผมเรียนรู้ที่ผ่านมาเป็นบริบทสไตล์เฉพาะของผมคือ
"ความสำเร็จ ความสุข ความต้องการที่แท้จริง ต้องไม่เอาเปรียบ เบียดเบียนคนรอบข้างให้เสียประโยชน์ ให้เป็นทุกข์ แต่ถ้าในแต่ละวันอยากทำอะไรที่ตัวเราเองมีความสุข แล้วไม่เบียดเบียนใคร ก็อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเราเองรู้สึกว่ามันคุ้มค่า"
รวมถึงเดิมผมเชื่อว่า... ผมมีความฝันในบางเรื่องที่ตลอดชีวิตนี้จะไม่สำเร็จ....
แต่ผมคิดแบบนั้นไม่ได้เพราะบางอย่างคำว่าสำเร็จของผมคือเป็นคำว่ายั่งยืนในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อผมมาสังเกต และลองพิจารณาดีๆ ทุกความฝันของผมจริงๆ ในช่วงเวลานึง เช่น 1-2 เดือน หรือเพียง 1 วัน
จาก Ego และความติสท์ของผม ผมได้รับโอกาสให้ความฝันผมเป็นจริงแล้ว....บางเรื่องความฝันผมเป็นจริงแล้วตั้ง 1 วัน...มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสวยงามในตัวของมันแล้ว
ขอบคุณโอกาสที่เข้ามาใหม่ในชีวิตที่ผิดพลาดมากมายของผม ให้ผมได้ทำทุกความฝันให้สำเร็จ และเรียนรู้การใช้ชีวิตตามบริบทของเพจนี้ที่เขียนไว้ว่า
นี้คือ "ฉัน" ผู้ที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตในมุมที่อยากแบ่งปัน ผู้ที่เชื่อว่าในอนาคตก็จะเจอเรื่องผิดพลาด และยังเป็นผู้ที่เชื่อว่าจะเป็น "คนดี" ขึ้นกว่า "คนในอดีต" ที่ผ่านมา
หมายเหตุ
อีกไม่กี่ตอนโปรเจคนี้ก็จะบรรลุอีก 1 ความฝันของผมเช่นกัน ขอบคุณโอกาสที่จุดประกายให้ผมอยากลองมาเขียนบทความใน BD ขอบคุณโลกกลมๆ ที่ทำให้คนเลิกเล่นโซเชี่ยลมีเดียกลับมาเล่น BD ขอบคุณคนรอบข้างที่สนับสนุนให้กำลังใจตลอดเวลา ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านเข้ามาให้กำลังใจ เข้ามาเสนอมุมมองแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ
ทุกท่านช่วยเข้ามาเติมเต็มความฝันของผมในช่วงชีวิตนี้ในรูปแบบใหม่ การได้เข้ามาเขียนบทความในทุกวันช่วยขัดเกลาความคิด ช่วยขัดเกลาอารมณ์ ช่วยให้ผมเข้าใจตัวเอง เข้าใจคนรอบข้าง เข้าใจธรรมชาติความเป็นจริง และเข้าใจความสุขในนิยามเฉพาะตัวของผมมากขึ้น
ไม่ได้มาเกริ่นเพื่อจากลา ตามคำที่กล่าวบ่อยๆ ว่า "พบเพื่อจาก" นะครับ ครั้งนี้ยังไม่จาก
ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้โดยไม่ข้ามไปอ่านบทความคนอื่นได้.....ก็.......ติดตามกันจนครบ 100 บทความ Q(^^)Q.....หลังจากนี้ก็จะเขียนต่อเรื่อยๆ สม่ำเสมอครับ.. แต่ไม่แน่ใจว่าทุกวันได้ไหม (เพราะมีแรงบันดาลใจจากหลายๆ เพจที่เขียนสม่ำเสมอในทุกๆ วัน ผมมองว่าการเขียนไปเรื่อยๆ วันนึงถ้าผมไม่ได้อยู่ในโลกนี้ น่าจะดึงหลายๆ บทความไปประกอบในหนังสืองานศพได้...ถ้าคนติดตามเพจผมแต่แรกจะเข้าใจความหมายตรงนี้...ว่าชีวิตตอนที่จากโลกนี้ไป คนกล่าวถึงตัวเราในงานศพอาจพูดทั้งชีวิตเราได้ในคำกล่าวไม่ถึง 5 นาที และเราอยากฝากอะไรไว้บ้าง...) และไม่แน่ใจว่าจะสามารถแบ่งปันสาระหรือประโยชน์อะไรได้เท่าไหร่ หากไม่รังเกียจก็เข้ามาติดตามกันต่อไป เพราะผมก็มองว่าการเขียนบทความอย่างสม่ำเสมอก็เป็นการท้าทายวินัยตัวเองดี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา