Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
InfoStory
•
ติดตาม
28 ก.ย. 2021 เวลา 01:05 • ประวัติศาสตร์
รู้จัก "สโคน (Scone)" ขนมอบคู่ชายามบ่ายยอดนิยม สไตล์อังกฤษ
ถ้าพูดถึงหนึ่งในความฟินของการทานชุดชายามบ่าย (Afternoon Tea) ของพวกเรา
ก็คงชวนให้นึกภาพของการจิบชาร้อน ๆ คู่กับขนมอบอย่าง สโคน (Scone) พร้อมปาดครีมและแยมทานเคียงคู่กัน
ว่าแต่ เจ้าขนมก้อนกลมที่ดูไม่ค่อยจะกลมเรียบสวยงาม แต่มีความอร่อยนี่ คืออะไรนะ ?
แล้วมีวิธีการทานอย่างไรนะ ?
วันนี้ให้พวกเรา InfoStory พาเพื่อน ๆ ไปรู้จักสโคน (Scone) กับภาพอินโฟกราฟิกสุดสบายตา(หรือชวนหิว) กันดีกว่า !
สำหรับเรื่องราวเพิ่มเติม ขอเชิญเพื่อน ๆ อ่านกันทางนี้ได้เลยจ้า
เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ?
“สโคน (Scone)” เป็นชื่อเรียกแบบของชาวอังกฤษ สำหรับเจ้าขนมก้อนกลมดูไม่สมมาตรชิ้นนี้
ในขณะที่ชาวอเมริกันจะนิยมเรียกสโคนว่า "Biscuit" แทน หรือ บางที่อาจมีการดัดแปลงให้ขนมสโคนมีลักษณะทรงเป็นคล้ายพายทรงสามเหลี่ยมอาจสอดใส้ด้วยผลไม้แห้ง รสชาติหนักไปทางหวาน ก็จะเรียกว่า “American Scone”
American Scone ในแบบสามเหลี่ยมทรงพาย
แต่ก็ไม่เชิงว่าจะต้องเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมซะทีเดียวนะ
เพียงแต่ American Scone จะมีลักษณะคล้ายกับความหมายของ Biscuit ในความเข้าใจของชาวอเมริกันเสียมากกว่า ที่จะมีความกรอบมีการใส่ Baking Soda ลงไป
ซึ่งเราสามารถแยกความแตกต่างของทั้ง 2 อย่างจากภาพด้านล่างนี้ได้
http://theteacupoflife.com/
แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้คนทั่วโลกจะเรียกเจ้าขนมชิ้นนี้ว่า “สโคน (Scone)” เสียมากกว่า
เรื่องราวนี้ ก็คงต้องอ้างอิงถึงความเชื่อในเรื่องต้นกำเนิดของ สโคนจากหมู่เกาะอังกฤษ
หากพูดถึงชื่อของ “สโคน (Scone)” เราก็คงอดไม่ได้ที่จะนึกถึงประเทศอังกฤษเนอะ
แต่แท้จริงแล้ว ขนมอบชนิดนี้ว่ากันว่าอาจไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ
แต่กำเนิดจากประเทศสกอตแลนด์ ในปี ค.ศ.1513 ตะหากละ...
เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อชาวสกอตแลนด์ได้อบขนมขึ้นมาให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับหินที่กษัตริย์ของตน ที่ได้ประทับรับการปราบดาภิเษก ลงบน หินแห่งชะตา (Stone of Destiny) ที่มักเรียกกันในประเทศอังกฤษว่า "หินราชาภิเษก"
เพื่อให้ใกล้มามากขึ้น เพื่อน ๆ บางคนอาจจะคุ้นในชื่อของ "หินแห่งสโคน (Stone of Scone)" ซึ่งว่ากันว่าชื่อของขนมชิ้นนี้ ได้ที่ตั้งชื่อตามกษัตริย์ของชาวสกอตแลนด์ อีกด้วยเช่นกัน
Stone of Scone (ว่าแต่มันเหมือนกับขนมสโคนยังไงนะ... อาจจะด้วยความขรุขระ)
โดยแรกเริ่มเดิมทีขนมชิ้นนี้ ได้ถูกเข้าใจว่ามีลักษณะคล้ายกับขนมบานน็อค (Bannock) ซึ่งเป็นขนมปังที่ทมาจากแป้งข้าวโอ้ตบด แผ่นบางแบนทรงกลม แต่มีเนื้อแน่น
ซึ่งลักษณะของสโคนแบบดั้งเดิมของชาวสกอตแลนด์ก็อาจจะไม่ได้มีหน้าตาที่เหมือนกับเวอร์ชั่นปัจจุบันเท่าไรนัก เพราะเรื่องราวของเจ้าขนมสโคนชิ้นนี้ ได้ถูกพัฒนาต่อมาโดยชาวชาวเวลส์ (Welsh) ให้มีขนาดที่เล็กและกลม ตัดทานง่าย หน้าตาเหมือนกับปัจจุบันที่เราหารับประทานกันได้ทั่วไป
ขนม Bannock ของชาวสกอตแลนด์
Welshe Scone หรือ Welshe Cake
แต่ชื่อเสียงของสโคน ไม่ได้โด่งดังเพราะชาวเวลส์หรอกนะ
ว่ากันว่า สโคนเริ่มนิยมทานพร้อมมื้อชายามบ่าย (Afternoon Tea) ในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่เริ่มโดย “แอนนา มาเรีย (Duchess of Bedford)” ได้เริ่มการจิบชายามบ่ายคู่กับขนมหวานและของว่าง เพื่อประทังความหิว แน่นอนว่าหนึ่งในขนมที่เธอเลือกให้มาอยู่ในสำรับ ก็คือ “สโคน (Scone)” นั่นเองจ้า
เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ชื่อเรียกของสโคน หรือ “Scone” ก็ยังมีการถกเถียงในเรื่องของคำอ่านอีกด้วยนะ
เพราะจริง ๆ แล้ว ชื่อคำอ่านของคำว่า Scone อาจไม่ได้อ่านว่าสโคน
แต่อ่านว่า “สคอน” หรือ "สกอน"
เนื่องมาจากความเชื่อที่ว่ากันว่าก็มาจากชื่อดั้งเดิมของชาวสกอตแลนด์ได้เขียนไว้ว่า “Skon” หรือ “Skoan”
ซึ่งหากอ้างอิงถึงการเรียกชื่อ Scone เนี่ย
มีผลสำรวจที่น่าสนใจของบริษัท YouGov พบว่ามากถึง 51% ของชาวอังกฤษในกลุ่มสำรวจ ได้ใช้คำอ่านว่า “สกอน”
(เพิ่มเติม : แต่ก็มีการเถียงว่า เจ้าแบบสำรวจอันนี้ไปสำรวจที่ภูมิลำเนาไหน ? สำรวจกับกลุ่มชนนั้นไหน ? เพราะเรื่องราวของสำเนียงอังกฤษ มันก็จะอาจจะเรียกแตกต่างกันออกไปเนอะ)
แต่ว่านะ เรื่องที่มาของชื่อสโคนเนี่ย เถียงอย่างไร..ก็คงไม่จบไม่สิ้นแน่นอน
เพราะมีอีกความเชื่อ ที่ได้บอกว่า จริง ๆ แล้ว ชื่อของ Scone ต้องอ่านว่า “สคูน” เพราะมาจากคำในภาษาดัตช์ “schoonbrot” ตะหากละ
อย่างไรก็ดีนะ มันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของชื่อเรียกของ Scone ที่มีความหลากหลายของต้นกำเนิด
แต่ว่า เรื่องราวของต้นกำเนิดของขนมชนิดนี้เอง ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เลยละ
เพราะเอาเข้าจริง ๆ Scone ก็ดันเป็นขนมที่ไม่มีต้นกำเนิดบันทึกไว้อย่างแน่ชัด มีเพียงแต่ความนิยมที่สืบทอดกันมาของชาวอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และ ไอร์แลนด์
แต่ปัจจุบันเขาก็ไม่ได้มีการเถียงอะไรจริงจังแล้ว เพราะมันก็เป็นของกินที่ทั่วไปมากเลย จนไม่มีใครอยากไปนั่งคิดให้ปวดหัว
เพียงแต่หากมีใครกล่าวอ้างถึงที่มาจากไหนก็ตาม ก็คงจะมีการขัดแย้งทางเรื่องต้นกำเนิดให้เห็นกันโดยทั่วไป
ถ้าหยั่งงั้น...พวกเราขออนุญาตจบเรื่องราววุ่น ๆ ของสคอน.. เอ้ยไม่ใช่สิ สคูน !
หรือว่า..สโคน ที่พวกเราคุ้นหูกันไว้ที่ตรงนี้ก่อน 🙂
(ส่วนตัวพวกเราคิดว่าเรียกแบบไหนก็ได้นะ)
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
https://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/532
https://www.thenibble.com/.../breadstuffs/scone-history.asp
http://www.foodreference.com/html/a-scone-history.html
https://www.foodmag.com.au/origins-of-the-scone/
6 บันทึก
1
8
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ผู้คนในแต่ละประเทศ เขาชอบทานอะไรกัน ? (Into the World of International Food)
ส่องโลกของขนม ของหวาน ของทานเล่น (Into the World of Sweets)
6
1
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย